เปิดตำนาน! ไอ้ด่างเกยชัย จระเข้ยักษ์แห่งแม่น้ำยม ที่มีบันทึกอยู่จริง

เปิดตำนาน! ไอ้ด่างเกยชัย จระเข้ยักษ์แห่งแม่น้ำยม ที่มีบันทึกอยู่จริง

เปิดตำนาน! ไอ้ด่างเกยชัย จระเข้ยักษ์แห่งแม่น้ำยม ที่มีบันทึกอยู่จริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไอ้ด่างเกยชัย เป็นชื่อเรียกของจระเข้ตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ที่เคยอาละวาดกินคนที่แม่น้ำน่าน บ้านเกยชัย จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 (ปัจจุบันคือ ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์) ซึ่งผู้คนเชื่อว่าเป็นจระเข้เจ้า ที่ได้ชื่อว่า ไอ้ด่าง เพราะปลายจมูกมันมีดวงด่างสีขาวเป็นจุดเด่น

จระเข้ยักษ์ (ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)

เปิดตำนานไอ้ด่างเกยชัย จระเข้ยักษ์แห่งแม่น้ำยม ตำนานที่มีบันทึกอยู่จริง

ไอ้ด่างเกยชัย จระเข้ยักษ์แห่งแม่น้ำยม ที่สร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้านมานานนับปี! เรื่องราวของ “ไอ้ด่าง” ตัวนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่าในวงสนทนา แต่เป็นตำนานที่ถูกเล่าขานกันมาแบบรุ่นสู่รุ่น จากอดีตถึงปัจจุบัน และยังคงเป็นหนึ่งในเรื่องที่ชวนให้คนในท้องถิ่นนครสวรรค์พูดถึงเสมอเมื่อพูดถึงตำนานสัตว์ประหลาด!

ไอ้ด่างเกยชัย เป็นจระเข้ขนาดมหึมา ที่มีลักษณะพิเศษ คือ มีสีด่าง ๆ ขาว ๆ ตรงตามชื่อเลย มันอาศัยอยู่ในแม่น้ำยม บริเวณตำบลเกยชัย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างบอกว่า ไอ้ด่างเป็นจระเข้ที่มีความดุร้ายมาก ทั้งสัตว์และคนที่เข้าใกล้แม่น้ำยมนั้น ต่างต้องระวังตัว เพราะมีหลายครั้งที่มันไล่ล่าและโจมตีสิ่งมีชีวิตที่ผ่านไปผ่านมา

บางคนเล่าว่าไอ้ด่างเกยชัยตัวนี้เคยโจมตีเรือที่แล่นผ่านแม่น้ำยม หลายครั้งถึงขนาดกลืนวัวลงไปทั้งตัว ชาวบ้านหลายคนถึงกับหวาดกลัวจนไม่กล้าไปใกล้แม่น้ำ และพยายามหาทางจับมัน แต่ไอ้ด่างกลับหายตัวไปเสมอ เหมือนกับมันมีวิธีหลบหนีอันชาญฉลาด นอกจากนั้นยังมีข้อมูลเล่าว่า ไอ้ด่างเกยชัยถูกปราบโดยชาวเรือ โดยการใช้สามง่ามทิ่มแทงตามท้อง เป็นแผลมากมาย จนทนพิษบาดแผลไม่ได้ เอาหัวเกยหาดหน้าวังตะกอน จึงถูกยิงซ้ำจนตาย

เรื่องราวของไอ้ด่างเกยชัย มีบันทึกอยู่ในสมุดบันทึกของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อคราวที่ท่านเสด็จไปตรวจราชการที่เมืองเหนือ ได้บันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวของไอ้ด่างเกยชัยไว้สั้น ๆ 2 บรรทัด มีใจความว่า ที่นี่มีศีรษะของจระเข้ใหญ่ เป็นจระเข้กินคน ชาวบ้านเล่าลือกันว่าเป็นจระเข้เจ้า มีพระยาคนหนึ่งได้นำเอาศีรษะจระเข้นี้เข้ากรุงเทพ ฯ และได้ขายต่อให้ชาวต่างชาติไป และเรื่องราวของมันก็ยังเคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อ "ไอ้ด่างเกยชัย" มาแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook