‘ความเหงา’ อันตรายได้เท่ากับการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน

‘ความเหงา’ อันตรายได้เท่ากับการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน

‘ความเหงา’ อันตรายได้เท่ากับการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

‘ความเหงา’ อันตรายได้เท่ากับการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เคยออกมาเตือนว่า ความเหงา กำลังเป็นภัยคุกคามด้านสุขภาพ

‘ความเหงา’ อันตรายได้เท่ากับการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน

คำนิยาม ความเหงา(Loneliness) จากคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุไว้ว่า

“ความเหงา (Loneliness) เป็นความรู้สึกหนึ่งของมนุษย์ ที่เกิดขึ้นจากการรับรู้ว่าตนขาดการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม หรือมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมน้อยกว่าที่ตนต้องการ เรียกได้ว่าเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการรับรู้และตีความสถานการณ์ในความสัมพันธ์ของตน เช่น การที่คนคนหนึ่งมีเพื่อนหลายคน ไปพบและเจอเพื่อนบ่อย แต่ก็อาจจะเกิดความรู้สึกเหงาได้จากการรับรู้ว่าความสัมพันธ์ที่ตนมีนั้นไม่มีคุณภาพ ไม่ตรงกับความคาดหวัง ในขณะเดียวกันคนที่มีเพื่อนน้อย แต่เป็นความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ สามารถแบ่งปันประสบการณ์ในชีวิตและให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ ก็อาจจะไม่ได้มีความเหงาเกิดขึ้น”

ความเหงาแพร่กระจายติดต่อกันได้เหมือนโรคระบาด

ใน บทหนึ่งของหนังสือ ‘EMOTIONAL FIRST AID ซ่อมแซมสุขที่สึกหรอ’ พูดถึงความเหงาว่ามันสามารถแพร่กระจายถึงกันได้

การศึกษาพบว่า ความเหงาแพร่กระจายผ่านกระบวนการติดต่อ (Contagion process) อย่างงานศึกษาที่ได้ตีพิมพ์ใน Journal of Personality and Social Psychology กล่าวโดยสรุปว่า หากคนไม่เหงามาอยู่กับคนเหงา มีโอกาสที่คนไม่เหงาจะกลายเป็นคนเหงาในที่สุด

ที่น่าตกใจที่สุดมันมีโอกาสแพร่กระจายไปทั่วเครือข่ายสังคมนั้น ทำให้ทุกคนเกิดความเหงาในที่สุด

ความเหงาไม่ได้ส่งผลต่อแค่อารมณ์มันส่งผลเสียเหมือนการสูบบุหรี่ ทุกคนรู้ว่าการสูบบุหรี่อันตราย แต่อย่างน้อยบนซองยังมีคำเตือน แต่กับความเหงา มันไม่มีอะไรบอกทั้งนั้น รู้ตัวอีกทีเราก็จมอยู่กับความรู้สึกนั้นไปแล้ว

ความเหงา ทำร้ายคนเท่ากับสูบบุหรี่ 15 มวน

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริคแฮม ชี้ว่า ความเหงานั้นสามารถบั่นทอนสุขภาพร่างกายของเราได้มากพอกับ การเป็นโรคอ้วนหรือการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาอื่น ๆ อีกมากมายที่ชี้ว่าความเหงา ก่อให้เกิดปัญหาความเครียด ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นซึมเศร้า อีกทั้งอาจจะทำให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่ดี เช่น การดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น ,การไม่รับประทานอาหารจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ เป็นต้น

รับมือกับความเหงาอย่างไร?

1.กลับมาทบทวนความรู้สึกที่เกิดขึ้นของตน ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้น คือความเหงา ความเศร้า ความโดดเดี่ยว หรือเป็นความรู้สึกอะไร เพื่อทำความเข้าใจที่มาที่ไปของความรู้สึกที่เกิดขึ้น

2.กลับมาทบทวนความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง มองหาความสัมพันธ์ที่ตนเองต้องการหรือความสัมพันธ์ที่มีคุณค่า ปริมาณของความสัมพันธ์อาจไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพของความสัมพันธ์ที่มีอยู่

3.พัฒนาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพของตน บอกเล่าความรู้สึก เรื่องราวในชีวิตประจำวันกับความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจ

4.เปิดโอกาสให้ตนได้เรียนรู้ที่จะมีความสัมพันธ์ใหม่ ๆ และไม่ปิดกั้นตัวเองในการสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบๆข้าง

5.หากิจกรรม งานอดิเรกทำเพิ่มเติม การกลับมาอยู่กับตัวเอง ให้เวลาตัวเอง บางครั้งสามารถทำให้ความเหงาชั่วครั้งชั่วคราวลดลงได้

6.เลี้ยงสัตว์เลี้ยง การมีสัตว์เลี้ยงสักตัวจะทำให้เกิดความผูกพัน เกิดความสัมพันธ์ที่มีความหมายและช่วยลดความเหงาลงไปได้

7.พูดคุยปรึกษากับนักจิตวิทยา เพื่อหาวิธีรับมือกับความเหงาเพิ่มเติม

ความเหงา นั้นน่ากลัวและอันตรายอย่างมาก นอกจากมันจะเกิดขึ้นได้กับทุกคนแล้ว มันยังแพร่กระจายต่อได้อีกด้วย ลองเปิดโอกาส มองย้อนดูในสิ่งที่เราทำได้ เพื่อให้ความเหงาได้หายไปจากใจบ้าง อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ iNN

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook