เคล็ดไม่ลับ 7 เทคนิคซักผ้าให้ แห้งไว ไร้กลิ่นอับ

เคล็ดไม่ลับ 7 เทคนิคซักผ้าให้ แห้งไว ไร้กลิ่นอับ

เคล็ดไม่ลับ 7 เทคนิคซักผ้าให้ แห้งไว ไร้กลิ่นอับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ซักผ้าแล้วเหม็นอับ” ปัญหาหน้าฝนที่ใคร ๆ ก็ต้องเคยเจอ ก่อนซักอากาศดีแดดแจ่มใสแต่พอเอาผ้าลงเครื่องเท่านั้นล่ะ ฟ้าครึ้มเมฆมัวเหมือนพายุจะเข้า ตากผ้าก็ไม่แห้งอีก ส่งกลิ่นเหม็นอับไปทั่วห้อง ไม่ว่าจะใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มไปมากแค่ไหนก็กลบกลิ่นอับไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องซักใหม่เสียทั้งแรงและเวลา แต่วันนี้เรามีเทคนิคง่าย ๆ ที่จะโบกมือลาปัญหาผ้าเหม็นอับไม่ให้มากวนใจคุณอีกต่อไปกับ 7 เทคนิคซักผ้าหน้าฝนให้แห้งไวไร้กลิ่นอับ ไปดูกันเลย!!

1.เช็กสภาพอากาศก่อนซัก

การเช็กสภาพอากาศก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้นว่าวันนี้จะซักผ้าดีไหม เพราะหากไม่เช็กก่อนเราอาจจะเจอกับเหตุการณ์เอาผ้าลงเครื่องปุ๊บ ฝนตกปั๊บก็เป็นได้และนั่นก็นำมาสู่ปัญหาทำให้ผ้าเหม็นอับหรือแห้งไม่ทันใช้งาน ฉะนั้นแล้วถ้าไม่อยากกุมขมับกับปัญหานี้ ก่อนซักผ้าก็ให้ลองเช็กสภาพอากาศให้ดีก่อนว่าเปอร์เซ็นต์ที่ฝนจะตกมีมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้มั่นใจว่าผ้าที่ซักมานั้นตากได้อย่างสบายใจไร้กลิ่นอับแน่นอน

2.ปริมาณผ้าต้องเหมาะสมกับความจุของเครื่องซักผ้า

หากใส่ผ้าลงถังในปริมาณที่มากเกินกว่าที่เครื่องซักผ้ากำหนดอาจทำให้เครื่องซักผ้าไม่สามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าของคุณได้ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้เสื้อผ้ายังมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ รวมไปถึงทำให้มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ติดอยู่ที่เสื้อผ้า นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการหมักหมมของเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังอีกด้วย

ทางที่ดีคือพยายามใส่ผ้าไม่ให้เกินครึ่งถัง หรือ 3/4 ของถัง ทำให้เวลาซักผ้าแต่ละครั้ง ผ้าก็จะไม่แน่น มีพื้นที่ในเครื่องมากขึ้น เสื้อผ้าก็จะสะอาดหมดจด ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องซักผ้าจะพังไวอีกด้วย

3.ใส่ผ้าขนหนูลงไปในถังขณะปั่นผ้า

ทริคที่แม่บ้านมืออาชีพแทบทุกคนมักจะทำ คือการใส่ผ้าขนหนูลงไปในถังขณะปั่นผ้า เพราะการใส่ผ้าขนหนูลงไปในขั้นตอนปั่นหมาดผ้าขนหนูจะช่วยดูดซับน้ำจากเสื้อผ้าชิ้นอื่น ๆ นั่นเอง เสื้อผ้าของเราก็จะชื้นน้อยกว่าเดิม ทำให้เราใช้เวลาตากผ้าน้อยลง และช่วยลดอาการอับชื้นของผ้าได้อีกด้วย

4.เลือกใช้น้ำยาซักผ้าสูตรลดกลิ่นอับ

อีกหนึ่งตัวช่วยที่ลดกลิ่นอับของผ้า คือ น้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรลดกลิ่นอับ หลายๆคนคงไม่สะดวกที่จะซักผ้าตอนกลางวัน ก็สามารถซักกลางคืนแล้วตากหรือเข้าเครื่องอบแห้งได้เลย ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็จะช่วยบรรเทากลิ่นอับให้หายไปได้ระดับหนึ่ง

5.เปิดพัดลมไล่ความชื้น

การตากผ้านั้นเรารู้กันดีว่าต้องตากในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงแดดส่องถึง แต่หากเป็นช่วงหน้าฝนแล้วนั้นจะหาที่มีอากาศแห้งและถ่ายเทได้จากไหน แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะยังมีอีกทริคที่หลายคนยังไม่รู้ นั่นคือการเปิดพัดลมขณะตากผ้า วิธีนี้จะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้นและคอยไล่ความชื้นออกไปให้หมดจด ช่วยลดกลิ่นอับชื้นบนเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดีค่ะ

6.น้ำส้มสายชู

ผ้าที่เหม็นอับยังไงก็ต้องลงถังซักใหม่แถมบางครั้งซักใหม่ก็แล้วกลิ่นก็ยังไม่หาย แต่การใส่น้ำส้มสายชู ประมาณ 1 ถ้วย ลงไปพร้อมกับซักผ้าแบบปกติก็จะช่วยให้กลิ่นอับหายได้เลย แต่หากเป็นผ้าที่หนา เช่น ผ้ายีนส์หรือเสื้อโค้ท ให้แช่น้ำส้มสายชู 1 ถ่วยตวงผสมน้ำเปล่า 1 แกลลอนแช่ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงแล้วซักปกติเพียงเท่านี้กลิ่นอับไม่พึงประสงค์ก็จะหายไปในพริบตา

7.ใช้เครื่องอบผ้าแทนการตาก

ไอเทมหน้าฝนที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือเครื่องอบผ้า เพราะเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ผ้าแห้งไวมากยิ่งขึ้น ช่วยลดระยะเวลาในการตากผ้า และไม่ทำให้เสื้อผ้าของเรามีกลิ่นอับชื้นด้วย นอกจากนี้การอบผ้าให้แห้งสนิทจะช่วยฆ่าเชื้อและแบคทีเรียต่างๆได้ถึง 99.99% ลดโอกาสในการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบนเสื้อได้ดีกว่าการตากผ้าแบบปกติถึงสองเท่า ฉะนั้นเพียงแค่มีเครื่องอบผ้าก็จบทุกปัญหาของการซักผ้าหน้าฝนแล้ว

เพียงแค่ทำ 7 วิธีง่าย ๆ ข้างต้นก็จะช่วยให้การซักผ้าในหน้าฝนแบบไร้กลิ่นอับจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้นลองไปปรับใช้กันดูนะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook