แต่งตัวสไตล์ BIGBANG ถูกใจสาวๆ
แฟนคลับชาวไทยกรี๊ดกันสนั่น เมื่อ 5 หนุ่มสุดฮอตจากเกาหลี จี-ดราก้อน, ท็อป, แทยัง, ซึงรี, แดซอง ในนามวง BIGBANG บินลัดฟ้ามาเยือนประเทศไทย เพื่อร่วมงานประกาศรางวัล Virgin Hitz Awards 2007 ความดังของพวกเขาไม่ได้หยุดนิ่งแค่ในประเทศเกาหลี แต่ยังบินไกลไปโชว์ความสามารถไกลถึงอเมริกา แถมยังดังระเบิดถึงขั้นออกอัลบั้มแรกในประเทศญี่ปุ่นเร็วๆ นี้
BIGBANG เริ่มเปิดตัวในปี 2006 พวกเขากลายเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีวงล่าสุด ที่โดนใจแฟนเพลงวัยรุ่นทั่วประเทศเกาหลี หลังจากประสความสำเร็จอย่างมากตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในปี 2006 เรื่อยมาจนถึงครึ่งปีแรกของปี 2007 BIGBANG ได้ออกมินิอัลบั้มชุดที่หนึ่ง Always The 1st mini Album ซึ่งรวมเพลงฮิตที่สุดแห่งปี 2007 คือเพลง LIE ไว้ด้วย และล่าสุด BIGBANG ได้รับรางวัล M-net KM Music Festival 2007 สาขา Best Male Group Award และเพลง LIE ได้รับรางวัลสาขา Song of the Year Award ไปครอง BIGBANG แตกต่างจากวงป็อปอื่นๆ ตรงที่สไตล์ดนตรีของพวกเขาครอบคลุมหลายแนวมาก ตั้งแต่ฮิพฮอพ อาร์แอนด์บี จนถึงป็อปร็อค จุดเด่นของ BIGBANG คือความสามารถทางดนตรีของสมาชิกแต่ละคน จี-ดราก้อน หัวหน้าวง มีความสามารถในการเขียนเนื้อเพลงและแต่งทำนอง และมีส่วนร่วมในการทำอัลบั้ม ท็อป และ แทยัง ก็มีส่วนร่วมในการแต่งเพลงทั้งร้องและแร็พ ซึงรี เป็นคนออกแบบท่าเต้นให้กับวงอีกด้วย และสุดท้าย แดซอง มีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นในการแสดงออกทั้งร้องและเต้น
ซึงรี
แดซอง
ท็อป
จี-ดราก้อน
แทยัง
ตอนนี้พวกเขา BIGBANG ก็กลายเป็นผู้นำทางด้านแนวเพลง และแฟชั่นการแต่งกาย ในหลายๆ ประเทศทั่วเอเชีย และเมื่อทีมข่าวของเราได้รับโอกาสพิเศษเข้าไปนั่งพูดคุยกับพวกเขาทั้ง 5 คน ก็ไม่พลาดที่จะถามถึงสไตล์การแต่งกายของแต่ละคน ที่ตอนนี้กำลังฮอตฮิตและโดนใจเหล่าคนรักแฟชั่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สาวๆ หนุ่มๆ ที่รักการแต่งตัวต้องไม่พลาดกับบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ค่ะ..... สไตล์การแต่งตัวของแต่ละคนเป็นยังไง ? ซึงรี : ปกติชอบใส่เสื้อเชิ้ต และก็ใส่เสื้อกั๊กทับนิดนึง ส่วนรองเท้าที่เป็นระยิบระยับเนี่ย ชอบใส่แบบข้างเดียว อีกข้างนึงเป็นรองเท้าธรรมดา ก็คือใส่รองเท้าไม่เหมือนกัน แดซอง : ปกติผมชอบใส่เสื้อผ้าสบายๆ เป็นสไตล์มิกซ์แอนด์แมตต์มากกว่า ท็อป : ปกติแล้วถ้าโดยทั่วๆ ไปผมก็ใส่เสื้อแบบแนบตัวนิดนึง