ไม่ยุบสภา ก็นองเลือด

ผมไม่ทราบจริงๆ

สำหรับผู้ ประกาศคำคำนี้

ในยามที่เปล่งเสียง ว่าคิดสิ่งใด

สำหรับคำประกาศที่สามารถตีความได้ทั้ง สองแง่สองมุม มองสามด้านสี่ด้าน กระทั่งพลิกแพลงได้หลายตลบว่า คนพูดนึกคิดจากเจตนาใดในชีวิต คิดจากความมุ่งมั่น เพื่อธำรงรักษาระบอบประชาธิปไตยของไทย คิดจากจิตใฝ่ต่ำ ที่สามารถเข่นฆ่าคนไทยร่วมชาติ หรือ คิดเพียงจะเล่นเกมการเมืองให้ถึงที่สุด เพื่อผลประโยชน์ที่ตนเชื่อมั่น

เพราะไม่ว่าคิดยังไง ผมก็ยังหวั่นใจ

ว่าคนพูด น่าจะมีจิตบางประการ

อันอาจหยาบกร้านหยาบคาย

กระทั่งสามารถมองเห็นความ ตายเป็นเรื่องเล่น มองเห็นการนองเลือดเป็นเรื่องธรรมดา จึงสามารถพูดจาสามวาสี่ศอกได้ โดยไม่รู้สึกรู้สาสักนิด ว่าภาวะการนองเลือดในแผ่นดินนั้น ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และ ไม่ใช่เรื่องของบุคคลที่มีความเป็นคน พึงจะยั่วยุ

ยิ่งสำหรับเกมการเมือง

ที่ต่างฝ่าย ต่างเล่นเหลี่ยมเล่นมุม

เล่นเอาล่อเอาเถิด กับอารมณ์พรึงเพริศของมวลชน

เอามันทุกสิ่งอย่าง กระทั่งกับจิตศรัทธาของผู้คน เขย่ากันหมดตั้งแต่หัวจดท้าย ตั้งแต่รากหญ้า แผ่นพื้นปฐพี ไพร่ ส่วย เจ้า อำมาตย์กระทั่งเล่นถึงฟ้าดิน ในแต่ละคำสาบาน หรือ ในแต่ละก้าวย่างของพระสงฆ์องคเจ้า ที่ไม่รู้กาลอันควร แก่สถานะของสมณะเพศ

ซึ่งเมื่อมองจากความจริง ในการเขย่า

และ เร่งเร้าให้มวลชนร้อนแรง

เสมือนเป็นเพลิงเผาเมือง

ผมยิ่งอดหวั่นใจไม่ได้ว่า ความหมายของสติในชีวิตคนไทย จะจางหายไปในช่วงระยะเวลานี้ จางหายไปพร้อมกับอารมณ์รุนแรง ซึ่งสามารถเผาบ้านเผาเมืองได้ หากไม่ได้ในสิ่งที่ตนเองพึงใจ หรือ หากไม่ได้ยินคำตอบมุมมองอันชื่นชอบ ในทัศนคติทางการเมืองเดียวกันกับตน

น่ากลัว และ น่าหวั่นใจ

หากใครคิดจะเร่งเร้ากระแสสูง

หรือ ปลุกให้ใจคนไทยลุกฮือขึ้นมา

อาจมีเหตุผลเบื้อง ต้น ในความมุ่งมั่นเพื่อสร้างประวัติศาสตร์รัฐไทยใหม่ อาจมีเหตุผลเบื้องข้าง เพื่อการต่อสู้ให้กับคนที่ตนรักใคร่ศรัทธา อาจมีเหตุผลเบื้องหลัง ถึงความไม่พึงใจ เมื่อรู้สึกว่าตนเองเป็นเพียงไพร่ ที่ถูกอำนาจอำมาตย์คอยกดขี่บีฑา หรือ กระทั่งคอยแทรกแซงสิทธิทางการเมือง

