Sex ต้อง Safe เซฟแบบไหนให้ปลอดภัย ห่างไกลโรค
เรื่อง Sex ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เพราะมันคือเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน แต่ที่สำคัญเราต้องรู้จัก Safe Sex การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย เพราะนอกจากจะช่วยให้เราสบายใจแล้วยังช่วยป้องกันโรคติดต่อที่ตามมาอีกด้วย และโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์บางโรคสามารถรักษาให้หายได้ แต่สำหรับบางโรคผู้ป่วยอาจต้องกินยาไปตลอดชีวิต ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย จึงเป็นเรื่องพื้นฐานที่ไม่ควรละเลยสำหรับทุกคน
แล้ว safe sex ที่ว่าเนี่ย มันคืออะไร และปลอดภัยจริงไหม วันนี้เรามีคำตอบ
safe sex คืออะไร
safe sex คือ การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ถือว่ามีความสำคัญอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ เนื่องจากช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมอีกด้วย
สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้เสมอว่าการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยไม่ได้เพียงแค่ป้องกันร่างกายของเราเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการรับผิดชอบต่อสุขภาพทางเพศของตัวเราเองและสุขภาพของคู่นอนเราด้วย
safe sex มีแบบไหนบ้าง
1.ตรวจเลือดก่อนมี Sex เพื่อความชัวร์!
วิธีการตรวจเลือดคืออันดับต้นๆที่ทุกคนควรจะทำก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ใช่แค่กับคู่นอนของตน แต่ยังรวมไปถึงคนที่มีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ,FWB ,ONS ถึงแม้ว่าเราจะมั่นใจในตัวเองหรือไว้ใจในคู่นอนของเรามากแค่ไหน แต่การตรวจสุขภาพเป็นประจำและการตรวจเลือดก่อนมีเพศสัมพันธ์ก็จะชัวร์และปลอดภัยมากกว่า สามารถตรวจได้ตามโรงพยาบาลทั่วไปได้เลย รอผลตรวจเลือดประมาณ 2-3 ชั่วโมง แถมราคาไม่แพงด้วย
2.Safe Sex ด้วยถุงยางอนามัยสำหรับคุณผู้ชาย
ถุงยางอนามัยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเป็นเกราะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงเอชไอวี เป็น Safe Sex แบบเบสิก ที่ปลอดภัยสูงถึง 98% เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันเราจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้วยังสามารถคุมกำเนิดได้ดีอีกด้วย
ถุงยางทำมาจากอะไร ปลอดภัยแค่ไหน?
หลายๆคนคงตั้งข้อสงสัยว่าแล้วถุงยางทำมาจากอะไร แล้วจะปลอดภัยจริงหรือเปล่า เรามีคำตอบให้ค่ะ โดยทั่วไปแล้วถุงยางอนามัยจะทำจากน้ำยางซึ่งเป็นวัสดุยางธรรมชาติ (Latex) อย่างไรก็ตามยังมีถุงยางอนามัยที่ทำจากวัสดุอย่างโพลียูรีเทน (Polyurethane) หรือโพลีไอโซพรีน (Polyisoprene) อยู่ด้วย
ในเรื่องของความปลอดภัย ถุงยางอนามัยทำมาจากน้ำยางธรรมชาติ ซึ่งปลอดภัย 100% และถุงยางอนามัยจะมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าไม่มีวิธีไหนที่คุมกำเนิดได้ 100% และถุงยางอนามัยอาจแตกหรือหลุดออกได้ในบางครั้งหากใช้ไม่ถูกวิธี ขอแนะนำให้อ่านและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตถุงยางอนามัยเสมอเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ข้อดีของการใช้ถุงยางอนามัย
- สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือการคุมกำเนิดได้
- ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย
- ไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพหรือภาวะแทรกซ้อนด้วย
ข้อควรระวังในการใช้ถุงยาง
- ต้องใช้ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- อาจทำให้เกิดการแพ้สารเคมีในถุงยางได้ และอาจจะมีกรณีที่ถุงยางรั่วหรือแตก(เช็กให้ดีก่อนใช้)
- เช็กวันหมดอายุ รวมถึงเช็กขนาด รอยขาด รอยรั่วด้วยเพื่อความปลอดภัยของเรา
3.Safe Sex ด้วยถุงยางอนามัยสำหรับคุณผู้หญิง
เมื่อพูดถึงเรื่องของการมีเซ็กส์กับคุณผู้หญิง ในยุคปัจจุบัน การที่ผู้หญิงเลือกที่จะพกถุงยางอนามัยหรือใช้ถุงยางอนามัยนั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอีกต่อไป แถมยังเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดในการป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) และการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม การใช้ถุงยางผู้หญิงมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะหลุดเข้าไปในช่องคลอดเช่นกัน
ถุงยางผู้หญิงทำมาจากอะไร?
