วิธีรักษาไข้เลือดออกในเด็กที่พ่อแม่ควรต้องรู้
ไข้เลือดออกเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งมักพบในช่วงฤดูฝนและส่งผลกระทบต่อเด็กเล็กได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในประเทศไทย โรคนี้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ แล้วจะมี วิธีรักษาไข้เลือดออกในเด็ก ที่พ่อแม่ควรต้องรู้อย่างไรบ้าง เราจะพาไปหาคำตอบกันในบทความนี้
สาเหตุและความเสี่ยงของไข้เลือดออกในเด็ก
ก่อนจะไปรู้ถึงวิธีรักษาไข้เลือดออกในเด็ก เรามาทำความเข้าใจสาเหตุกันก่อน
ไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี ซึ่งแพร่กระจายผ่านการกัดของยุงลาย เมื่อยุงลายตัวเมียที่ติดเชื้อกัดคน ก็จะถ่ายทอดเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายของคนนั้นได้
เด็กเล็กมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อไข้เลือดออกมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงพอ และอาจมีอาการรุนแรงได้มากกว่า
อาการของไข้เลือดออก
- ก่อนจะไปรู้ถึงวิธีรักษาไข้เลือดออกในเด็ก เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการกัน โดยอาการของไข้เลือดออกในเด็กอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปจะพบอาการดังนี้
- ไข้สูง เป็นอาการเริ่มแรกที่พบได้บ่อย
- ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง เช่น ผื่นแดง เลือดออกตามไรฟัน
- ปวดท้อง
- อาเจียนเป็นเลือด หรืออุจจาระเป็นเลือด (ในกรณีที่รุนแรง)
วิธีรักษาไข้เลือดออกในเด็ก
ปัจจุบันยังไม่มียาที่สามารถรักษาโรคไข้เลือดออกได้โดยตรง วิธีรักษาไข้เลือดออกในเด็กจึงมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยมีหลักการดังนี้
- ให้ยาลดไข้ ควรให้ยาลดไข้ชนิดพาราเซตามอลเท่านั้น ห้ามให้ยาแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกได้
- เช็ดตัวลดไข้ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิร่างกาย
- ให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
- สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอาการช็อก ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงที่สุดของโรคไข้เลือดออก อาการช็อกอาจแสดงออกได้ดังนี้
- ตัวเย็น ชีพจรเร็ว หายใจเร็ว
- ผิวหนังซีด
- ปัสสาวะน้อยลง หรือไม่มีปัสสาวะ
- ซึมลง
เมื่อใดควรพาบุตรหลานไปพบแพทย์
หากบุตรหลานมีอาการไข้สูง ปวดท้อง มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรพาไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
การป้องกันไข้เลือดออก
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เช่น กำจัดภาชนะที่ใส่น้ำขัง เปลี่ยนน้ำในแจกันทุกสัปดาห์ ปิดฝาภาชนะที่ใส่น้ำให้มิดชิด และใช้ยาฆ่าแมลงกำจัดยุงลาย นอกจากนี้ การนอนในมุ้ง และสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการป้องกันการถูกยุงกัด
ไข้เลือดออกเป็นโรคที่อันตรายและสามารถป้องกันได้ การดูแลสุขอนามัยที่ดี และการสังเกตอาการของบุตรหลานอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญ หากสงสัยว่าบุตรหลานป่วยเป็นไข้เลือดออก ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม