แก้อาการ Earworm เจอเพลงติดหู ติดอยู่ในหัวจนร้องวนอยู่ทั้งวัน ต้องทำแบบนี้
อาการ “เพลงหลอนหู” ที่ว่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับเพลงเชียร์บอลยูโรนี่หรอกนะ แต่มันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพลงอื่น ๆ ด้วย เพลงโฆษณาสินค้าไทยหลายเพลง เพลงไทย เพลงสากล เพลง K-POP แม้กระทั่งเพลงเด็ก ล้วนแล้วแต่มีเพลงที่ทำให้เกิดอาการ Earworm ได้ทั้งนั้น มาดูกันว่า Earworm คืออะไร แล้วทำไมเพลงเหล่านั้นถึงติดอยู่ในหัวของเราได้ยาวนานขนาดนี้ รวมถึงวิธีที่จะล้างหู กำจัดเพลงดังกล่าวออกไปจากหัว จะทำอย่างไรได้บ้าง
อาการ Earworm คืออะไร
เคยเจอสถานการณ์นี้กันบ้างไหม มันคือสถานการณ์ที่มีท่อนใดท่องหนึ่งสั้น ๆ ของเพลง หรือทำนองของเพลงใดเพลงหนึ่ง วนเวียนติดอยู่ในหัวแบบที่เอาออกไปไม่ได้สักที สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เราจะร้องเพลงท่อนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ในใจ บ้างก็ฮัมทำนองของเพลงออกมาก็มี ตอนเป็นแรก ๆ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่พอนานเข้ามันก็ยังไม่หายไป การที่เพลงเดิมยังวนเวียนอยู่ในหัวเป็นชั่วโมงหรือหลายชั่วโมง เริ่มกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญ ทีนี้อาการหัวเสียก็จะตามมาแล้วว่าทำไมถึงกำจัดเพลงท่อนนั้นออกไปไม่ได้ แล้วทำไมเพลงนี้ถึงติดอยู่ในหัวนานขนาดนี้
เชื่อได้เลยว่าหลายคนเคยประสบกับปัญหานี้อย่างแน่นอน แต่ตอนนั้นอาจจะไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แล้วก็อาจจะไม่รู้ว่ามีคนอีกมากมายเคยประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน อาการแบบนี้มีคำเรียกสั้น ๆ ว่า Earworm เป็นอาการที่มีท่อนใดท่อนหนึ่งในเพลงวนเวียนอยู่ในหัว เหมือนเพลงนั้นมันหลอนหู จนรู้สึกได้ว่ากำลังร้องเพลงนั้นอยู่ในใจ หรือบางทีก็อาจจะเผลอพึมพำฮัมเพลงท่อนเดิม ๆ นั้นเป็นเสียงออกมาเลยก็ได้เช่นกัน
หลายคนอาจจะสงสัย ว่าอาการ Earworm ที่ว่ามานี้เป็นความผิดปกติหรือเปล่า จริง ๆ Earworm ไม่ใช่อาการผิดปกติแต่อย่างใด ทว่าเป็นเพียงปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เพลงเพลงหนึ่ง ซึ่งอาจจะหมายถึงทั้งเพลง หรือแค่ท่อนใดท่อนหนึ่งของเพลง หรือแค่ทำนองของเพลงยังคงวนเวียนอยู่ในหัว เสมือนว่าเพลงนั้นดังอยู่ในหูไม่ไปแม้ว่าเพลงจะถูกปิดไปแล้ว รู้สึกเหมือนยังคงได้ยินเพลงนั้นอยู่ในหัวตลอด บ้างก็ฮัมเพลงตาม ซึ่งมีชื่อเรียกอีกมากมายที่ใช้เรียกปรากฏการณ์นี้ ไม่ว่าจะเป็น Earworm, Brainworm, Sticky Music, Stuck Song Syndrome หรือ Involuntary Musical Imagery (INMI) ส่วนในภาษาไทย แค่บอกว่า เพลงติดหู เพลงหลอนหู ก็เข้าใจได้
ด้วยความที่ Earworm เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา ทำให้ลักษณะอาการของ Earworm มีชื่อทางการแพทย์เรียกว่า Musical Imaginary Repetition หรือ Involuntary Musical Imagery ทางการแพทย์จะอธิบายว่ามันเป็นลักษณะของการที่เราไม่สามารถดึงเพลงดังกล่าวออกจากความคิดได้ มีลักษณะคล้ายกับโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive-compulsive disorder) แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจนึกถึง แต่เพลงนี้จะยังคงดังอยู่ในหัว จนบางทีก็อาจจะเผลอฮัมเพลงนั้นออกมาโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือความรู้สึกรำคาญและพาลให้หงุดหงิด การที่สลัดเพลงดังกล่าวออกจากหัวไม่ได้ มันอาจรบกวนสมาธิในการโฟกัสกับการทำอะไรสักอย่าง
Earworm นอกจากความรู้สึกรำคาญ ปัญหาใหญ่ของการเกิด Earworm คือการที่เราเอาเสียงเพลงนั้นออกจากหัวไม่ได้มากกว่า เพราะจุดกำเนิดเสียงไม่ได้มาจากการกำลังฟังอยู่จริง ๆ แต่มันมาจากสมองของเราที่สลัดเพลงที่ฟังตั้งนานแล้วไม่ออก อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ทุกเพลงที่จะทำให้เราเกิดอาการ Earworm ได้ และก็ไม่ใช่ทุกคนด้วยที่จะโดน Earworm เล่นงาน แม้ว่าจะเป็นเพลงเดียวกันก็ตาม
ทำไมถึงเกิดอาการ Earworm
เนื่องจากอาการ Earworm เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หรือต้องบอกว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเคยประสบกับสถานการณ์นี้กันสักครั้ง จึงมีคนพยายามศึกษาเกี่ยวกับ Earworm ว่ามันเกิดจากอะไร เพลงประเภทไหนที่ทำให้เกิด Earworm รวมถึงคนกลุ่มไหนมีโอกาสเกิด Earworm ได้มากกว่ากัน
มีนักวิจัยหลายคนมาก ๆ ที่พยายามหาคำตอบที่ว่า ด้วยการทดสอบด้วยการเปิดเพลงให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบฟังไปเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปก็ปิด แล้วบอกให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบจินตนาการถึงเพลงนั้นต่อด้วยตัวเอง ไปพร้อม ๆ กับการสวมอุปกรณ์ตรวจวัดคลื่นสมอง เพื่อดูว่าสมองส่วนไหนที่กำลังทำงานอยู่ในเวลานั้น ผลการศึกษาพบว่าทั้งในช่วงที่เพลงเปิดอยู่ และในช่วงที่ปิดเพลงไปแล้วและให้นึกถึงเนื้อเพลงในใจ สมองส่วนที่เรียกว่า Auditory Cortex มีการทำงานอยู่ตลอด ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ทำหน้าที่ในการประมวลข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเสียง ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่นำมาร้อยเรียงเป็นเพลง จำง่ายและติดหูง่ายขึ้น แสดงให้เห็นว่ามนุษย์มีความทรงจำเกี่ยวกับเสียงเพลงเป็นพิเศษ
โดยทั่วไป อาการ Earworm จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราฟังเพลงที่มีเนื้อร้องและทำนองที่ “ติดหู” ซ้ำไปมา พูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นเพลงที่ฟังง่าย เข้าใจง่าย ทำนองโดดเด่น รวมถึงมีเนื้อเพลงที่ซ้ำกันอยู่หลายจุด ทำให้สมองของเราจัดการกับข้อมูลในเพลงและจดจำได้ง่ายขึ้น แม้ว่าเพลงนั้นอาจจะไม่ใช่เพลงโปรดสักเท่าไร หรือเป็นเพลงที่ฟังแค่ไม่กี่ครั้งก็จำได้และร้องได้ทันที ซึ่งอาจจะเป็นเพลงที่มีเนื้อร้องหรือไม่มีเนื้อร้องก็ได้ โดยพบว่า เพลงกว่า 73.7 เปอร์เซ็นต์ เป็นเพลงที่ “มีเนื้อร้อง” และ 17.7 เปอร์เซ็นต์ เป็นเพลงที่ “ไม่มีเนื้อร้อง”
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังได้ข้อมูลที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง เช่น เพลงที่มักจะทำให้เราหลอนหูได้ง่ายกว่ามักจะเป็นเพลงที่มีจังหวะเร็ว ทำนองจำง่าย เนื้อเพลงเป็นคำง่าย ๆ และมีการร้องซ้ำไปซ้ำมาหลาย ๆ รอบจนกว่าจะจบเพลง รวมถึงการออกแบบทำนองของเพลง ที่ทำให้ช่วงแรก ๆ เป็นโน้ตที่ค่อนข้างสูง ช่วงถัดมาจะเป็นโน้ตที่ต่ำลง แล้วพอเข้าใกล้ท่อนฮุกก็จะเป็นโน้ตสูงขึ้นอีกทีหนึ่ง และจะวนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนจบเพลง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่คนแต่งเพลง “จงใจ” ทำให้เพลงเป็นที่จดจำ สามารถเข้าไปติดอยู่ในหัวคนฟังได้แม้ว่าจะฟังเพียงครั้งเดียว ยิ่งในยุคที่การสร้างแบรนด์ต่าง ๆ ต้องอาศัยการเป็นไวรัล การทำให้เพลงติดหูจนทำให้ผู้บริโภคออกมาแชร์ประสบการณ์ ถือว่าประสบความสำเร็จ
ดังนั้น ประเภทของเพลงที่มักทำให้เกิด Earworm จึงมักจะเป็น
- เพลงป๊อปที่ทำนองติดหู
- เพลงโฆษณาที่มีการทำซ้ำหลายครั้ง (ใช้กระบวนการแบบ Music Marketing)
- เพลงประกอบภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่มีจังหวะโดดเด่น
- เพลงเด็กที่มีทำนองและเนื้อร้องง่าย ๆ
ใครบ้างที่จะเกิดอาการ Earworm
อย่างที่บอกว่านักจิตวิทยาทั่วโลกให้ความสนใจกับการเกิด Earworm มาก จึงทำการศึกษาวิจัยภาวะนี้กันมากมาย ข้อมูลของการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ลงใน British Journal of Psychology วารสารด้านจิตวิทยาเล่มหนึ่ง ระบุว่า มนุษย์กว่า 98 เปอร์เซ็นต์ ล้วนเคยเจอปรากฏการณ์นี้กับตัวเองมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งระยะเวลาที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ทว่าพบว่าในผู้หญิง อาการ Earworm จะคงอยู่นานกว่าในผู้ชาย นอกจากนี้ งานวิจัยยังจัดกลุ่มคนที่สามารถมีอาการ Earworm ได้บ่อย ๆ ว่าเข้าข่ายเป็นกลุ่มคน 4 กลุ่มนี้ก็ได้
- กลุ่มคนที่มีทักษะการจดจําที่ดี
- กลุ่มคนที่มีอาการย้ำคิดย้ำทํา
- กลุ่มคนที่มีจิตใจอ่อนไหวง่าย
- กลุ่มคนที่มีความไวต่อสิ่งเร้า
จะทำยังไงเพื่อแก้อาการ Earworm
แม้ว่าอาการ Earworm จะไม่ใช่อาการร้ายแรง ไม่ใช่ความผิดปกติ และไม่เกิดอันตรายใด ๆ เราจะมีอาการอยู่เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ก่อนที่เพลงท่อนนั้นจะหายไปเอง แต่ส่วนมาก อาการ Earworm มักจะสร้างความรำคาญ และทำให้รู้สึกว่าไม่มีสมาธิที่จะทำงานหรือเรียนหนังสือ ด้วยในหัวยังหลอนอยู่แต่กับเพลงท่อนเดิมตลอดเวลา แต่อาจจะสร้างปัญหาตอนที่กำลังจะนอนได้ เพราะเพลงท่อนเดิมที่วนเวียนอยู่ซ้ำ ๆ จะทำให้เรานอนไม่หลับ อาจทำให้อดนอน นอนไม่พอ พักผ่อนน้อย อ่อนเพลีย จึงต้องหาทางเอาเพลงดังกล่าวออกจากหัว สำหรับวิธีที่น่าสนใจในการแก้อาการ Earworm มีดังนี้
ร้องออกมาให้จบเพลง
ร้องวนดีนักใช่ไหมล่ะ ก็ร้องออกมาให้มันจบเพลงไปเลยสิ เนื่องจากอาการ Earworm ที่เกิดขึ้นนั้นมักจะมาเป็นท่อนสั้น ๆ บางทีก็เป็นท่อนฮุก บางทีเป็นแค่ประโยคติดหูประโยคเดียว แต่จะวนซ้ำ ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกไปเรื่อย ๆ ติดอยู่ในสมองเราไปอีกหลายชั่วโมงหรือหลายวัน ดังนั้น วิธีการแก้แบบเบสิกที่สุดที่ทำได้ทันที คือการฟังแล้วร้องเพลงนั้นออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ (ร้องออกเสียงยิ่งดี) เพื่อไม่ให้สมองเราจดจำท่อนเดิมซ้ำ ๆ แค่ท่อนเดียว ตามหลักจิตวิทยา อะไรก็ตามที่เรายังทำไม่จบ มันจะยังคงติดค้างอยู่ในจิตใต้สำนึกจนกว่าจะทำได้สำเร็จ เช่นเดียวกับเพลง ถ้าเรายังร้องท่อนเดิมวนเวียนไม่หยุด มันก็จะติดหล่มความค้างคา การฟังแล้วร้องออกมาให้จบ จะช่วยปลดล็อกสมองจากหล่มนั้น
ฟังเพลงอื่นทับไปเลย
เป็นวิธีแบบหนามยอกเอาหนามบ่ง ตาต่อตาฟันต่อฟันสุด ๆ หากทนรำคาญกับเพลงเดิมที่วนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ในหัวไม่ไหวแล้ว อีกวิธีที่ได้ผลค่อนข้างดีก็คือ การเปิดเพลงอื่น ๆ ฟังทับไปเลย โดยเฉพาะเพลงที่เราคุ้นเคยมาทั้งชีวิต แต่ก็ไม่เคยหลอนหูสักที ฟังไปเรื่อย ๆ หลาย ๆ เพลง ปล่อยใจสบาย ๆ เพลิน ๆ แอบฮัมในลำคอไปด้วยก็ดี หรือถ้าไม่ลำบากมากไปก็ร้องมันออกมาซะเลยก็ได้ การฟังเพลงใหม่หรือเพลงที่มีทำนองแตกต่างไปจากเดิม อาจจะช่วยล้างท่อนเพลงเก่าที่ติดอยู่ในหัวออกของเราออกไปก็ได้
หากิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิมาก ๆ ทำ
สมองของคนเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้โฟกัสการทำงานได้มากกว่า 1 อย่างในเวลาเดียวกัน สมองเราไม่สามารถแบ่งสมาธิสำหรับ 2 เรื่องไปพร้อมกันได้ ในความเป็นจริง เราสามารถทำงานใช้สมาธิได้ทีละอย่างเท่านั้น ลองสังเกตดูก็ได้ว่า เวลาที่เรามีเสียงเพลงดังกึกก้องในหัวอยู่ตลอดเวลา มันมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่สมองของเราโล่ง ๆ หรือตอนที่เรากำลังทำกิจกรรมที่ไม่เน้นใช้สมาธิสักเท่าไร ฉะนั้นแล้ว ถ้าอยากสลัดเพลงใด ๆ ออกจากหัวล่ะก็ ให้พยายามเบี่ยงเบนความสนใจ หาทางให้สมองของเราไปโฟกัสกับกิจกรรมอื่นที่ต้องใช้สมาธิมาก ๆ เช่น เล่นเกมไขปริศนา ดูทีวี อ่านหนังสือ หรือพูดคุยกับเพื่อน ระหว่างนั้นเราก็จะไม่ได้ยินเสียง Earworm อีก
เคี้ยวหมากฝรั่ง
ใครจะไปคิดว่าการเคี้ยวหมากฝรั่ง จะสามารถกำจัดเพลงที่วนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ในหัวของเราได้ อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยบางชิ้นที่ค้นพบว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งสามารถช่วยลดอาการ Earworm ได้ โดยมีคำอธิบายว่าในขณะที่อาการ Earworm กำลังเล่นงานเรา ขากรรไกรจะถูกใช้งานในเวลาที่กำลังนึกถึงเนื้อเพลงหรือร้องเพลง ดังนั้น ถ้าเราใช้ขากรรไกรเคี้ยวหมากฝรั่งซะ ขากรรไกรที่ขยับอยู่ตลอดเวลาจะไม่มีเวลามากพอให้ไปนึกถึงเนื้อเพลง จึงอาจทำให้สมองไม่สามารถเล่นซ้ำเพลงได้อย่างเต็มที่ และไม่นาน เพลงที่หลอนติดหูอยู่ก็จะค่อย ๆ หายไป
ปล่อยมันไปสักพัก เดี๋ยวก็ลืมเอง
ดูเหมือนจะไม่ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรเลยใช่ไหม จริง ๆ แล้ว อาการ Earworm มันมักจะติดอยู่ในหัวเราแค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ และอาจจะไม่นานพอที่จะส่งผลกระทบอะไร แค่รำคาญนิดหน่อยเท่านั้นเอง ถ้ามันเกิดขึ้นในเวลากลางวัน ก็อาจจะไม่ได้รบกวนชีวิตหรือสร้างความรำคาญอะไรมากมาย ปล่อยมันไปสักพัก ไม่ต้องไปให้ความสนใจมันมาก และอย่าปักหลักความคิดของเราให้วนเวียนอยู่กับการอยากลืมเพลงนั้นอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวเพลงท่อนนั้นก็จะหายไปจากหัวเราเอง แต่ถ้ามันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กำลังจะนอน อันนี้อาจจะสร้างปัญหาที่ทำให้นอนไม่หลับได้ ต้องรีบกำจัดออกไปจากหัวก่อนนอน