แบงค์ บอยแบนด์ C-Quint ค่อย ๆ ก้าวตามรอยฝันให้ตัวเอง
ที่มา "การศึกษาวันนี้"
ผู้เขียน : oakky วิไลรัตน์ ต่ายประยูร ช่างภาพ : นายหรั่ง
ปัจจุบันในวงการเพลงบ้านเรา มีวงบอยแบนด์เกิดขึ้นมากมาย ไม่ออกเป็น J-POP ก็ต้อง K-POP เข้ากับกระแสที่กำลังมาแรง แต่วงนี้เขาบอกว่าพวกเขา T-POP เป็นบอยแบนด์สายเลือดไทยที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่กว่าจะมีวันนี้ พวกเขาคือ C-QUINT
5 หนุ่มคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนจังหวะดนตรีรอบ ๆ ตัวทุกคนให้แตกต่างไปจากเดิม ด้วยลีลาการเต้นที่แข็งแรงเป็น Teamwork บวกกับเสียงร้องที่โดดเด่นในการประสานเสียง ส่งผลให้พวกเขาได้รับกระแสที่ดี มีแฟนคลับเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก (โดยเฉพาะสาว ๆ) วันนี้เรามีแขกรับเชิญประจำคอลัมน์ เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงนี้ ?แบงค์-วีระชัย ลีฬหาทร?
กว่าจะมาเป็นแบงค์ C-QUINT ได้ หนุ่มคนนี้เผยเส้นทางสู่ดวงดาวว่า เขาเริ่มต้นจากการเป็นตัวประกอบในบทโฆษณา ต่อจากนั้นเริ่มไปประกวดโมเดล เซิร์ส ปรากฏว่าได้ที่ 3 แบงค์จึงได้เป็นนายแบบบนแคตวอล์ค หรือถ่ายภาพนิ่งให้กับแมกาซีนชื่อดังหลากหลายเล่ม ถัดมาไม่นานเขาก้าวเข้าสู่การประกวดคนพันธุ์ A มีผลงานออกมาในรูปแบบของมิวสิกวิดีโอ ก่อนจะเข้าประกวดความหล่อและความสามารถอีกครั้งบนเวที Tea Tree หนุ่มสาวหน้าใส ผลปรากฏว่าแบงค์ได้รับรางวัลชนะเลิศและได้เหินฟ้าไปเที่ยวออสเตรเลีย กลับมาได้ไม่นานเขาก็ถูกทาบทามให้ไปเล่นหนังเรื่อง ม.8 สุดท้ายโชคชะตาเป็นใจให้เขาโคจรได้เข้ามาเป็นศิลปินในบ้านอาร์เอส
?หลังจากที่ผมกลับมาจากออสเตรเลีย ผมได้เจอพี่ ๆ ทีมงานของอาร์เอสครับ พี่เขามาชวนให้ไปแคสติ้งเป็นนักร้องที่เต้นสไตล์เกาหลีและฮิพฮอพ ตอนนั้นผมคิดว่ามันยากมาก และคิดว่าผมไม่ได้ด้วย เพราะองค์ประกอบของเราคือผมเป็นคนตัวใหญ่ การเต้นคงจะไม่พลิ้ว อีกอย่างพื้นฐานการเต้นไม่ได้มีมาก แต่แบงค์ชอบเต้นนะครับ เพราะว่าชอบดูหนังเรื่องหนึ่งเนื้อหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเต้น แล้วเราก็จำท่าต่าง ๆ มาเต้น ลองฝึกเอง ผมจำได้ว่าตอนนั้นเพลงพวกเค-ป๊อปยังไม่ได้เข้ามาในบ้านเราเลยนะ จน 1-2 ปีหลัง เพลงพวกนี้ถึงได้เข้ามามากขึ้น?
เมื่อได้เข้ามาเป็นบอยแบนด์ C-Quint แล้ว หนทางน่าจะดูสดใสแล้ว แต่แบงค์บอกว่าเขาต้องฝึกเต้น ฝึกร้อง ใช้ระยะเวลาเป็นหลายปี กว่าผลงานจะเสร็จสมบูรณ์
?หลังจากที่เข้าอาร์เอสแล้ว สิ่งแรกที่ผมต้องทำคือ ไปเข้าคอร์สเรียนเต้นแบบจริงจังเพื่อปรับพื้นฐานตามให้ทันเพื่อน ๆ ผมเรียนเต้นฮิพฮอพ เต้นเบรกแดนซ์ เรียกว่าไปฝึกมาบ้างพอเป็น ตอนไปเรียนผมบอกเขาว่าเอาแค่พื้นฐานเท่านั้นครับ?
?พอเริ่มขึ้นปีที่ 2 ทุกวันผมจะเข้ามาเรียนร้องเพลง และเรียนเต้นอีกวันละ 3 ชั่วโมง และทุกเดือนจะมีการเทสต์ศักยภาพ คล้าย ๆ กับเรียลิตี้โชว์ มีพี่ ๆ ทีมงานคอยเลือกเพลงมาให้เราร้องและเต้นโชว์ด้วย พวกเราไม่ได้เต้นธรรมดานะครับ แต่เราต้องควบคุมเสียงให้ได้ด้วย ควบคุมจังหวะการหายใจ ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก?
เรียกว่าหนุ่มคนนี้เขาได้สวมบทบาทมาแล้วเกือบหมด ทั้งเป็นนายแบบ เป็นนักแสดง เป็นนักร้อง ความสามารถมีรอบด้านจริง ๆ ถามว่าเขาชื่นชอบตัวเองในโหมดไหนมากที่สุด
?ชอบตัวเองในทุกโหมดนะครับ เพราะการที่เราทำอะไรในบทบาทไหนแล้วคนชอบเรา ผมรู้สึกดีมาก ๆ แต่ถ้าเราทำแล้วเขาไม่ชอบ ผมเสียใจนะ (หัวเราะ) แต่ผมไม่ท้อ จะพยายามต่อไป และทำให้เต็มที่ทุกอย่าง เพื่อให้เขายอมรับในผลงานของผมให้ได้ แต่การทำให้คนอื่นยอมรับ ผมไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองนะครับ การที่ผมจะปรับเปลี่ยนนั้นต้องดูด้วยว่ามันควรที่จะเปลี่ยนหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นผมจะสูญเสียความเป็นตัวเองไป?
การเป็นศิลปินหลายคนใฝ่ฝันอยากจะเดินเข้ามาสัมผัสความสวยหรู และแบงค์เป็นหนุ่มน้อยอีกคนที่รับได้โอกาสนั้น แต่ในความโชคดีย่อมมีข้อจำกัดในหลาย ๆ เรื่อง
?ได้เข้ามาเป็นศิลปิน ผมชอบนะครับ แต่ในอีกมุมหนึ่งผมไม่ค่อยได้เจอเพื่อน ๆ ไม่ค่อยได้เจอครอบครัวครับ เพราะเวลาของผมหมดไปกับการทำงาน แต่เพื่อน ๆ เขาเข้าใจ ถ้าผมมีเวลาก็จะไปหาเพื่อนตามปรกติ ผมยังชวนให้เพื่อน ๆ ไปดูคอนเสิร์ตผมเลย นาน ๆ เจอเพื่อนทีก็รู้สึกดีเหมือนกันครับ?
อีกหนึ่งข้อจำกัดของแบงค์คือเรื่องเรียน ปัจจุบันแบงค์กำลังศึกษาอยู่คณะบริหารธุรกิจ Assumption University ชั้นปีที่ 3 กำลังจะขึ้นปี 4 แต่ความจริงแล้วเขาควรจะจบแล้ว และสาเหตุมาจากอะไร แบงค์เปิดใจเล่าว่า
?เรื่องเรียนกับการทำงานค่อนข้างส่งผลกระทบบ้างครับ ช่วงแรกคือช่วงโปรโมตอัลบั้ม อาจารย์บางท่านในมหาวิทยาลัยไม่สนับสนุนให้นักศึกษาเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ทำให้ผมอาจต้องมีดร็อปบ้างเป็นบางวิชา แต่อาจารย์บางท่านก็เข้าใจครับ ให้ผมส่งใบลาและต้องทำงานส่งให้ทันด้วย ซึ่งผมค่อนข้างกังวลในเรื่องการเรียนของผมเหมือนกัน (ยิ้ม)?
?ซึ่งจริง ๆ แล้วผมต้องอยู่ปี 4 และคงจะได้จบพร้อม ๆ กับเพื่อน ๆ แต่เพราะตอนนั้นผมเข้าไปประกวดคนพันธ์ A ซึ่งการประกวดเป็นเรียลิตี้ เลยทำให้ผมต้องดร็อปเรียนไป 2 เทอมครับ ทางบ้านคุณพ่อคุณแม่ตอนแรกรับไม่ได้เลยครับ กลัวลูกเรียนไม่จบ แต่เขาเข้าใจว่าผมชอบทางด้านนี้จริง ๆ และผมพยายามเรียนไปด้วยและทำงานไปด้วย ทำให้เขาได้เห็นความตั้งใจจริงของผม อีกอย่างผมต้องอธิบายถึงเหตุผลให้เขารู้ด้วยว่าไม่ใช่ว่าจะมีเด็กทุกคนที่ได้โอกาสแบบนี้ ในเมื่อเรามีโอกาสแล้วควรจะเก็บโอกาสนั้นไว้ เมื่อเรามีโอกาสที่จะบริหารชีวิตยากกว่าคนอื่นเขา แต่ผลที่ได้รับกลับมาคือเราสามารถปรับตัวได้ง่าย ตรงนี้ทำให้เขาเข้าใจมากขึ้นครับ?
เลือกเรียนทางด้านบริหารธุรกิจ เพราะคุณพ่อขอร้อง
?ที่เลือกเรียนบริหารธุรกิจ ความจริงผมอยากเรียนนิเทศศาสตร์มากกว่า เพราะผมชอบดูโฆษณา ผมดูแล้วผมชอบคิดตามไปด้วย ผมเลยเข้าไปขอคุณพ่อว่า ผมขอเรียนนิเทศฯ นะ แต่พ่อบอกมาว่าอยากให้ผมเรียนทางด้านกฎหมายมากกว่า เพราะคนในครอบครัวเราไม่มีใครรู้ทางด้านกฎหมายเลย ผมจึงขอคุณพ่อคนละครึ่งทาง ด้วยการเลือกเรียนทางด้านบริหารธุรกิจ ซึ่งคณะนี้สามารถแตกไลน์ไปได้อีก คือเราได้รู้กฎหมายในเชิงธุรกิจ นอกจากนี้ผมยังได้เรียนสายนิเทศศาสตร์ที่ผมชอบ คณะนี้จะมีแผน A, B, C ซึ่งผมเลือกเรียนแผนพิเศษ คือสามารถเลือกเรียนวิชาไหนก็ได้ที่ครอบคลุมบริหารธุรกิจ ได้เรียนทั้งสายนิเทศฯ และสายกฎหมาย รวม ๆ แล้วผมไม่ได้ขัดใจตัวเองและไม่ได้ขัดใจคุณพ่อด้วย?
สำหรับอนาคตข้างหน้า หนุ่มคนนี้บอกว่าอยากเป็นนักธุรกิจที่ใช้ความคิดฟาดฟันคู่ต่อสู้
?ผมอยากเป็นครีเอทีฟด้วย ตอนเด็ก ๆ ผมอยากเป็นตำรวจนะครับ พอโตขึ้นมาความคิดเปลี่ยนไป ผมเริ่มอยากเป็นนักธุรกิจแล้วตอนนี้ ผมอยากใช้หัวสมองและความคิดมาต่อสู้กันในการตลาด วัน ๆ มีแต่ประชุมค้นหาความคิดเด็ด ๆ (หัวเราะ) อนาคตของผมอยู่ในปัจจุบันครับ ทำให้ดีที่สุด อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เท่าที่คิดอยู่ในหัวนะครับ ผมอยากเปิดร้านอาหารให้คุณพ่อสักร้าน หรืออาจจะทำงานทางด้านครีเอทีฟที่ผมชอบ คิดไว้หลายอย่างครับ (หัวเราะ)?
ถึงวันนี้แบงค์บอกว่าเขาภูมิใจในตัวเองมากที่สุด
?ที่ผมมาถึงวันนี้ มาเป็นแบงค์ วง C-Quint ผมดีใจมากครับ ถ้าดูจากประสบการณ์นั้น ผมค่อย ๆ ไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ เราต้องเริ่มจากขั้นเล็ก ๆ ก่อน พอขึ้นมาปุ๊บ ถ้ายิ่งขึ้นสูงพอตกลงมาจะเจ็บ แต่ถ้าผมค่อย ๆ ขึ้น เราจะมีรากฐานที่มั่นคงมากกว่า ทางด้านคุณแม่ ท่านดีใจครับที่ผมได้เป็นนักร้อง เพราะคุณแม่อยากให้เป็นนักแสดงตั้งแต่เด็กแล้ว คุณแม่ชอบดูทีวี.มากครับ (หัวเราะ) ส่วนคุณพ่อท่านภูมิใจนะครับ คุณพ่อบอกว่าแบงค์สร้างชื่อเสียงให้กับวงศ์ตระกูลของเรา?
ส่วนเรื่องเรียนต่อเจ้าตัวฝันอยากไปเรียนต่อเมืองนอก และมหาวิทยาลัยในฝันของเขาคือ Georgetown University
?ตั้งใจอยากไปเรียนต่อเมืองนอกเหมือนครับ อยากไปอเมริกา เพราะผมมีมหาวิทยาลัยในดวงใจคือ Georgetown University ผมชอบเล่นบาสเกตบอล และกีฬานี้เป็นกีฬาประจำชาติของเขา ซึ่งซูเปอร์สตาร์ส่วนใหญ่จบจากมหาวิทยาลัยนี้ ถ้ามีโอกาสผมอยากไปเรียนต่อที่นี่ครับ?
สุดท้ายนักร้องรูปหล่อฝากเรื่องเรียนถึงเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ว่า
?ผมให้ความสำคัญกับการเรียน การเรียนผมมองว่าไม่ใช่แค่หน้าที่ที่เราต้องทำ แต่การศึกษาเป็นสิ่งที่เราต้องมี ในปัจจุบันคนจะยึดติดอยู่กับคำว่าปริญญามาก ๆ การที่คุณจะได้ทำงานดี ๆ หรือได้เข้าทำงานในองค์กรใหญ่ คุณต้องมีปริญญาอย่างน้อยสุดต้องเป็นปริญญาโท หรือไม่ต้องเป็นปริญญาเอก อยากให้ทุกคนตั้งใจเรียน ถ้าคิดว่าการเรียนมันยากและน่าเบื่อ ให้คิดว่าเราต้องรีบเรียนให้จบ เราต้องทนกับสิ่งที่เราไม่ชอบ แต่อย่าเลิกเรียนนะครับ เป็นมนุษย์ต้องอดทน เพราะเราไม่ได้เกิดมาแล้วมีทุกอย่างเลย ถ้าเราฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้ไปให้ได้ พอเราหันกลับไปมอง เราจะภาคภูมิใจในสิ่งนั้นครับ?
เรียกว่าเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ทิ้งการเรียน
++ สาระ ความรู้ การเรียน การศึกษา แฟชั่นอินเทรนด์ คลิก!!!
http://campus.sanook.com/
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