![TATTOO COLOR](//s.isanook.com/ca/0/ud/182/910186/b_04173_002.jpg)
ก่อนที่จะมาเป็น
แทททู คัลเล่อร์ อดีตสมาชิกในวงสามคนได้แก่หรินทร์
(ดิม - ร้องนำ), รัฐ(กีต้าร์)และ
เอกชัย (ตง - กลอง) มีวงเป็นของตนเองกับเพื่อนๆ อีกสามคนรวมเป็นหกคน สมัยที่พวกเขากำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน โดยมีชื่อวงว่า
"I Scream 479" และยังทำอัลบั้มขายในโรงเรียนด้วยตนเอง ต่อมาเมื่อสำเร็จการศึกษาสมาชิกในวงก็แยกย้ายกันไปศึกษาต่อ ก็เหลือหรินทร์, รัฐและเอกชัยอยู่สามคนที่ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาด้วยกันที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อมีการประกวดแต่งเพลงโฆษณาของแฮปปี้ พวกเขาก็ลงสมัครและชนะการประกวด ทำให้พวกเขาได้ไปดูงานที่ค่ายเพลงแนวกึ่งอินดี้
"สมอลล์รูม" ที่ๆ พวกเขาได้ขอออดิชั่น และได้เป็นศิลปินของค่ายสมอลล์รูมในที่สุด ต่อมาจึงดึง
ธนบดี (จั้มพ์ เบส)เข้ามาเป็นมือเบส และตั้งวงแทททู คัลเล่อร์ขึ้นมา
ในอัลบั้มชุดแรกได้รับการตอบรับดีไหม
ดิม: ถ้าพูดถึงยอดขาย คือมันก็ดีนะ เพราะอย่างที่บอกไป เพลงมันดียอดขายมันก็จะดีตามไปด้วย ที่เราดีใจคือมีแฟนเพลงคอยมาให้กำลังใจตลอด ว่าชอบเพลงนั้นนะ เพลงนี้นะ
คอนเซ็ปท์ของอัลบั้มชุดนี้เป็นอย่างไร
ดิม: เหมือนชุดแรก ไม่มีการโตขึ้น ไม่มีเด็กลง ถ้าใครที่ฟังเพลงของเราแล้วชอบชุดแรก ก็จะชอบชุดนี้ด้วย เพราะแนวเพลงเหมือนเดิม ยังคงความหลากหลายในแนวเพลงไว้เหมือนเดิม
แล้วสิ่งที่แตกต่างจากการทำงานในชุดแรก
รัฐ: การทำงานในชุดแรกเป็นการทำงานแบบสตูดิโอ คือทำขึ้นมาในคอมพ์เลย แต่ในชุดนี้เป็นอารมณ์แบบห้องซ้อม คือ เตรียมเพลง เตรียมดนตรีมา แล้วเข้าห้องอัดมาลุย มาปรับปรุงกัน
อัลบั้มนี้ชุดที่สอง แต่ทำไมต้องชื่อ ชุดที่พราะ
ดิม: ที่ต้องชื่อชุดที่แปด เพราะหลังจากออกอัลบั้มชุดแรกมา มีงานเยอะมากจนคิดกันว่า ไม่มีเวลาทำชุดที่สองแน่เลย เลยคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเมื่อไม่มีเวลาทำชุดสอง ก็ข้ามมาทำชุดที่แปดเลย เป็นการข้ามเป็นลำดับที่แปด แต่จริงๆ แล้วชื่ออัลบั้มนี้จะชื่อ จงเพราะ มันเป็นเหมือนการสะกดจิตคนฟังครับ ทีแรกจะให้มีเพลงสะกดจิตคนฟังด้วย แต่ทำไม่ทันครับ (ฮา)
ทำไมต้อง ขาหมู
ดิม: เพราะว่ามันเรียกร้องความสนใจได้ มันเกิดจากความเกลียดนั้นเกลียดนี่ เกลียดความรักด้วย แต่เอาชื่อมาเรียกร้องคนฟัง
ตอนนี้กระแส โลกร้อนกำลังมา tattoo color มีส่วนช่วยโลกร้อนกันอย่างไร
ดิม : พวกเราก็พยายามช่วยตลอดนะ ไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีไหน
ตง: เปิดแอร์ให้น้อยลง
จัมพ์: ถ้ามีโอกาสก็จะใช้การโดยสารรถประจำทางแทนการใช้รถส่วนตัว
รัฐ: พยายามใช้ธรรมชาติให้น้อยลงนะ อย่างการไม่รับถุงเวลาซื้อของ ถ้าเป็นไปได้เราก็ไม่เอาถุง แล้วคิดดูถ้าคนส่วนใหญ่ในประเทศหกสิบล้านคนคิดเหมือนๆ กัน ทำคล้ายๆ กัน มันก็จะช่วยได้
ตง: แต่อย่างถุงผ้า ถ้าใช้มันแบบแฟชั่นมันก็ไม่ช่วยโลกร้อนนะ เพราะมันผลิตกันมากเกินไป คนหนึ่งมีหลายถุง มันก็สิ้นเปลือง
เห็นว่าเคยร้องเพลงรณรงค์เกี่ยวกับโลกร้อนด้วย
ดิม: ชื่อเพลงว่า เปลี่ยน ครับ เพลงนี้แต่งโดย ตุล อพารท์เม้นคุณป้า และโต้ง save the last piece ซึ่งเป็นเพลงที่เพราะมาก แล้วพวกเราก็เอามาทำให้มันเป็นเพลงในรูปแบบของเรามากขึ้น เพราะในช่วงนั้นเราได้เป็นหนึ่งในกลุ่ม ECO-9 Project Band เป็นการทัวร์ทั่วประเทศรณรงค์ เพื่อลดปัญหาโลกร้อน เราก็จะเป็นสื่อกลางในการนำเสนอว่า หยุดโลกร้อนเถอะครับ
มุมมองในเรื่องของความรักของแต่ละคนละเป็นอย่างไร
ดิม: ความรัก คือ เราต้องเข้าใจกันก่อน ปรับความเข้าใจกัน คือตัวผมเองไม่ชอบคนที่งี่เง่า แบบกูทำได้ มึงทำไม่ได้ ความรักมันต้องเท่าเทียมกัน
จัมพ์: รัก คือ ความผูกพัน และการให้
รัฐ: ความรัก คือ เราสามารถสร้างครอบครัวของเราได้ มันเป็นกลุ่มร่วมกัน มันอยู่ด้วยกันได้ไม่รู้จักเบื่อ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวแบบพ่อแม่ เพื่อน หรือว่าแฟน
ตง: ความรักมันคือทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นจุดเริ่มต้นของทุกๆ อย่าง อย่างที่เราได้มานั่งคุยกันตอนนี้ก็เพราะจากความรัก จากความรักที่พวกเราจะทำเพลง จากคนที่สัมภาษณ์ที่รักในการทำนิตยสาร ความรักที่ ทำให้เราได้เจอกัน
จัมพ์: ความรักเหมือนกับการให้ ให้โดยเรารู้ตัวว่ามีความสามารถที่จะให้ได้เท่าไหร่ ให้ได้แค่ไหน หรือพอดีที่เท่าไหร่
ติดตามอ่านได้ใน ULIFE MAGAZINE ฉบับ เดือนพฤษภาคม ปก Tattoo Color