กั๊ก-ศุภวัฒน์ เดินตามรอยฝัน 3 คำจำให้แม่นมุ่งมั่น ตั้งใจ ไม่ท้อ
นักดนตรีหนุ่มที่มีความฝันอยากจะเป็นนักร้อง เขาเริ่มเดินตามหาฝันตั้งแต่เข้าเรียนที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ฝึกปรือฝีมือจนคล่องแคล่ว หนุ่มคนนี้ขยับไปเป็นนักดนตรีอยู่ในร้านอาหาร ควบคู่ไปกับการเป็นนักดนตรีเปิดหมวก เรียกว่าเส้นทางการเป็นนักดนตรีของเขากว่าจะมาเป็นวงเล้าโลมร้องเพลงเพราะให้เราได้ฟังนั้น เขาต้องต่อสู้เพื่อความฝันของตัวเอง เรากำลังเอ่ยถึง ?กั๊ก-ศุภวัฒน์ ชูสุวรรณ? นักร้องนำวงเล้าโลม
วงเล้าโลมแจ้งเกิดเมื่อปี 2549 ล่าสุดพวกเขาออกอัลบั้มใหม่ 18+ ส่งเพลงฮิตมาให้ได้ฟังกันอีกแล้ว มาทำความรู้จักกับนักดนตรีหนุ่มน้อยคนนี้กันเลยดีกว่า
?อัลบั้ม 18+ เป็นอัลบั้มใหม่ มีความเป็นวาไรตี้มากขึ้น มีอะไรที่วงเล้าโลมยังไม่ได้ทำ อัลบั้มนี้ได้ทำเกือบหมดทุกอย่างครับ เช่นนำดนตรีสังเคราะห์เข้ามาเพิ่มเติมสีสันให้มีความสนุกสนาน เนื้อเพลงมีอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้น เรียกว่าโตขึ้นกว่าในอัลบั้มก่อน เปลี่ยนโปรดิวเซอร์และครีเอทีฟใหม่ด้วยครับ คนฟังคงสัมผัสได้อย่างชัดเจนครับ สำหรับการแต่งตัวในอัลบั้มนี้เป็นการนำแฟชั่นขาเดฟสั้นเต่อมาเล่น สมัยก่อนผมชอบสีขาว-ดำ แต่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง เลยนำสีสันมาใส่เพิ่มให้กับตัวเอง ได้ไปคุยกับพี่ ๆ เขาก็โอ.เค.ครับ เพราะเขาเห็นว่าพวกผมใส่กันเป็นประจำอยู่แล้ว?
กว่าที่พวกเขาวงเล้าโลม โดยมีหนุ่มกั๊กเป็นนักร้องนำจะเดินทางมาถึงฝั่งฝันด้วยการเป็นศิลปินที่มีอัลบั้มเป็นของตัวเอง ได้ขึ้นคอนเสิร์ตมีแฟนคลับมากมาย ไม่ใช่แค่วันเดียว หรือ 2 เดือน แต่การเดินทางครั้งนี้กินระยะเวลาเป็นปี
?เล้าโลมเป็นวงดนตรีที่พวกเราก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยมัธยม เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ประถม มัธยมครับ แต่ตัวผมมารู้จักกับเพื่อน ๆ ตอนเรียนอยู่โรงเรียนสวนกุหลาบ ตอนแรกที่พวกเราเล่นดนตรี เพราะเรามีความชอบเหมือนกัน แต่พอเล่นไปนาน ๆ ขึ้นม.ปลาย ทุกคนเริ่มโตขึ้น เริ่มอยากพาวงไปประกวดแล้ว และตอนนั้นมีโอกาสได้ไปเล่นตามงานต่าง ๆ ด้วย พวกเราจะเน้นเวทีชีวิตมากกว่า (หัวเราะ) ส่วนใหญ่จะไปแบบที่เราไม่รู้โจทย์อะไรเลย แต่เขามาจ้างให้เราไปเล่น ผมว่าเป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะเราต้องดูแลคนดูให้สนุกตลอดเวลา?
?ชื่อวงว่าเล้าโลมเกิดจากความกล้าคิดของผมเอง (หัวเราะ) ผมว่าคำ ๆ นี้มันติดหูดีนะครับ คนฟังอาจจะดูว่าไม่เข้าท่า ตอนนั้นพวกเรากำลังว้าวุ่นกับการตั้งชื่อวงมาก แต่ละคนก็คิดมาคนละชื่อ แต่ยังไม่โดนสักชื่อ จนมาเจอคำนี้ "เล้าโลม" ในความหมายผมคือเรามีดนตรี มีเสียงเพลง ไปเล้าโลมกับเพื่อน ๆ ให้มีอารมณ์ร่วมกับเรา ทำให้ทุกคนรู้สึกมีความสุขเมื่อได้ยินเพลงของเรา?
นั่นเป็นที่มาของวงเล้าโลม ถามถึงจุดเริ่มต้นกับการเล่นดนตรี หนุ่มกั๊กบอกว่าเขาได้แรงบันดาลใจจากการชอบเคาะโต๊ะให้เป็นจังหวะ
?จุดเริ่มต้นของการเล่นดนตรี ผมได้แรงบันดาลใจตอนเรียนอยู่ป.5 ผมชอบเคาะโต๊ะมาก ๆ ครับ เคาะจนอาจารย์บ่นประจำ (หัวเราะ) เรื่องของเรื่อง ตอนนั้นอยากตีกลองเป็น เลยไปฝึกเล่นกลอง จนเข้ามาระดับมัธยมเริ่มอยากร้องเพลง ประกอบกับคุณพ่อผมชอบร้องเพลงด้วย ทำให้เกิดการซึมซับ เพราะพ่อผมชอบร้องคาราโอเกะ พอมาเรียนม.ต้น รู้สึกว่าการตีกลองของผม เอาไว้ให้เป็นหน้าที่ของเพื่อนเราดีกว่า แล้วในวงจะมีมือกลองสองคนไม่ได้ ผมเลยเลือกมาร้องเพลง?
?จะว่าไปแล้วเสียงผมไม่ดีหรอกครับ แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนบ้าและกล้าทำมากกว่า ไปงานประกวด ผมไม่รู้ว่าตัวเองได้อันดับหนึ่งอันดับสองมาได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่เสียงไม่ดี แต่เพื่อนบอกว่าผมมีพลังมาก ทำให้คนดูเขามีอารมณ์ร่วมกับเรา ประกอบกับเพื่อน ๆ เขาไม่มีปัญหา เพราะพวกเราคือเพื่อนกัน?
เรียกว่าเป็นนักดนตรีจริง ๆ เพราะนอกจากตีกลองได้แล้ว กั๊กยังเล่นเครื่องดนตรีเป็นอีกหลายชิ้น
?ผมเล่นเครื่องดนตรีเป็นเกือบหมดครับ ทั้งกลอง กีตาร์ เบส ตอนนี้อยากไปเรียนไวโอลินและคีย์บอร์ดมาก ๆ ครับ ผมเป็นคนชอบดนตรีทั้งการร้องและการเล่น อีกอย่างผมมีความฝันอยากเป็นโปรดิวเซอร์ และการเป็นโปรดิวเซอร์ต้องรู้หลากหลาย ถ้าเรารักตรงนี้จริงต้องเรียนรู้ทุกอย่างให้มากขึ้นกว่าเดิม?
มาดูด้านการเรียนกันบ้าง ปัจจุบันกั๊กกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะนิเทศศาสตร์ สาขาโฆษณา ม.ศรีปทุม สาเหตุที่เลือกเรียนทางด้านนี้เพราะเขาเป็นคนชอบคิด
?จริง ๆ แล้วสาขาโฆษณาเป็นสิ่งที่ผมชอบมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว เพราะผมเป็นคนชอบใช้ความคิด ชอบครีเอทสิ่งต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ การเรียนทางด้านนี้โดยตรงอาจจะทำให้ผมได้รู้ลึกและคิดอะไรแปลก ๆ มากขึ้นกว่าเดิมก็ได้ (หัวเราะ) เรียกว่าเป็นคณะที่สนุกและท้าทายดีครับ?
?มีคนถามผมเหมือนกันว่าทำไมไม่เรียนทางด้านดนตรี คือผมมองว่าดนตรีเป็นสิ่งที่ผมเรียนรู้ได้ด้วยตนเองมาโดยตลอด การเล่นดนตรีเหมือนผมได้เรียนรู้ เปรียบเทียบเหมือนกับได้เข้าห้องสอบนั่นแหละครับ เราใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ สิ่งหนึ่งที่ผมเลือกเรียนนิเทศฯ คืออยากได้ไอเดีย อยากได้ความคิดที่เปิดกว้าง ทำให้โลกทัศน์ของเรานั้นกว้างมากขึ้น ผมชอบทางด้านการคิด ไม่จำเป็นต้องออกมาเป็นวัตถุหรือเป็นโฆษณา ผมเป็นคนชอบคิดอะไรที่หลากหลายครับ?
ณ วันนี้กั๊กเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง แน่นอนว่าเวลาของเขาอาจถูกดูดกลืนไปเพื่อการทำงาน แต่เจ้าตัวยืนยันว่าเวลาของเขายังมีเท่ากับเพื่อน ๆ เหมือนเดิม
?เรื่องแบ่งเวลาเรียน ผมยังมีเวลา 24 ชม. เท่ากับคนอื่นครับ (ยิ้ม) แต่ผมจะบอกว่าการทำงานกับการเรียนอยู่ที่ความสำคัญมากกว่าว่าเราจะให้ความสำคัญกับอะไรอยู่ อย่างเรื่องการสอบนี่คือความสำคัญ หรือในภาคเป็นนักดนตรี การเล่นคอนเสิร์ตคือความสำคัญเหมือนกัน ถ้าเรารู้ว่าวันไหนต้องมีสอบ เรื่องงานจะต้องหยุดไว้ก่อน พอสอบเสร็จเมื่อไหร่ค่อยมารับงานใหม่ อย่างวันไหนที่เรามีคอนเสิร์ต ผมจะบอกอาจารย์ว่าขอผมมาส่งทีหลังได้ไหม ผมมองว่าต้องแชร์ทั้งสองอย่างให้ได้ ผมยังมีเวลาไปเข้าเรียนกับเพื่อน ๆ ยังมีเวลาได้ขึ้นคอนเสิร์ต?
?ผมไม่เคยท้อเลยนะ เพราะทุก ๆ คนเขาเรียนกันหมด แต่ที่ผมเป็นห่วงตัวเองคือเรื่องของสุขภาพมากกว่า เพราะช่องว่างระหว่างเรียนและการทำงานคือตัวเรา คือสุขภาพของเราเอง เรื่องเรียนไม่แก่เกินเรียนครับ เรื่องงานถ้าเรายังมีกำลัง เราสามารถทำได้อยู่แล้ว แต่สุขภาพแย่ ทั้งสองอย่างไม่สามารถไปด้วยกันได้เลยครับ?
ด้านอนาคตสำหรับหนุ่มกั๊ก เขาฝันอยากจะเป็นโปรดิวเซอร์ และมาพัฒนาวงการเพลงเมืองไทยให้มีสีสันมากขึ้น
?อนาคตผมอยากเป็นโปรดิวเซอร์ ไม่รู้ว่าจะเป็นได้หรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องเรียนจบปริญญาโทครับ (ยิ้ม) นี่คือความฝัน เหมือนจะเป็นความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของผมเหมือนกันนะครับ (หัวเราะ) แต่ผมอยากทำจริง ๆ เป็นความฝันของผมที่อยากอยู่กับวงการเพลงไทย อีกประมาณสัก 7-8 ปีไม่รู้จะเป็นไปได้หรือเปล่า มุมมองผมอยากให้วงการเพลงไทยมีศิลปินที่ทำเพลงด้วยใจรักออกมาจากใจของเขาจริง ๆ รู้สึกในแบบที่อยากทำ ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากมาย ทำในแบบฉบับที่เขารัก อยากให้มีความคิดของเขาเข้ามามีส่วนร่วมด้วย และผมอยากให้มีเพลงที่หลากหลายมากขึ้นด้วยครับ?
