ผลิตภัณฑ์สุขภาพใดบ้างที่จำเป็นต้องมี อย.

ผลิตภัณฑ์สุขภาพใดบ้างที่จำเป็นต้องมี อย.

ผลิตภัณฑ์สุขภาพใดบ้างที่จำเป็นต้องมี อย.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ข่าวการบุกทลายโรงงานหรือบริษัทผลิตอาหารปลอม ยาปลอม เครื่องสำอางปลอม มีให้เห็นตามหน้าข่าวอยู่ทุกวัน จนทำให้ใครหลายคนเกิดสงสัยว่าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เราซื้อมาไว้อุปโภคบริโภคในบ้านของตัวเองนั้น เป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่ ถ้านำมากินนำมาใช้แล้วจะเกิดผลลัพธ์อะไรกับตัวเองบ้างก็ไม่รู้ นี่เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ

แต่จริง ๆ แล้วผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพในประเทศไทย จะมีมาตรฐานที่ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ สามารถมั่นใจได้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เราซื้อมานั้น สามารถใช้อุปโภคบริโภคได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้านประสิทธิภาพ คุณภาพ และความปลอดภัยมาแล้ว ตามหลักเกณฑ์ของ “สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)” โดยจะมีการออกเป็นเครื่องหมายรับรองว่าผ่านการอนุญาตหรือมีการนำผลิตภัณฑ์นั้น ๆ เข้ามาจดแจ้งกับทาง อย. แล้ว

อย. หรือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration) มีหน้าที่ในการดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งผลิตภัณฑ์สุขภาพส่วนใหญ่ก็จะหมายถึง อาหาร ยา เวชภัณฑ์ และเครื่องสำอาง ฉะนั้น เครื่องหมาย อย. จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้ผู้บริโภครับทราบว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ได้ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว สามารถสร้างความมั่นใจได้ว่าสินค้าที่เราเลือกมีมาตรฐาน นอกจากนี้ หากใครคิดจะทำธุรกิจส่วนตัวที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาจต้องศึกษาเกี่ยวกับการขอเครื่องหมาย อย. ไว้ด้วย เพื่อที่จะได้ทำเรื่องขอให้ถูกต้อง หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต้องมีเครื่องหมายนี้

สัญลักษณ์ที่แสดงว่าผ่านการอนุญาตหรือจดแจ้งกับ อย. แล้ว

เป็นเครื่องหมายที่ได้รับการขึ้นทะเบียน โดยจะต้องผ่านการพิจารณาในด้านประสิทธิภาพ คุณภาพ และความปลอดภัย ที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตหรือจำหน่าย ตรงตามมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

1. สัญลักษณ์สารบบอาหาร หรือสัญลักษณ์ อย. ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ สัญลักษณ์นี้จะมีในผลิตภัณฑ์อาหาร รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ซึ่งจะต้องมีตัวเลข 13 หลัก โดยแต่ละหลักแสดงรายละเอียด ดังนี้

0033

2. สัญลักษณ์ทะเบียนยา จะพบในผลิตภัณฑ์ยา ทั้งยาแผนปัจจุบัน ยาแผนไทย หรือยาแผนโบราณ ก็จะมีเลขทะเบียนตำรับยาแสดงไว้บนฉลากเสมอ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่ายานี้ผ่านการอนุญาต หรือจดแจ้งกับ อย. แล้ว โดยจะมีรายละเอียด ดังนี้

0022

โดยตัวอักษร A-N จะใช้แทนประเภทของยา มีความหมายดังนี้

A-F ยาแผนปัจจุบัน

  • A คือ ยามนุษย์ผลิตภายในประเทศ
  • B คือ ยามนุษย์แบ่งบรรจุ
  • C คือ ยามนุษย์นำหรือสั่งเข้าฯ
  • D คือ ยาสัตว์ผลิตภายในประเทศ
  • E คือ ยาสัตว์แบ่งบรรจุ
  • F คือ ยาสัตว์นำหรือสั่งเข้าฯ

G-N ยาแผนโบราณ

  • G คือ ยามนุษย์ผลิตภายในประเทศ
  • H คือ ยามนุษย์แบ่งบรรจุ
  • K คือ ยามนุษย์นำหรือสั่งเข้าฯ
  • L คือ ยาสัตว์ผลิตภายในประเทศ
  • M คือ ยาสัตว์แบ่งบรรจุ
  • N คือ ยาสัตว์นำหรือสั่งเข้าฯ

3. สัญลักษณ์เลขที่ใบรับแจ้ง จะพบในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เป็นเลขที่แสดงว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางนั้นได้ดำเนินการแจ้งรายละเอียดการผลิตเพื่อขายหรือนำเข้าแล้ว โดยจะมีตัวเลข 10 หลัก หรือ 13 หลัก โดยจะมีรายละเอียด ดังนี้

0111

การแสดงเครื่องหมาย อย. บนฉลากผลิตภัณฑ์

เคยสังเกตหรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย่างอาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ หรือวัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน จะไม่ได้มีเครื่องหมาย อย. บนฉลากทุกประเภท โดยจะมีการกำหนดว่าผลิตภัณฑ์ใดต้องมีเครื่องหมาย อย. และผลิตภัณฑ์ใดที่ไม่ต้องมีเครื่องหมาย อย. ดังนี้

ผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมาย อย.

  • ผลิตภัณฑ์อาหาร ต้องแสดงเลขสารบบอาหาร โดยมีตัวเลข 13 หลักในเครื่องหมาย อย. สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่าย ไม่กำหนดให้ต้องขอเลข อย. แต่สามารถยื่นขอได้ โดยสถานที่ผลิตต้องผ่านหลักเกณฑ์
  • เครื่องมือแพทย์ที่ต้องมีใบอนุญาต ต้องแสดงเลขรับจดแจ้งว่าผลิตหรือนำเข้า แจ้งรายการละเอียดการอนุญาต ในเครื่องหมาย อย. ได้แก่ ถุงยางอนามัย ถุงมือยางสำหรับศัลยกรรม ชุดตรวจเชื้อ HIV และคอนแทคเลนส์
  • วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน โดยจะมีตัวอักษร วอส. ตามด้วยเลขทะเบียนและปี พ.ศ. ในกรอบเครื่องหมาย อย. เช่น ผลิตภัณฑ์ป้องกัน/กำจัด/ไล่แมลง ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่ใช้ในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิว

ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเครื่องหมาย อย.

  • ผลิตภัณฑ์ยา แต่ต้องแสดงเลขทะเบียนตำรับยา
  • เครื่องสำอาง แต่ต้องแสดงเลขที่รับจดแจ้ง โดยกำหนดให้เป็นตัวเลข 10 หรือ 13 หลัก และห้ามนำเลขมาใส่ในเครื่องหมาย อย.
  • เครื่องมือแพทย์ที่ต้องการรายละเอียด แต่ต้องแสดงเลขที่ใบรับแจ้ง ได้แก่ เครื่องที่ใช้เพื่อกายภาพบำบัด เครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกาย เต้านมเทียมซิลิโคน แต่เครื่องมือแพทย์ทั่วไป ไม่ต้องมีเครื่องหมาย อย. หรือเลขที่ใบรับแจ้ง เช่น เตียงผ่าตัด เครื่องตรวจวัดความดันโลหิต
  • วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องมีเครื่องหมาย อย. แต่ต้องแสดงเลขที่ใบรับแจ้ง/ปี ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ล้างจาน ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น ฝาผนัง เครื่องสุขภัณฑ์วัตถุต่าง ๆ ที่มีสารที่ อย. กำหนด

อาหารชนิดใดบ้างที่ต้องแสดงเครื่องหมาย อย.

การแสดงเครื่องหมาย อย. สำหรับผลิตภัณฑ์อาหาร หรือที่เรียกว่า สัญลักษณ์สารบบอาหาร คือการแสดงเครื่องหมายหรือรูปแบบของอาหารที่ได้รับอนุญาตขึ้นทะเบียนตํารับอาหาร อนุญาตใช้ฉลากอาหาร จดทะเบียนอาหาร หรือแจ้งรายละเอียดของอาหารแล้ว ประกอบด้วยเครื่องหมายและเลขสารบบอาหาร โดยข้อมูลจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมระบุไว้ ดังนี้

อาหารที่ต้องแสดงเลขสารบบอาหาร แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มที่ 1 อาหารควบคุมเฉพาะ มี 17 ชนิด ได้แก่

  • นมดัดแปลงสำหรับทารก และนมดัดแปลงสูตรต่อเนื่อง สำหรับทารกและเด็กเล็ก
  • อาหารทารกและอาหารสูตรต่อเนื่อง สำหรับทารกและเด็กเล็ก
  • อาหารเสริม สำหรับทารกและเด็กเล็ก
  • นมโค
  • นมปรุงแต่ง
  • นมเปรี้ยว
  • ไอศกรีม
  • อาหารในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
  • ผลิตภัณฑ์ของนม
  • น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
  • เครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
  • น้ำแข็ง
  • อาหารสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  • สีผสมอาหาร
  • วัตถุที่ใช้ปรุงแต่งรสอาหาร
  • วัตถุเจือปนอาหาร
  • โซเดียมไซคลาเมตและอาหารที่มีโซเดียมไซคลาเมต

กลุ่มที่ 2 อาหารที่กําหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน มี 31 ชนิด ได้แก่

  • น้ำมันและไขมัน
  • น้ำมันถั่วลิสง
  • เนย
  • เนยเทียม
  • เนยกี
  • อาหารกึ่งสำเร็จรูป
  • น้ำมันเนย
  • น้ำปลา
  • น้ำส้มสายชู
  • ครีม
  • น้ำมันปาล์ม
  • น้ำมันมะพร้าว
  • ชา
  • น้ำนมถั่วเหลือง ในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
  • กาแฟ
  • แยม เยลลี มาร์มาเลด ในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
  • เครื่องดื่มเกลือแร่
  • รอยัลเยลลีและ ผลิตภัณฑ์รอยัลเยลลี
  • น้ำผึ้ง
  • น้ำแร่จากธรรมชาติ
  • เนยแข็ง
  • ซอสบางชนิด
  • น้ำที่เหลือ จากผลิตภัณฑ์ โมโนโซเดียมกลูตาเมต
  • ไข่เยี่ยวม้า
  • ผลิตภัณฑ์ปรุงรส ที่ได้จากการย่อยโปรตีน ของถั่วเหลือง
  • ข้าวเติมวิตามิน
  • ช็อกโกแลต
  • เกลือบริโภค
  • อาหารที่มีสารพิษตกค้าง
  • อาหารที่มีสารปนเปื้อน
  • อาหารที่มีกัมมันตรังสี

กลุ่มที่ 3 อาหารที่รัฐมนตรีประกาศให้เป็นอาหารที่ต้องมีฉลาก มี 14 ชนิด ได้แก่

  • ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์
  • แป้งข้าวกล้อง
  • น้ำเกลือปรุงอาหาร
  • ซอสในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
  • ขนมปัง
  • หมากฝรั่งและลูกอม
  • วุ้นสำเร็จรูปและขนมเยลลี
  • กำหนดกรรมวิธีการผลิตอาหารซึ่งมีการใช้กรรมวิธีการฉายรังสี
  • ผลิตภัณฑ์กระเทียม
  • วัตถุแต่งกลิ่นรส
  • อาหารที่มีวัตถุที่ใช้เพื่อรักษาคุณภาพ หรือมาตรฐานของอาหารรวมอยู่ในภาชนะบรรจุ
  • อาหารที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้
  • อาหารมีวัตถุประสงค์พิเศษ

การแสดงฉลากของอาหารพร้อมปรุงและอาหารสำเร็จรูปที่พร้อมบริโภคทันที

ผลิตภัณฑ์อาหารที่กำหนดให้ต้องมีฉลากแสดง อย. ได้แก่

1. กลุ่มอาหารที่ต้องมีเครื่องหมาย อย. แต่ไม่ต้องส่งตัวอย่างอาหารตรวจวิเคราะห์ ได้แก่

  • เครื่องปรุงรสและน้ำจิ้ม
  • น้ำพริกสำเร็จรูปที่รับประทานได้ทันที
  • ผลิตภัณฑ์อบกรอบ ทอด กวน ตาก หมัก ดอง จากผลไม้
  • ผลิตภัณฑ์ปรุงสุกจากสัตว์
  • ขนมและอาหารขบเคี้ยว
  • ลูกอมและทอฟฟี

2. กลุ่มอาหารที่ต้องมีเครื่องหมาย อย. และมีรายงานผลการตรวจวิเคราะห์อาหารไว้ให้ตรวจสอบ ได้แก่

  • น้ำส้มสายชู
  • น้ำมันสำหรับปรุงอาหาร
  • ไข่เยี่ยวม้า
  • กาแฟ ชนิดคั่วเมล็ด/ผงสำเร็จรูป/ปรุงสำเร็จ
  • ชา ชนิดชาใบ/ผงสำเร็จรูป/ปรุงสำเร็จ
  • น้ำพริกแกง
  • เครื่องปรุงโปรตีนของถั่ว
  • แยม เยลลี และมาร์มาเลด
  • อาหารกึ่งสำเร็จรูป
  • ลูกอมและทอฟฟี

3. กลุ่มอาหารที่ต้องมีเครื่องหมาย อย. และต้องส่งตัวอย่างอาหารตรวจวิเคราะห์ ได้แก่

  • เครื่องดื่มชนิดน้ำและผงที่ทำจากพืช ผัก ผลไม้ สมุนไพร ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง น้ำตาลสด เครื่องดื่มรังนก กาแฟ ถั่วเหลือง
  • อาหารในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท เช่น อาหารกระป๋อง อาหารบรรจุขวดแก้วที่ฝามียางรองด้านใน อาหารที่บรรจุกล่อง ซอง ถุงอะลูมิเนียมฟอยล์ที่ปิดผนึก
  • นมและผลิตภัณฑ์นม เช่น นมโค นมปรุงแต่ง นมเปรี้ยว ไอศกรีม เนยแข็ง เนย
  • น้ำดื่ม/น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท

นอกจากนี้ยังมี อาหารที่ไม่ต้องมีเครื่องหมาย อย. อาหารกลุ่มนี้ ผู้ผลิตไม่ต้องขออนุญาตผลิตภัณฑ์ แต่ต้องแสดงฉลากตามที่กฎหมายกำหนด

  • ผลิตภัณฑ์จากพืช ได้แก่ ข้าวกล้อง ธัญพืชต่าง ๆ เมล็ดถั่วแห้ง งา พริกแห้ง ข้าวเกรียบ (ไม่ทอด) ธัญพืชชนิดบด ผง พริกป่น
  • ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ได้แก่ ปลาแห้ง กุ้งแห้ง รังนกแห้ง ไข่เค็มดิบ กะปิ ปลาร้าผง/ดิบ ปลาส้ม น้ำบูดู น้ำผึ้ง (ที่ผลิตจากสถานที่ผลิตไม่เป็นโรงงาน)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook