8 คนเก่ง เผยเคล็ดลับพิชิตแอดมิสชั่นส์

ที่มา " การศึกษาวันนี้ " ผู้เขียน : PM_art : zorau123@hotmail.com เพิ่งเสร็จสิ้นการประกาศผลแอดมิสชั่นส์ไปเมื่อไม่นานนี้ สำหรับน้อง ๆ ที่พลาดหวังในปีนี้ไปไม่ต้องเสียใจ ยังมีมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เปิดรองรับน้อง ๆ อยู่ อนาคตของคนเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเรียนในมหาวิทยาลัยรัฐเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับตัวของเราเป็นสำคัญ การศึกษาวันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับน้อง ๆ ทุกคนค่ะ ซูเปอร์ทีน ฉบับนี้ จะพา 8 คนเก่งที่ทำคะแนนสอบได้สูงสุดในแต่ละสาขาวิชามาเปิดเผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จในการพิชิตข้อสอบแอดมิสชั่นส์ในปีนี้ พร้อมทั้งฝากข้อคิดดี ๆ มาถึงเพื่อน ๆ ที่พลาดโอกาสในปีนี้ไป เริ่มต้นกันที่หนุ่มน้อยสุดเก่งคนนี้ บูม นายกษม อิทธิสวัสดิ์พันธุ์ จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ผู้ที่ทำคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทำคะแนนได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศ ด้วยคะแนนรวม 91.22 เปอร์เซ็นต์ เปิดใจถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า สำหรับการเตรียมตัวสอบแอดมิสชั่นส์ที่ผ่านมา ผมเตรียมตัวสอบมานานแล้ว ค่อย ๆ เก็บรายละเอียดพื้นฐานมาตั้งแต่ชั้นม.4 สำหรับผมคิดว่าการที่เรามีพื้นฐานความรู้ที่ดีจะทำให้การเรียนของเราง่ายขึ้นครับ และการที่เราทำความเข้าใจในบทเรียนมาโดยตลอดจะทำให้การเตรียมตัวสอบของเราไม่ลำบากครับ ส่วนเทคนิคในการจำของผมก็ไม่มีอะไรมาก เน้นค่อย ๆ จำไปทีละนิด ตั้งใจเก็บรายละเอียดในหลาย ๆ จุดไปเรื่อย ๆ เราจะได้ไม่ต้องรีบร้อนอ่านหนังสือกองโตในเวลาที่จำกัด ส่วนเรื่องของการเรียนพิเศษสำหรับผมมีความสำคัญบ้างเหมือนกัน ซึ่งผมจะเรียนเสริมในวิชาที่ไม่มั่นใจเท่านั้น แต่ที่สุดแล้วผมมองว่าการเรียนให้ประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับความตั้งใจของเราเป็นสำคัญ ส่วนเหตุผลที่ผมเลือกเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ก็เพราะว่าผมชอบวิชาคำนวณมากและทำมันออกมาได้ดีด้วย ก็เลยเลือกที่จะเรียนทางด้านนี้ครับ สุดท้ายอยากจะฝากถึงเพื่อน ๆ ที่พลาดโอกาสไปในปีนี้ ไม่ต้องเสียใจนะครับ เรียนที่ไหนไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย ถ้าเราตั้งใจจริงและเต็มที่กับมัน อนาคตต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนครับ มาต่อกันที่อีกหนึ่งหนุ่มคนเก่งกันบ้าง ก้าว นายกล้าก้าว เอกพาณิชย์ถาวร จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ผู้ที่ทำคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ของคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยคะแนนรวม 85.23 เปอร์เซ็นต์ หนุ่มก้าวเล่าให้ฟังว่า ผมเตรียมตัวสอบมาตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว เริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่ม.4 เลย โดยจะอ่านจากวิชาที่เราถนัดไปจนจบแล้วค่อย ๆ มาอ่านในวิชาที่เราไม่ถนัดไปเรื่อย ๆ จนจบครับ ส่วนเรื่องของการเรียนพิเศษก็มีเรียนบ้าง สำหรับผม การเรียนที่ได้ผลที่สุดคือ เมื่อเรียนเสร็จในแต่ละวันแล้วต้องกลับมาอ่านทบทวนที่บ้านด้วย จะช่วยให้เราจดจำเนื้อหาในแต่ละรายวิชาได้เป็นอย่างดีครับ ส่วนเหตุผลที่ผมเลือกเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ ก็เพราะว่าผมชอบเกี่ยวกับเรื่องของการลงทุนมาก ดังนั้นเลยเลือกที่จะเรียนในสาขาวิชาที่เมื่อสำเร็จการศึกษาออกมาแล้ว ทำให้เรามีมุมมองทางด้านเศรษฐกิจ และสามารถนำเอาความรู้ที่มีไปใช้ในการลงทุนได้ คิดว่าคณะเศรษฐศาสตร์น่าจะเหมาะสมกับความชอบของผมมากที่สุดครับ สำหรับเทคนิคในการจำของผมนั้น ส่วนใหญ่แล้วผมจะจำคำศัพท์ต่าง ๆ เป็นรูปภาพครับ เมื่อเวลาที่เรานึกถึงคำใดแล้วจะทำให้เรานึกภาพของมันออกครับ สำหรับเพื่อน ๆ ที่พลาดหวังในปีนี้ ไม่ต้องเสียใจครับ อย่าเพิ่งท้อแท้ ไม่ใช่ว่าเราจะผิดหวังตลอดไป ความสำเร็จของเราอาจไม่ใช่ในวันนี้ แต่ผมเชื่อว่าสักวันความสำเร็จของเพื่อน ๆ ต้องมาถึงอย่างแน่นอนครับ อยากให้เพื่อน ๆ เลือกเรียนในสิ่งที่รัก เพราะการเรียนในสิ่งที่เรารักจะทำให้เราประสบความสำเร็จในการเรียนครับ ด้าน แชมป์ นายณพัทธ์ บูรณถาวรสม จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา หนุ่มน้อยที่ทำคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยคะแนนรวม 87.78 เปอร์เซ็นต์ เปิดใจกับเราว่า ที่ผ่านมาผมจะตั้งใจเรียนในห้องมาก อาจมีเรียนพิเศษบ้างในบางวิชาที่ไม่มั่นใจ สำหรับผมคิดว่าการเรียนในห้องเรียนและการเรียนพิเศษมีส่วนช่วยให้การเตรียมตัวสอบของผมประสบความสำเร็จครับ แต่ผมค่อนข้างที่จะให้น้ำหนักไปที่เรื่องของการเรียนในห้องเรียนเป็นหลัก สำหรับเทคนิคในการอ่านหนังสือของผม คือ ผมจะอ่านหนังสือให้มาก ๆ เน้นในส่วนที่สำคัญ ๆ เวลาที่เราทำความเข้าใจกับมันเรียบร้อยแล้ว พอเรากลับมาอ่านทบทวนอีกครั้ง จะทำให้เราจดจำได้อย่างรวดเร็วครับ ส่วนเหตุผลที่ผมเลือกเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ก็เพราะว่าผมชอบเรียนวิชาเคมีมาก เลยเลือกที่จะเรียนทางด้านนี้ครับ สำหรับเพื่อน ๆ ที่พลาดหวังในปีนี้อมแพ้นะครับ โอกาสหน้ายังมี เตรียมตัวใหม่ให้พร้อมแล้วมาสอบใหม่ปีหน้าครับ แต่ถ้าใครที่คิดจะเรียนต่อในปีนี้เลย ยังมีมหาวิทยาลัยอื่น ๆ รองรับอีกมากมาย อนาคตของคนเราจะประสบความสำเร็จได้นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวมหาวิทยาลัย ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับตัวของเรามากกว่า เรียนที่ไหนก็สามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนกันครับ ในขณะที่สาวน้อยคนเก่ง เตย นาวสาวพีรดา พจน์เจริญอนันต์ จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ผู้ที่ทำคะแนนได้เป็นอันดับ 1 ของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำคะแนนรวมได้ 85.41 เปอร์เซ็นต์ เล่าอย่างอารมณ์ดีว่า เตยจะเน้นการเรียนในห้องเป็นหลัก แล้วกลับมาอ่านหนังสือทบทวนที่บ้าน เพราะการที่เรากลับมาอ่านหนังสือทบทวนในแต่ละวัน จะช่วยให้เราเข้าใจและจดจำเนื้อหาที่เรียนได้เป็นอย่างดี เรื่องเรียนพิเศษสำหรับเตยก็มีส่วนช่วยบ้างค่ะ แต่จะยึดเรื่องของการเรียนในห้องเป็นหลักมากกว่า เรียกว่าเรียนพิเศษเพื่อเสริมความมั่นใจเท่านั้น สำหรับเทคนิคในการอ่านหนังสือของเตย คือเตยจะอ่านหลาย ๆ รอบ วิชาไหนที่มีน้ำหนักมากในการสอบแอดมิสชั่นส์จะอ่านมากหน่อย ส่วนที่เลือกเรียนบัญชีเพราะชอบวิชาคณิตศาสตร์ และอยากเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีค่ะ ก็เลยเลือกเรียนทางด้านนี้ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ประสบความสำเร็จในการสอบแอดมิสชั่นส์ปีนี้ สอบใหม่ปีหน้า ขอให้เตรียมตัวให้ดี ถ้าตั้งใจจริงเตรียมตัวทันแน่นอน แต่ถ้าใครเลือกที่จะเรียนต่อในปีนี้ก็ดีค่ะ ไม่เสียเวลาด้วย ถ้าตั้งใจเรียนประสบความสำเร็จได้ทุกคนค่ะ ข้ามฟากมาที่หนุ่มคนนี้กันบ้างดีกว่า โอ๊ต นายธนกร หล่ออัศวินนท์ จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ผู้ที่ทำคะแนนได้เป็นอันดับ 1 ของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยคะแนนรวม 86.08 เปอร์เซ็นต์ เปิดเผยว่า ผมจะพยายามอ่านหนังสือบ่อย ๆ อ่านทุกวัน ตั้งใจเรียนในห้องให้มากที่สุด ทำโจทย์ข้อสอบเก่าเยอะ ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการทำข้อสอบของปีนี้ครับ การเรียนพิเศษของผมจะแปลกกว่าคนอื่น คือผมจะเรียนในวิชาที่ชอบ อย่างเช่นวิชาสังคม เรียนแล้วมีความสุขสนุกดีครับ ส่วนวิชาอื่น ๆ ผมจะอ่านด้วยตัวเอง สำหรับเทคนิคในการจำของผม คือการอ่านให้บ่อย ๆ แล้วจะจำได้เองครับ ส่วนเหตุผลที่ผมเลือกเรียนคณะรัฐศาสตร์ เพราะชอบวิชาสังคมและภาษามากก็เลยเลือกที่จะเรียนทางด้านนี้ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ประสบความสำเร็จกับการสอบในปีนี้ ไม่ต้องคิดมากครับ ปัจจุบันนี้การศึกษาไทยก้าวหน้าไปมาก ผมคิดว่ามหาวิทยาลัยเอกชนไม่ได้ด้อยไปกว่ามหาวิทยาลัยรัฐเลย ขอให้ตั้งใจเรียนมาก ๆ และพยายามขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ รับรองว่าโอกาสที่จะประสบความสำเร็จไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน ด้าน ส้มโอ นาวสาวสิรพร เนียมสนิท สาวน้อยคนเก่งจากเมืองหมอแคน จากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้ที่ทำคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยคะแนนรวม 87.77 เปอร์เซ็นต์ เปิดใจกับเราว่า ที่ผ่านมาส้มโอจะอ่านหนังสือมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ม.6 เทอมหนึ่งค่ะ แต่จะมาเน้นหนักตอนช่วง 2 เดือนก่อนสอบ ส่วนใหญ่ส้มโอจะไปอ่านหนังสือที่หอสมุดกับเพื่อน ๆ ทุกวัน และอ่านทั้งวันค่ะ พอกลับไปบ้านก็พักผ่อน เวลาที่เรียนในห้องเรียนจะเก็บรายละเอียดที่อาจารย์สอนให้ครบถ้วน แล้วเอามานั่งอ่านทบทวนภายหลัง อย่างวิชาไหนที่เราไม่ถนัดก็จะเรียนพิเศษเสริมด้วย ทำโจทย์เก่าให้เยอะ ๆ จะช่วยให้เรามั่นใจในการสอบมากขึ้นค่ะ ส่วนที่เลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ เพราะเวลาดูข่าวแล้วอยากทำทางด้านนี้บ้าง ก็เลยเลือกที่จะเรียนทางด้านนี้ค่ะ สำหรับเทคนิคในการจำของส้มโอ คือเวลาที่ต้องจำอะไรยาก ๆ จะพยายามคิดอะไรที่ตลก ๆ จะได้จดจำได้ง่ายขึ้น สำหรับเพื่อน ๆ ที่พลาดหวังในปีนี้ ไม่ต้องเสียใจค่ะ เพราะเรายังมีความหวังในมหาวิทยาลัยอื่น ๆ อีกมากมาย การแอดมิสชั่นส์ไม่ใช่ที่สุดของชีวิต ตั้งใจเรียนให้มาก ๆ ทุกคนมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เท่า ๆ กันค่ะ ตามติดมาด้วยหนุ่ม ไอซ์ นายวีกิจ เจริญสุข จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ผู้ที่ทำคะแนนได้เป็นอันดับ 1 ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยคะแนนรวม 89.72 เปอร์เซ็นต์ เปิดใจว่า สำหรับผมไม่ได้มีเทคนิคอะไรมาก ตั้งใจเรียนในห้องเป็นหลัก หาความรู้พิเศษเพิ่มเติมอยู่เสมอ ขอให้เราตั้งใจเรียนจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือทุกวันก็ได้ พอเวลาที่เราใกล้สอบควรจะเตรียมตัวล่วงหน้าให้พร้อมที่สุด เท่านี้ก็โอ.เค.แล้วครับ สำหรับเทคนิคในการจำของผมไม่มีอะไรมาก เพราะทุกวิชาจะมีความเป็นเหตุเป็นผลอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว ถ้าเราเข้าใจ การท่องจำก็ไม่จำเป็นเลยครับ สำหรับเพื่อนที่พลาดโอกาสในปีนี้ ไม่ต้องคร่ำเครียดกับมันมาก การแอดมิสชั่นส์เป็นทางผ่านเท่านั้น เป็นแค่บันไดก้าวหนึ่ง ขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนอยู่ที่ไหนก็ประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน ส่วนตัวผมที่เลือกเรียนนิติศาสตร์ เพราะได้คุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจ ปัจจุบันนี้คุณพ่อทำหน้าที่เป็นอัยการครับ และด้วยความที่ตัวผมเองชอบวิธีการคิดและวิธีการพูดแบบนักกฎหมายอยู่แล้ว เลยเลือกที่จะเรียนทางด้านนี้ครับ ปิดท้ายกันที่ กุ๋งกิ๋ง นางสาวกัญญานันท์ สังข์หล่อ จากโรงเรียนราชินีบน ผู้ที่ทำคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยคะแนนรวม 91.04 เปอร์เซ็นต์ เปิดใจอย่างอารมณ์ดีว่า หนูจะตั้งใจเรียนในห้องมาก พยายามจำที่อาจารย์สอนให้ได้หมด อ่านหนังสือสม่ำเสมอ ขยันทำการบ้าน เต็มที่กับทุก ๆ อย่างที่ทำ แต่จะต้องไม่ลืมแบ่งเวลาพักผ่อนด้วย อาศัยว่าเวลาเรียนตั้งใจเรียนให้มาก เลยช่วยให้เวลาที่อ่านหนังสือทบทวนเข้าใจได้ไม่ยาก ส่วนเรื่องการเรียนพิเศษก็มีบ้าง หนูจะเรียนในวิชาที่ไม่มั่นใจ และเป็นวิชาที่สำคัญ การเรียนพิเศษมีข้อดีคือ เราจะได้เทคนิคใหม่ ๆ ในการจำ มีแนวข้อสอบให้เราได้ทดลองทำด้วย บางทีถ้าเราอ่านเองอาจจะไม่ได้ตรงจุดนั้นมา เทคนิคในการจำของหนู คือ เวลาที่อ่านหนังสือจะมีการจดโน้ตย่อไปด้วย และอ่านหนังสืออย่างมีสมาธิ จับใจความสำคัญของเรื่องที่อ่าน เวลาที่เราอ่านจบหน้า ก็จะนั่งหลับตาแล้วจำว่าที่เราอ่านไปนั้นมีอะไรบ้าง โดยจะจำเป็นภาพมากกว่า พอเวลาที่เราทำข้อสอบนึกถึงภาพนั้นขึ้นมาจะทำให้เราจำรายละเอียดที่อ่านมาได้ค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนที่พลาดหวังในปีนี้ไป ไม่เป็นไรค่ะ โอกาสหน้ายังมี ขอให้เรียนในสิ่งที่ชอบ เรียนที่ไหนก็ประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน ตั้งใจเรียนให้มาก ๆ พยายามหาความรู้รอบตัวอยู่เสมอ เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ ในส่วนของผู้พิการทางสายตาที่ผ่านการคัดเลือกในปีนี้มีจำนวน 2 คน เป็นนักเรียนจากโรงเรียนศรีอยุธยาทั้งคู่ คือ นางสาวนนทิยา ปาสาเน ผู้สมัครคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และนางสาวยอดขวัญ คูวัชระเจริญ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา นางสาวนนทิยา ปาสาเน เปิดใจว่า ดีใจมากที่มีชื่อติด เพราะก่อนหน้านี้สอบโควตาของมศว กับโครงการช้างเผือกสำหรับคนพิการของมหาวิทยาลัยแล้วสอบไม่ติด สำหรับเหตุผลที่เลือกคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เพราะต้องการเรียนเรื่องของภาษา โดยจะเริ่มภาษาไทยก่อน แล้วค่อยหาลู่ทางหาความชำนาญในภาษาอื่น ๆ ต่อไป เช่น ภาษาอังกฤษ และญี่ปุ่น เป็นต้น แต่ก็เป็นห่วงในเรื่องคนที่จะมาช่วยเหลือเหมือนกัน สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่มีชื่อ อยากจะร้องไห้ ก็ร้องให้เต็มที่ แล้วตั้งต้นใหม่ เพราะว่ายังมีอีกหลายเส้นทางสำหรับการเดินเข้าสู่มหาวิทยาลัย และที่สำคัญอย่าทำร้ายตัวเองค่ะ ด้าน นางสาวยอดขวัญ คูวัชระเจริญ ให้สัมภาษณ์ว่า หนูดีใจมาก กระโดดจนหัวจะทะลุหลังคาอยู่แล้ว แม้ว่าคณะที่ติดจะเป็นอันดับที่สอง แต่ก็มีความสนใจในเรื่องของสังคมและประวัติศาสตร์อยู่แล้ว เพราะเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ และมีความรู้สึกว่าอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับสังคมและประวัติศาสตร์เหมือนกับอ่านนิยาย อ่านแล้วมีความสุข นอกจากคณะที่สอบได้แล้ว อีก 3 คณะหนูก็ชอบหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นมนุษยศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือศิลปศาสตร์ และนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เมื่อพูดถึงปัญหาและอุปสรรคที่อาจจะต้องพบกับการเรียนที่ต่างจังหวัด น้องขวัญกล่าวว่า หนูคิดว่า ไม่ว่าใครก็ตาม ต้องมีปัญหาและอุปสรรคเหมือนกันทั้งนั้น สำหรับหนู คิดว่าเพื่อน ๆ ของหนูที่มหาวิทยาลัยบูรพา จะเป็นคนใจดี หนูหวังเช่นนั้นจริง ๆ รวมไปถึงศูนย์คนตาบอดตามภาคต่าง ๆ ด้วย