ความรู้ใหม่! เพิ่งจะรู้ว่าหมึกกรอบที่หลายคนชอบกิน ทำจากเอาหมึกผสมน้ำขี้เถ้า!!!

ความรู้ใหม่! เพิ่งจะรู้ว่าหมึกกรอบที่หลายคนชอบกิน ทำจากเอาหมึกผสมน้ำขี้เถ้า!!!

ความรู้ใหม่! เพิ่งจะรู้ว่าหมึกกรอบที่หลายคนชอบกิน ทำจากเอาหมึกผสมน้ำขี้เถ้า!!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชื่อว่าหมึกกรอบ คือหนึ่งในอาหารที่หลายคนชอบกินเวลาสั่งเย็นตาโฟ หรือไปกินหมูกระทะ เพราะด้วยความที่มันกรุบกรอบเคี้ยวเพลินกินได้เรื่อยๆ นั่นเอง แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่รู้ขั้นตอนการทำของมันว่าทำยังไงถึงได้กรอบเด้งสู้ปากแบบนี้

วันนี้เราก็ได้ไปหาข้อมูลมาให้เพื่อนๆ ได้รู้กันแล้วว่า วิธีการทำหมึกกรอบ ต้องทำยังไง ใช้วิธีอะไร หมึกถึงได้กรอบกินเพลินได้แบบนี้ ใครสงสัยอยู่มาดูกันเลย

วิธีการทำหมึกกรอบวิธีการทำหมึกกรอบ

ความรู้ใหม่! เพิ่งจะรู้ว่าหมึกกรอบที่หลายคนชอบกิน ทำจากเอาหมึกผสมขี้เถ้า!!!

การทำหมึกกรอบจัดเป็นการแปรรูปปลาหมึกเพื่อถนอมอาหารแบบหนึ่ง เพื่อให้สามารถเก็บปลาหมึกไว้รับประทานได้นานๆ และประกอบอาหารได้หลากหลายประเภท

ขั้นตอนการทำหมึกกรอบ สามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้ขี้เถ้า หรือเบคกิ้งโซดา ที่มีขายตามท้องตลาด โดยสารละลายของน้ำขี้เถ้า หรือสารละลายเบคกิ้งโซดา จะมีคุณสมบัติเป็นด่าง การทำหมึกกรอบนิยมใช้หมึกกล้วยแห้ง อัตราส่วนผสมที่นิยมใช้คือ ขี้เถ้า 1 ส่วน ต่อน้ำสะอาด 1 ส่วน หรือ เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ลิตร ค่าความเป็นกรด-ด่าง ที่ได้จากสารละลายจะมีค่าประมาณ 8.1-8.2 สารละลายที่เตรียมสามารถนำมาทำหมึกกรอบได้ประมาณ 2 ตัว ต่อ สารละลายเบคกิ้งโซดา 1 ลิตร

อุปกรณ์ทำหมึกกรอบ

  • น้ำขี้เถ้า หรือ เบคกิ้งโซดา (Sodium bicarbornate)
  • ภาชนะก้นลึกทำจากแก้ว หรือพลาสติก หรือเซรามิค
  • น้ำเปล่า
  • ปลาหมึกแห้ง

วิธีการทำหมึกกรอบ

  • เตรียมภาชนะก้นลึก เช่น ชามแก้ว หรือชามพลาสติก หรือถ้วยเซรามิค ล้างให้สะอาด
  • นำขี้เถ้าแช่ในน้ำสะอาดอัตราส่วน 1:1 (ขี้เถ้า 1 ส่วน น้ำสะอาด 1 ส่วน)
  • กวนให้เข้ากันและปล่อยให้ตกตะกอนทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืน
  • ดูดเอาแต่น้ำใส ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นน้ำด่างมาใช้ในการดองปลาหมึก
  • เอาหมึกแห้งที่เตรียมไว้แช่ลงในน้ำด่าง หาอะไรทับให้หมึกแห้งจมอยู่ใต้น้ำด่าง ทิ้งไว้ 12-24 ชั่วโมง
  • ก่อนนำปลาหมึกมารับประทานควรล้างทำความสะอาดอีกครั้งด้วยน้ำสะอาด
  • หากรับประทานไม่หมด ให้นำหมึกกรอบใส่ภาชนะที่มีน้ำสะอาด เปลี่ยนถ่ายน้ำทุกวัน หรือหากต้องการเก็บไว้นานให้แช่ในตู้เย็น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook