หมอของขวัญเผย บุหรี่ และ บุหรี่ไฟฟ้า มีอันตรายแค่ไหน อะไรอันตรายกว่ากัน
หลายคนอาจจะมองว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีความปลอดภัยและดีกว่าบุหรี่ธรรมดา เพราะไม่ต้องมีการจุดไฟเผาไหม้ รวมถึง ไม่มีกลิ่น แต่นั่นคือความคิดที่ผิด เพราะกลิ่นควันบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าต่างก็มีผลกระทบต่อสุขภาพ แม้จะมาในรูปแบบและกระบวนการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองอย่างก็ไม่ได้ ปลอดภัย เลยจริงๆ
ล่าสุดทาง หมอของขวัญ ก็ได้ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ และ บุหรี่ไฟฟ้า ให้หลายๆ คนได้เข้าใจกันว่า บุหรี่ และ บุหรี่ไฟฟ้า มีอันตรายต่อร่างกายมากแค่ไหน มีอะไรปลอดภัยกว่ากันหรือไม่
โดยหมอของขวัญได้อธิบายว่า บุหรี่ความอันตรายคือการสันดาป หรือ ปฏิกิริยาการรวมตัว กันของเชื้อเพลิงกับออกซิเจนอย่างรวดเร็วพร้อมเกิดการลุกไหม้และคายความร้อน ซึ่งการเผาไหม้ น้ำมันดิน จะเป็นสารก่อมะเร็งชั้นดี โดยคนที่สูบบุหรี่มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคนที่ไม่สูบกว่า 10 เท่า
บุหรี่ไฟฟ้าต่างกันคือไม่ได้ใช้ไฟจุด แต่อันตรายของมันคือขดลวดที่ทำให้เกิดความร้อนที่เป็นโลหะหนัก ตะกั่ว และเมื่อเกิดความร้อนสูงอาจจะทำให้เข้าร่างกายได้ รวมไปถึง น้ำยาบุหรี่ เมื่อเผาไปถึงจุดหนึ่งแล้วมันจะได้สารที่เรียกว่าฟอร์มาลดีไฮด์ หรือ ฟอร์มาลิน ที่ไว้ฉีดศพ และเมื่อใช้ไปนานๆ ก็จะทำให้ปอดอักเสบ ที่เรียกว่าโรค EVALI ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักกับปอดอย่างมาก ในบางครั้งรักษาแล้วอาจจะกลับมาใช้งานเท่าเดิมไม่ได้อีกด้วย
ถ้าวัดกันเรื่อง นิโคติน
บุหรี่ 1 มวน มี 1-2 มิลลิกรัม แต่สำหรับการดูดบุหรี่ไฟฟ้า 1 ครั้ง เท่ากับ 1 มวน หรือ 1-2 มิลลิกรัม ซึ่งถ้าดูด 1 ครั้ง 20 ที ก็เทียบเท่าการดูดบุหรี่ 1 ซอง
หรือเราจะสรุปได้ว่า
บุหรี่แบบดั้งเดิมมีสารพิษจำนวนมากที่เกิดจากการเผาไหม้ ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งผู้สูบและคนรอบข้างอย่างรุนแรง สำหรับ บุหรี่ไฟฟ้า แม้จะไม่มีการเผาไหม้ แต่ยังคงมีนิโคตินและสารเคมีที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว และยังมีความเสี่ยงเฉพาะ เช่น การปนเปื้อนสารพิษในไอระเหย ทั้งคู่มีอันตรายทั้งคู่ถ้าลดหรือเลิกได้ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