แต่ถ้าวันไหนอารมณ์โย่ๆ หน่อยก็จะใส่แบบฮิพฮอพ เป็นสไตล์ทันสมัย เทรนดี้ จี-ดราก้อน : สำหรับผมไม่เน้นเป็นสไตล์นู้น สไตล์นี้ ผมจะแล้วแต่วัน แล้วแต่อารมณ์ แล้วแต่ฤดูกาล ถ้าร้อนก็ใส่แบบหนึ่ง หนาวก็จะใส่อีกแบบหนึ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องให้เหมาะกับตัวผมเอง บางทีก็อาจจะใส่แบบฟิตๆ บ้าง บางทีเบื่อๆ ก็จะใส่แบบเสื้อยืด กางเกงยีนส์ไปเลย แทยัง : ปกติผมก็จะแต่งตัวแบบฮิพฮอพ และก็ชอบใส่หมวกแบบปีกตรง แบบที่ผมใส่อยู่ตอนนี้ ก็จะคล้ายกับจี-ดราก้อนคือ จะไม่บ้าใส่แต่ฮิพฮอพอย่างเดียว มันก็แล้วแต่วันด้วย บางวันอยากแต่งตัวสบายๆ ผมก็จะใส่ชุดวอร์มออกกำลังกาย แบบนี้ก็มีบ้าง ผมก็แต่งตัวค่อนข้างหลากหลาย แต่จะเน้นไปในสไตล์ฮิพฮอพ ชีวิตจริงแต่งตัวแบบนี้ด้วยหรือเปล่า หรือว่าแต่งตามคอนเซ็ปต์อัลบั้ม ? ซึงรี : ปกติผมก็ชอบใส่เสื้อเชิ้ตอยู่แล้ว แดซอง : ปกติผมก็ชอบใส่เสื้อแขนกุดอยู่แล้ว ก็เลยมาบอกกับพี่สไตล์ลิสต์ว่าอยากจะใส่แบบนี้ ก็เลยนำมาปรับเปลี่ยนให้เข้ากับชุดในอัลบั้ม แต่พอจริงๆ แล้วชุดที่ใส่ในอัลบั้มก็ใกล้เคียงกับที่ใส่ในชีวิตจริงๆ ( ที่ชอบใส่เสื้อแขนกุด เพราะเป็นคนที่ชอบเล่นกล้ามด้วยหรือเปล่า เลยอยากจะโชว์? ) ไม่ได้อยากโชว์กล้ามอะไรหรอกครับ ( หัวเราะ ) แต่ว่าใส่เสื้อแขนกุดแล้วมันสบายดี ท็อป : สำหรับผมค่อนข้างจะแตกต่างกันเลย แบบที่ใส่ขึ้นบนเวทีก็จะเป็นแบบนี้ที่เราเห็นอยู่ จะเรียบร้อยนิดหนึ่ง แต่ถ้าเป็นในชีวิตจริงก็จะแต่งแบบฮิพฮอพ แต่ก็อย่างที่บอกว่าแล้วแรมณ์ด้วย ผมเป็นคนที่มีหลากหลายสไตล์มากๆ มีเครื่องประดับชิ้นไหนที่ต้องใส่ติดตัวอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ได้ใส่แล้วจะขาดความมั่นใจ ? ท็อป : ของผมจะไม่ใช่เครื่องประดับ แต่จะเป็นกระเป๋าแบ็คแพ็ค เพราะในนั้นจะมีอุปกรณ์ส่วนตัวเยอะมาก ก็เลยต้องมีติดตัวอยู่ตลอดเวลา วันนี้ก็นำกระเป๋าใบนี้ติดตัวมาด้วย แดซอง : สำหรับผมคงจะเป็นต่างหูครับ ถ้าไม่ได้ใส่ต่างหูปุ๊บจะรู้สึกว่าเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง จี-ดราก้อน : ก็คงจะเป็นแหวนครับ เพราะว่าตัวผมเองชอบแหวนมาก และมีหลายๆ แบบ เวลาพอเปลี่ยนเสื้อผ้าปุ๊บก็ต้องหาแหวนให้เข้ากับเสื้อผ้า จะเป็นสไตล์นี้ครับ แทยัง : ก็มีหลายอย่างที่ผมชอบ แต่ถ้าให้เลือกอย่างเดียวผมก็ขอเลือกหมวกล่ะกัน เพราะผมเป็นคนที่ผมสั้น และก็เป็นคนที่ไม่ชอบทำอะไรกับผมตัวเอง ก็เลยขอใส่หมวกแทนก็แล้วกัน พอใส่บ่อยๆ เข้า แล้วพอมาไม่ใส่หมวกมันก็จะเขินๆ รู้สึกไม่มั่นใจ ซึงรี : สำหรับผมชอบนาฬิกาข้อมือครับ ผมเป็นคนชอบดูเวลา แต่วันนี้ที่ไม่ได้ใส่มาก็เพราะว่ามันไม่เข้ากับเสื้อผ้าที่ใส่ตอนนี้ คือปกติที่ผมใส่เสื้อเชิ้ตผมไม่ได้ชอบใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวแบบนี้ไง ผมจะพับขึ้นมา พอพับแขนเสื้อขึ้นมาแล้วก็ใส่นาฬิกามันก็จะกลายเป็นสไตล์ของผมครับ จี-ดราก้อน : ผมมีทริกให้นิดนึงเวลาใส่เสื้อยืดแขนสั้น ผมจะพับแขนเสื้อขึ้นมา 1 ครั้งหรือไม่ก็ 2 ครั้งครับ มันจะได้ดูสบายๆ มีสไตล์ขึ้นมานิดนึง แต่ถ้าเสื้อยืดที่ฟิตเกินไปจะพับแล้วไม่สวยครับ ต้องใส่เสื้อที่มันตัวใหญ่ขึ้นมานิดนึง พวกคุณคิดยังที่เดี๋ยวนี้จะมีวัยรุ่นที่คอยแต่งตัวเลียนแบบศิลปิน และตอนนี้เด็กไทยก็เริ่มจะแต่งตัวเลียนแบบพวกคุณแล้ว ? ท็อป : สำหรับผมก็รู้สึกดีนะ ที่มีคนแต่งตัวเหมือนผม แดซอง : ผมไม่รู้สึกในด้านลบเลย กลับรู้สึกดีใจมากๆ เพราะเหมือนกันแฟนๆ ไม่ได้ชอบเขาเฉพาะงานเพลงเท่านั้น แต่ชอบด้านแฟชั่นด้วย รวมถึงทุกอย่างที่เป็นตัวผม ผมก็เลยรู้สึกดีมากๆ จี-ดราก้อน : ผมรู้สึกดีมากๆ การที่พวกผมเลือกเครื่องประดับต่างๆ ที่มาใส่ในตัวเนี่ย แล้วมันเหมาะกับผม ทำให้แฟนๆ เด็กๆ ชอบสไตล์นั้น แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ สนใจตัวเอง หาอุปกรณ์ไอเทมต่างๆ มาใส่ให้เหมาะกับตัวเอง ทำให้ผมรู้สึกดีมาก แทยัง : พอผมเห็นเด็กๆ แฟนๆ แต่งตัวตามผมปุ๊บ นั่นกลายเป็นว่าผมกลายเป็นผู้นำแฟชั่น นั่นทำให้ผมรู้สึกดีมาก พอผมเป็นผู้นำแฟชั่นปุ๊บต่อไปเวลาที่จะแต่งตัวหรือทำอะไรผมก็จะต้องคิดมากขึ้น อันนั้นดีมั้ย อันนี้ดีมั้ย เครื่องประดับชิ้นนี้ดูดีมั้ย เพื่อที่จะทำให้ตัวผมเองเป็นผู้นำแฟชั่นต่อไป ทำให้ผมรู้สึกดีใจมาก ประทับใจมากครับ ซึงรี : ผมรู้สึกประหลาดใจกึ่งๆ ประทับใจ ที่มีคนมาแต่งตัวตามผม ถ้างั้นในอนาคตเนี่ยพวกผมต้องหาอะไรที่แปลกใหม่ อะไรที่ดีขึ้น เพื่อที่จะมันจะเกิดสิ่งใหม่ๆ ขึ้นกับวงการ เพราะตอนนี้พวกเราคือผู้นำแฟชั่นแล้ว เราก็ต้องหาสิ่งใหม่ๆ มาเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดความหลากหลายในวงการแฟชั่นต่อไป รู้สึกเขอะเขินมั้ย เวลาที่มองจากบนเวทีแล้วเห็นแฟนๆ แต่งตัวเหมือนกับพวกเรา ? แดซอง : ผมรู้สึกดีใจ เพราะนั่นหมายความว่าตัวผมเลือกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายใส่ได้ออกมาดูโอเค. ทำให้แฟนๆ ใส่ตาม ท็อป : ความรู้สึกเหมือนแดซองเลย พอเห็นปุ๊บรู้สึกดีใจมาก ทำให้ตัวเองต้องใส่ใจมากขึ้นเกี่ยวกับการแต่งกายเพื่อแฟนๆ ก็จะไม่ใช่ใส่อะไรไปเรื่อย ยิ่งใส่เลียนแบบพวกผมแล้วคนคนนั้นใส่ออกมาดูเท่ ดูดี ผมยิ่งรู้สึกดี ในเมื่อตอนนี้พวกคุณเป็นผู้นำแฟชั่นแล้ว เคยมีความคิดมั้ยว่าจะเปิดเป็นห้องเสื้อ BIGBANG ? จี-ดราก้อน : จริงๆ ไม่เคยคิดแบบจริงจังว่าจะต้องทำ แต่พอมาคิดดูมันก็ไม่เลวนะ เพราะว่าคำว่าแฟชั่นสไตล์ BIGBANG เนี่ย พวกเราไม่ได้ทำขึ้นมา แต่เป็นแฟนๆ ที่เห็นแล้วก็ชอบ แล้วก็ตั้งคำๆ นี้ขึ้นมา และถ้าในอนาคตมีโอกาสที่จะทำก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แทยัง : ตอนนี้ยังไม่ได้คิดถึงจุดนั้น ตอนนี้คิดเพียงแค่ว่าทำยังไงตัวเองถึงจะขึ้นไปสู่จุดที่ทำแบบนั้นได้ คือเป็นที่ยอมรับของคนหมูากมากกว่านี้อีก เมื่อสามารถพัฒนาตัวเองไปถึงจุดนั้นแล้ว ตอนนั้นกลับมาคิดเรื่องนี้ก็น่าจะยังไม่สายไปครับ ซึงรี : ส่วนตัวผมก็ยังไม่ได้คิดไปถึงจุดนั้น แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากลองทำดู ทำยี่ห้อ BIGBANG ครับ พวกคุณมีความรู้สึกยังไงบ้าง ที่เดี๋ยวนี้ผู้ชายหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น แต่งตัวมากขึ้น ? แดซอง : ในการที่ผู้ชายจะหันมาดูแลตัวเองก็ไม่แปลก ไม่ผิดอะไรครับ ท็อป : ถ้าไม่เวอร์จนเกินไป ผมก็ไม่อะไรนะ น่าจะออกมาดูดีด้วยซ้ำ ตัวพวกผมเองก็ดูแลร่างกาย ดูแลใบหน้า ดูแลผิวพรรณ อยู่แล้ว แต่ไม่ให้มันโอเวอร์เกินไปแค่นั้นเอง จี-ดราก้อน : จริงๆ แล้วคำว่าดูแลตัวเอง การหันมาใส่ใจตัวเอง ผมว่าดีนะ แต่ถ้าเกินไปมันก็ไม่ดี ต้องพอดี พอดี อะไรที่มันเกินมันย่อมไม่ดีอยู่แล้ว การที่เราหันมาดูแลตัวเองมันก็ดีเพราะว่าคนเราต้องรักตัวเอง ถ้าเราไม่รักตัวเองแล้วใครจะมารักเรา การที่เราจะให้หน้าตาเราดูดีขึ้น ร่างกาย ผิวพรรณ ดูดีสะอาดขึ้น มันก็คือการดูแลตัวเอง แต่ถ้ามัวแต่สนใจแต่ภาพลักษณ์ภายนอกจนลืมหัวใจ ลืมความสำคัญทางด้านความคิด นิสัย มันก็ไม่ได้ อย่าไปสนใจแต่ภาพลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว เราต้องหันมาดูความสามารถและก็ความคิดที่ดีด้วย แทยัง : ตอนนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ที่สมัยก่อนบอกว่าผู้หญิงแต่งหน้า แต่งตัวได้ ผู้ชายห้ามไปสนใจเรื่องพวกนี้มากนัก เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ยุคนี้ทุกคนต้องหันมาดูแลตัวเอง ดูแลภาพลักษณ์ของตัวเอง ให้ออกมาดูดี แต่ก็อย่าให้มันเกินไป แต่ถ้าภาพลักษณ์ภายนอกดูดี เท่ นิสัยภายในก็ต้องดูดี และเท่ ตามไปด้วย ซึงรี : การดูแลตัวเองเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก แต่ก็ต้องไม่มากจนเกินไปแบบที่พี่ๆ ทุกคนบอกมา ก็คือต้องพอดี พอดี เพราะว่าถ้าไม่ดูแลตัวเองมันก็ไม่ได้นะครับ บทสัมภาษณ์ : Shinhwa...