ให้ต้องทนทุกข์ทรมานใจ กับอนาคตที่ไม่มีคำตอบ

จึงพร้อมจะลุกขึ้นสู้ กับทุกสิ่งอย่างเบื้องหน้า

เพียงเพราะเชื่อว่า จะต้องดีกว่าวันนี้

ซึ่งก็เอา เถอะ สำหรับความคาดหวังวาดหวัง ทั้งในโลกอุดมคติ โลกแห่งความคิดฝันใฝ่ฝัน หรือ โลกที่เราคิดเอาว่า จะต้องสร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้น พร้อมทั้งเสียงตะโกนกู่ร้อง เรียกหาขนมปังกับประชาธิปไตย ทั้งที่สังคมไทยบริโภคข้าวกับน้ำปลา ซึ่งก็อาจเป็นเพียงคำขวัญของคำปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ ที่ปลุกเร้าให้ใจผู้คนลุกไหม้ เพื่อการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย

ซึ่งหากมอง

เพียงช่วงผ่านสำคัญนี้ ว่า

เป็นเพียงหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์

เรา ก็คงไม่รู้สึกรู้สาอะไร เหมือนกับการอ่านยุคเข็ญ ที่คนในบ้านในเมือง จะลุกขึ้นมาเข่นฆ่ากันเอง ลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าทอกันและกัน ว่าเป็นศัตรู เป็นไส้ศึก เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นคนขายชาติ หรือ กระทั่งเป็นคนที่เราต้องเข่นฆ่า เพื่อสร้างชาติในอุดมคติของเราขึ้นมาให้ได้

โดยไม่ว่ามองมุมใดก็ตามแต่

ผมก็อดจะ หดหู่ใจไม่ได้

กับสภาพที่ปรากฎ

กับ คำขวัญและเสียงตะโกนกู่ร้อง หดหู่ใจไม่ได้ ว่าหากรัฐบาลเชื่อคำของผู้สนับสนุนฝ่ายตน ให้ใช้กำลังเข้าปราบปรามการชุมนุมของผู้คนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล อะไรจะเกิดขึ้น หดหู่ใจเมื่อคิดว่า ในขบวนแถวของคนเสื้อแดง ยังมีแกนนำหลายคนที่คิดฉกฉวยสถานการณ์ จนพร้อมจะยุยงส่งเสริมให้เกิดความรุนแรงขึ้นมา ในห้วงการชุมนุม

หดหู่ใจ เมื่อคิดว่า

ฝ่ายทหาร และ ฝ่ายกุมอำนาจรัฐ

จะเสียจริต และ จิตตกให้กับความอดทนเพียงใด

หลังจากมองเห็นคนไทยคนอื่นด้วยสาย ตาที่อาจเปลี่ยนไป หรือมองคนไทยที่เห็นต่างจากตน ว่าจำเป็นต้องใช้ความรุนแรงเข้าดำเนินการ จนหลงลืมว่า เหตุผลสำคัญและความชอบธรรมที่รัฐบาล จะสามารถดำรงสถานะอันชอบธรรมได้ ก็คือ การดำเนินทุกการปฏิบัติด้วยสันติ

สำหรับความชอบธรรม ในวิธีปฏิบัติอันดีงาม

ที่มองเห็นคนไทยร่วม ชาติ ด้วยหัวใจ

ด้วยความรัก และ ความอาทร

สำหรับ เหตุผลทางการเมืองของผม เหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงใดใด เหตุผลที่ไม่เห็นด้วยในหลายประเด็นของคนเสื้อแดง ที่ผมเห็นด้วยและเคารพในสิทธิการชุมนุม เห็นด้วยในสิทธิการแสดงความคิดเห็น และ กรอบของข้อเรียกร้อง ที่ไม่นำไปสู่ความรุนแรง

สำหรับ สถานการณ์สำคัญ

ที่คนไทยทุกคน ต้องฝึกฝนชีวิต

ด้วยวุฒิภาวะทางการเมือง และ ด้วยความอดทน

อดทนที่ จะเห็นความต่างเบื้องหน้า และ เห็นสีเสื้ออันแตกต่าง ด้วยการรับฟัง มองเห็น พิจารณา และ แยกแยะแต่ละมุมมอง ในแต่ละจิตใจที่ไม่เหมือนกัน และสำหรับใครคนใด คนไทยหน้าไหนก็ตามแต่ ที่พยายามจะยุยงส่งเสริมให้เกิดความรุนแรงกับคนไทยร่วมชาติ

ผมก็มีเพียงคำสาปแช่งในหัวใจ ถึงใครเหล่านั้น

ที่พร้อมจะคิดทำร้ายทำลายแผ่นดิน

ด้วย เครื่องมือของความรุนแรง

โดยไม่อนาทรต่อเสียง ร้องไห้ และ เลือดเนื้อของคนไทย