ถุงยางผู้หญิงทำจากพลาสติกที่เรียกว่าโพลียูรีเทน (Polyurethane) ซึ่งมีขนาดบาง อ่อน นุ่ม มีลักษณะคล้ายกับถุง โดยมีวงแหวน 2 ด้าน ด้านหนึ่งเป็นปลายเปิดและอีกด้านหนึ่งเป็นปลายปิด วงแหวนปลายปิดจะถูกสอดเข้าไปในอวัยวะเพศหญิง และปลายเปิดของถุงยางจะอยู่ที่บริเวณปากอวัยวะเพศ เพื่อให้ถุงยางอนามัยอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและง่ายต่อการถอดทิ้งหลังใช้งาน
ใครใช้ถุงยางผู้หญิงได้บ้าง?
ผู้หญิงทุกคนสามารถใช้ได้ แต่สำหรับคนที่แพ้สารโพลียูรีเทน (Polyurethane) ยางสังเคราะห์ หรืออวัยวะเพศมีความผิดปกติ ใส่ไม่พอดีหรือหลวมไปควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด!
ถุงยางผู้หญิงใช้ยังไง?
- แกะถุงยางอนามัยด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันการฉีกขาด ไม่ควรใช้ปากกัด โดยส่วนวงแหวนที่มีขอบยางหนาจะถูกสอดใส่ไว้ในอวัยวะเพศหญิง และวงแหวนที่มีขอบยางบางจะอยู่ที่ปากช่องคลอด
- ถือถุงยางอนามัยด้วยมือข้างหนึ่ง และบีบบริเวณปลายปิดของถุงยางอนามัยให้มีขนาดเล็กลง จากนั้นจึงค่อย ๆ สอดถุงยางเข้าไปในช่องคลอด ซึ่งคล้ายกลับวิธีการใส่ผ้าอนามัยแบบสอด
- ใช้นิ้วมือสอดเข้าไปภายในถุงยางอนามัยและดันถุงยางอนามัยให้ถึงบริเวณปากมดลูก จากนั้นถุงยางจะคลายตัวและขยายออกเอง
- ควรตรวจสอบว่าถุงยางไม่พลิกตัวหรือพับงอ และปลายเปิดของถุงยางอยู่ที่ปากอวัยะเพศ
- เพศชายควรสอดใส่อวัยวะเพศของตนภายในถุงยางผู้หญิง และหยุดการสอดใส่หากอวัยวะเพศของตนออกนอกถุงยางอนามัย หรือปลายเปิดของถุงยางถูกดันหลุดเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้หญิง
- ควรถอดถุงยางผู้หญิงโดยการบิดวงแหวนด้านนอกหรือปลายเปิดของถุงยาง และดึงออกจากอวัยวะเพศ
ข้อดีของการใช้ถุงยางผู้หญิง
- ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- สามารถป้องกันการตั้งท้องได้ หากใช้อย่างถูกต้อง
- สามารถใช้ได้ขณะมีประจำเดือน ตั้งครรภ์
- ไม่มีผลข้างเคียงจากการใช้งาน
ข้อควรระวัง
- ถุงยางอาจฉีกขาดได้ง่ายมาก
- ห้ามใช้ทั้งถุงยางผู้หญิงและถุงยางผู้ชายขณะร่วมเพศ เพราะอาจเกิดการเสียดสีกันจนฉีกขาดได้
- ถุงยางอนามัยของผู้หญิงสามารถใช้ได้กับสารหล่อลื่นทุกประเภท แต่ห้ามใช้วาสลีน หรือน้ำมัน
4.Safe Sex ด้วยการกินยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด
วิธีกินยาคุมเป็นอีกตัวเลือกของสาวๆ ที่นิยมใช้กันมาก เรียกได้ว่าเป็นเบสิกของการ Safe Sex เลยก็ว่าได้ มีประสิทธิภาพและช่วยให้มีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) แต่ปลอดภัยต่อการคุมกำเนิด(แต่ก็ไม่ได้ 100%) ซึ่งหากต้องกินต่อเนื่องจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ยาคุมชนิดเม็ดมีกี่ประเภท?
- ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
- ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน แบบเดี่ยว เหมาะกับคนที่อยู่ช่วงให้นมลูก
- ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบฉุกเฉิน
วิธีการกินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
- แนะนำให้เริ่มกินภายในวันที่ 5 ของวันที่มีประจำเดือน โดยนับวันแรกที่มีประจำเดือนเป็นวันที่ 1 หลังจากเริ่มกินแล้วควรกินต่อเนื่องทุกวัน ในช่วงเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
- ข้อดีของการทายาคุมชนิดฮอร์โมนรวม
- กินง่าย สะดวก
- หาซื้อได้ง่าย ตามร้านขายยาทั่วไป
- ไม่เป็นอุปสรรคระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
ข้อควรระวังในการทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม
- ให้เช็กตารางของการมีประจำเดือนให้ดีๆ เพราะถ้าพลาดแล้วแก้ไขยาก
- ผลข้างเคียงเยอะมาก เช่น ทำให้รู้สึกง่วงนอน คลื่นไส้อาเจียน หน้ามืด น้ำหนักขึ้น ตัวบวม หรือบางครั้งอาจจะส่งผลให้มีอารมณ์แปรปรวนด้วย
- ยาคุมไม่ได้ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
5.Safe Sex ด้วยการฉีดยาคุมกำเนิด
วิธีนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไร เพราะไม่สะดวกและราคาสูงกว่าการทานยาคุมแบบเม็ด แต่การฉีดยาคุมถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมากในการคุมกำเนิด ถึง 99% ซึ่งวิธีนี้สามารถคุมกำเนิดได้ยาวนาน 1-3 เดือน แต่แน่นอนถ้าอยากช่วยป้องกันโรคติดต่อด้วยควรใช้ถุงยางควบคู่กันทุกครั้ง และอีกอย่างคือผลข้างเคียงเยอะมากก สำหรับใครที่สนใจ Safe Sex ด้วยวิธีนี้ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
ข้อดีของการฉีดยาคุม
- คุมกำเนิดได้ยาวนาน 1-3 เดือน แล้วแต่ชนิดยา
- ไม่รบกวนต่อการมีเพศสัมพันธ์
- สามารถใช้ได้แม้จะอยู่ในช่วงให้นมลูก
- ช่วยแก้ปัญหารอบเดือนที่ผิดปกติได้
ข้อควรระวังในการฉีดยาคุม
- ต้องฉีดยาคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่อง
- ทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพ ส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายจะเป็นปกติ
- การใช้ยาคุมกำเนิดแบบฉีดชนิดเมดรอกซีโปรเจสเทอโรนติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อกระดูก แต่ก็สามารถกลับสู่ภาวะปกติ หากหยุดใช้
6.Safe Sex ด้วยการฝังยาคุมกำเนิด
การฝังยาคุมกำเนิดเป็นอีกหนึ่งวิธีของการ Safe Sex แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไร เป็นการการสอดแท่งเล็กๆบริเวณใต้ผิวหนังตรงช่วงแขน เนื่องจากทำให้บางคนรู้สึกไม่สบายตัวในบริเวณที่ถูกฝังด้วย แต่ขณะเดียวกัน วิธีนี้ก็มีประสิทธิภาพสูงมากในการคุมกำเนิด จนมีโอกาสเพียง 0.05% เท่านั้นที่พลาดตั้งครรภ์ และแน่นอนว่าควรใช้ถุงยางควบคู่กันทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์
7.Safe Sex ด้วยการ ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV
การติดเชื้อ HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบมากที่สุด โดยมักพบในคนช่วงวัยเจริญพันธุ์ อายุประมาณ 20-30 ปี การฉีดวัคซีน HPV เป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันไวรัสบางสายพันธุ์ และแม้ว่าการติดเชื้อ HPV จะเพิ่มโอกาสสูงขึ้นตามจำนวนของคู่นอน แต่การมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนแค่คนเดียวก็มีโอกาสติดเชื้อ HPV ได้
การติดเชื้อ HPV ไม่มีอาการแสดงใดๆ ทำให้คุณไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าคู่นอนมีเชื้อ HPV อยู่หรือไม่? การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ตั้งแต่ก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางการป้องกันความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ โดยสามารถเริ่มฉีดให้กับเด็กผู้หญิงได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี
มีเซ็กส์อย่างไรไม่เสี่ยงติดเชื้อ HPV
- ไม่มีอิสระทางเพศมากจนเกินไป
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV มากถึง 90%
- ไม่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เพราะสามารถเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV
- ไม่มีเพศสัมพันธ์ด้วยการทำออรัลเซ็กส์ เพราะเชื้อ HPV สามารถก่อให้เกิดมะเร็งช่องปาก หรือมะเร็งลำคอได้
- ระวังการติดเชื้อจากการใช้นิ้วมือ เนื่องจากเชื้อ HPV สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสทางผิวหนังโดยตรงได้
8.Safe Sex ด้วยการใช้ คอนดอมนิ้ว (Finger condom)
ถุงยางอนามัยแบบสวมนิ้วเป็นถุงยางอนามัยขนาดเล็ก มักใช้ในหลายสถานการณ์ เช่น ในการดูแลสุขภาพ การปฐมพยาบาล รวมถึงกิจกรรมทางเพศ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือใช้ในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล สามารถลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ STI และป้องกันการสัมผัสทางผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ถุงยางอนามัยแบบสวมนิ้วไม่ได้ให้การป้องกันมากเท่ากับถุงยางอนามัยทั่วไปในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่
ถุงยางอนามัยนิ้วช่วยเรื่องสุขภาพทางเพศได้อย่างไร?
การใช้นิ้วในระหว่างกิจกรรมทางเพศ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ เนื่องจากมีการใช้นิ้วที่ทวารหนักแล้วเลื่อนนิ้วเดียวกันนั้นไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ในกรณีนี้ให้ถอดถุงยางอนามัยนิ้วออกหลังจากทำกิจกรรมทางเพศที่ทวารหนักไปแล้ว 1 ครั้ง และสวมถุงยางอนามัยใหม่ก่อนไปสัมผัสส่วนอื่น เพื่อให้มีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัย
ความเสี่ยงในการใช้ถุงยางอนามัยแบบ Finger condom
- การใช้ถุงยางอนามัยแบบ Finger condom มีความเสี่ยงในกรณีแพ้ยาง เนื่องจากถุงยางอนามัยแบบนิ้วส่วนใหญ่ทำจากน้ำยาง
- มีความเสี่ยงที่ถุงยางอนามัยแบบนิ้วอาจหลุดและค้างอยู่ในช่องคลอดได้
- หากถุงยางนิ้วค้างอยู่ในร่างกาย ให้ลองใช้นิ้วที่ล้างแล้วดึงออกมา หากไม่สามารถเอาออกได้ด้วยตัวเอง ให้รีบพบแพทย์ทันที
- ความเสี่ยงที่ถุงยางอนามัยนิ้วจะหลุดระหว่างมีเซ็กซ์นั้นมีอันตรายน้อยกว่าความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อันเนื่องมาจากการไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยแบบนี้
อย่างไรก็ตามวิธี Safe Sex ที่ปลอดภัยมีหลากหลายวิธี เราสามารถเลือกวิธีที่เหมาะกับเราที่สุด เพื่อความปลอดภัยและสบายใจ การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ นอกจากจะเป็นการป้องกันตัวเองแล้ว ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อคู่นอน และต่อสังคมอีกด้วย เพราะแค่ความสนุกเพียงชั่วครู่ อาจทำให้คุณต้องเสียใจก็เป็นได้ ทั้งนี้ การรักเดียวใจเดียวต่อคู่รักยังช่วยลดความเสี่ยงในการติดโรคทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย ดังนั้นก่อนที่จะมี Sex อย่าลืม Safe กันนะ