ดูเหมือนว่าความฝันของนักดนตรีคนนี้มาถึงจุดที่เขาฝันแล้ว กลับกันถ้าย้อนเวลากลับไป ถ้าวันนี้กั๊กไม่ได้เป็นนักดนตรีสังกัดค่ายใหญ่ ตอนนี้เขากำลังทำอะไร กั๊กบอกด้วยรอยยิ้มว่า คงเป็นนักดนตรีเปิดหมวกอยู่แถวข้าวสาร
?ผมเคยร้องเพลงเปิดหมวกอยู่ที่สวนจตุจักร ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนตรอกข้าวสารผมจะไปเปิดหมวกบ่อยมาก จะเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสฯ ศุกร์ จนถึงเสาร์-อาทิตย์ เลิกประมาณตี 3-4 ครับ เป็นช่วงชีวิตที่สนุกมาก ตื่นเต้นดี มีการหนีพี่รปภ.ด้วย (หัวเราะ) นอกจากนี้ผมเล่นดนตรีที่ร้านด้วย เล่นดนตรีเปิดหมวกอยู่เป็นปีครับ รายได้ประมาณพันกว่าบาทต่อวัน เรียกว่าผมไม่ได้ขอเงินทางบ้านใช้มาหลายปีแล้วครับ?
?ผมรู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ผมอาจจะข้ามช่วงวัยเรียนมาถึงช่วงการทำงาน ประกอบกับผมต้องดูแลครอบครัวด้วย กว่าจะมาถึงวันนี้มันนานมากครับ ประกอบกับทางบ้านไม่สนับสนุน ไม่ยอมรับเรื่องลูกติดกีตาร์ ชอบดนตรี จนมาถึงวันนี้ท่านค่อย ๆ ยอมรับมากขึ้น การเป็นศิลปินของผม ทำให้ผมภูมิใจตัวเองเสมอครับ และวันนี้ผมทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงได้ มีเพลงเป็นของตัวเอง สัญญาว่าจะทำให้ดีต่อไปเรื่อย ๆ ให้คนฟังรู้สึกมีความสุขกับการฟังเพลงของเรา?
สุดท้ายหนุ่มกั๊กให้กำลังถึงเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่มีความฝันเช่นเดียวกับเขา
?ให้กำลังใจเพื่อน ๆ ที่อยากเป็นนักดนตรี ผมว่าการเป็นนักดนตรีต้องใช้ความมั่นใจ และขยัน ถ้ามีสองสิ่งนี้ความฝันไม่ไกลแน่นอน ดังไม่ดังไม่ใช่เรื่องที่ต้องนำมาคิด ให้ทำเต็มที่กับสิ่งนั้นจริง ๆ มุ่งมั่น อย่าทิ้งการเรียนเด็ดขาดครับ ต้องเรียนรู้เยอะ ๆ หมั่นซ้อม หมั่นขยัน และต้องไม่ลืมเรื่องของการศึกษาครับ การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่จำเป็นต้องศึกษาในห้องเรียนอย่างเดียว ต้องเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตด้วยครับ ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในเรื่องเรียนและในเรื่องของดนตรี?
ต้องชื่นชมกับความตั้งใจ ความมุ่งมั่น เพื่อไปให้ถึงฝันของเขา ?กั๊ก เล้าโลม?
ที่มา "การศึกษาวันนี้"
ผู้เขียน : oakky วิไลรัตน์ ต่ายประยูร ช่างภาพ : นายหรั่ง
++ สาระ ความรู้ การเรียน การศึกษา แฟชั่นอินเทรนด์ คลิก!!!
http://campus.sanook.com/
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