พี่แหม่ม หัวใจใหญ่กว่ามะเร็ง เปิดประเดิม Podcast คู่ หมอสอง นพ.นพรัตน์

‘หัวใจของการก้าวข้ามมะเร็ง สำคัญที่สุดคือ การทำความเข้าใจ และยอมรับให้เร็วที่สุด’ นี่คือหนึ่งแรงใจ กำลังใจดีๆ จาก พี่แหม่ม หัวใจใหญ่กว่ามะเร็ง หรือ นางนันทวรรณชยา ภาจิตประพันธ์ ผู้บริหารเนเจอร์เฮิร์บ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง จำกัด เจ้าของเพจ พี่แหม่มหัวใจใหญ่กว่ามะเร็ง ที่ช่วยเหลือและให้ความรู้ผู้ป่วยมะเร็ง มาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี และยังคงเดินหน้าให้ความรู้ พร้อมช่วยเหลือในด้านต่างๆ สำหรับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับ Podcast EP1 กับการพูดคุยกับคุณหมอชื่อดัง หมอสอง นพ.นพรันต์ รัตนวราห ศัลยแพทย์อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่จะมาให้ความรู้รอบด้าน เรื่องการทำศัลยกรรมหน้าอก เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหรือไม่ ?

โดยทาง พี่แหม่ม ได้เปิดใจว่า “เป็นครั้งแรกที่พี่แหม่มทำ Podcast ที่จะเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพในทุกๆ มิติ ทั้งศาสตร์การแพทย์ปัจจุบัน ศาสตร์การชะลอวัย Anti-Aging รวมถึงศาสตร์การแพทย์แผนไทย และวันนี้จะมาคุยเรื่องการทำศัลยกรรมเต้านม ทำให้เกิดมะเร็งได้จริงหรือไม่ ซึ่งได้คุณหมอศัลยกรรมเฉพาะทางด้านทรวงอกชื่อดัง คุณหมอสอง นพ.นพรัตน์ รัตนวราห มาร่วมให้ความรู้อย่างรอบด้าน ใครที่หวั่นวิตกเรื่องการทำศัลยกรรมแล้วจะก่อให้เกิดมะเร็งหรือไม่นั้นต้องฟังค่ะ’

ทางด้านหมอสอง นพ.นพรัตน์ ได้เปิดใจการเสริมหน้าอก มีผลเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหรือไม่นั้นว่า ‘อะไรก็ตามที่เป็นการอักเสบเรื้อรัง อักเสบหาย อักเสบหาย มีโอกาสเทิร์นเป็นมะเร็งเสมอ คนที่เสริมหน้าอกคือคนที่มีปัญหาหน้าอกเล็ก ดังนั้นคนที่หน้าอกใหญ่เขาไม่เสริม และคนที่มีหน้าอกใหญ่และไม่เสริม ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นมะเร็งมากกว่าคนที่หน้าอกเล็ก คนกลุ่มนี้เป็นโรคชนิดนี้จึงเลือกที่จะตัดออกไปเลย’

‘ในมุมมองของผม อายุที่เหมาะสมแก่การทำศัลยกรรมหน้าอีก ผมแนะนำวัยเริ่มต้นสัก 20 ปีขึ้นไป เพราะทั้งวุฒิภาวะ และสรีระ คือพร้อม และ อายุ20 ปี คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเซ็นยินยอม ในส่วนของวัสดุทางการแพทย์ที่ใช้ในการทำ ซิลิโคน มีมายาวนาน ผมอยู่มายาวนานกว่า 20 ปี ยุคเริ่มต้นน้ำเกลือ ระยะหลังจะชอบรั่ว แต่ไม่อันตราย ถัดมา ซิลิโคนเจล ซึ่งในยุคเริ่มต้นจะเป็นผิวเรียบ แต่เกิดปัญหาว่าพอผ่านไปนานๆ หน้าอกแข็งเขาเลยผลิตผิวทรายขึ้นมา พัฒนาไปถึงรูปทรงที่สวยงาม และต่อมาเราพบว่าการแบบเนื้อทรายชนิดหยาบ พอนานไป เสี่ยงจะก่อให้เกิดเนื้องอกต่อมน้ำเหลืองชนิดนึง แต่อัตราเกิดมันน้อยมากประมาณ 1 ใน 8 หมื่นราย

‘ปัจจุบันซิลิโคนพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก ผมใช้ซิลิโคนที่นิ่มมากๆ และเป็นผิวเรียบที่เหมือนธรรมชาติมาก พอสัมผัสจะนิ่มมาก พอจับตั้งขึ้นมันจะเป็นทรงหยดน้ำในตัว และมีความยืดหยุ่นมาก สามารถบีบและคืนตัวได้ และการผ่าตัดของผมจะผ่าตัดร่วมกับกรวย มันเป็นกรวยที่ผลิตเฉพาะจากแผ่นซิลิโคนใช้แล้วทิ้ง จะช่วยให้มือเราไม่ต้องสัมผัสกับซิลิโคนลดความเสี่ยง แผลเล็ก หายเร็ว เจ็บน้อย ห้องผ่าตัดสะอาดปลอดภัย มันจะทำให้ตัวแบคทีเรียฉาบที่ผิวน้อยมาก คือการที่มีตัวแบคทีเรียฉาบที่ผิว ในระยะยาวจะทำให้มีเจลวุ้นๆที่เรียกว่าไบโอฟิล์ม ซึ่งไบโอฟิล์มจะมีแบคทีเรีย ห่อหุ้มตัวนี้จะกระตุ้นให้เกิดปัญหา กระตุ้นให้หน้าอกแข็งในระยะยาว และก่อให้เกิดความเสี่ยงครับ’