เคี้ยวหมากฝรั่ง... อาจช่วยให้ผลการเรียนดีขึ้น!!!
นี่อาจจะเป็นผลการศึกษาที่ทำให้แม่บ้าน ภารโรงตามโรงเรียน หรือสถาบันศึกษาต่างๆ ต้อง "เหนื่อย" ยิ่งขึ้น เมื่อมีทีมศึกษาในสหรัฐอเมริกาบอกว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งอาจช่วยให้นักเรียน นักศึกษา มีผลการเรียนดีขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะทำให้รู้สึกคลายเครียด!!!
ถึงแม้คนในประเทศตะวันตกจะไม่ซีเรียส และไม่ได้มองว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งจับๆ เป็นกิริยาที่ไม่น่ามองและดูเสียมารยาท แต่ก็มีโรงเรียนจำนวนมากในอเมริกาที่ "ห้าม" เด็กนักเรียนเคี้ยวหมากฝรั่ง เพราะเบื่อกับนิสัยมักง่าย ที่เด็กๆ ชอบเอากากหมากฝรั่งไปแปะไว้ตามใต้โต๊ะ ใต้เก้าอี้ในห้องเรียน แต่หลังจากผลการชิ้นนี้ ซึ่งนำทีมโดย นายเครก จอห์นสตัน จากวิทยาลัยแพทย์เบย์เลอร์ ในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ได้ตีพิมพ์ออกมา ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป กับการที่ทีมของเครกออกมาบอกว่า จากที่เขาทำการทดลอง พบว่าเด็กนักเรียนที่เคี้ยวหมากฝรั่งระหว่างเรียนคณิตศาสตร์เป็นเวลา 14 สัปดาห์ สามารถทำคะแนนสอบได้สูงกว่าระดับคะแนนมาตรฐาน และยังทำเกรดตอนสอบปลายเทอมได้ดีกว่ากลุ่มเด็กนักเรียนที่ไม่ได้เคี้ยวหมากฝรั่ง
"นี่เป็นครั้งแรกที่เราสามารถใช้สถานการณ์ในชีวิตจริงมาแสดงให้เห็นว่านักเรียนจะมีผลการเรียนดีขึ้นเมื่อได้เคี้ยวหมากฝรั่ง" กิล ลีเวล ผู้อำนวยการบริหารสถาบันริกลี่ย์ ไซแอนซ์ ซึ่งเป็นของบริษัทผู้ผลิตหมากฝรั่งริกลี่ย์ ผู้ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยกล่าว และเล่าถึงที่มาของการศึกษาว่า เป็นเพราะริกลี่ย์ได้รับคำบอกเล่าจากลูกค้าหลายรายที่เคี้ยวหมากฝรั่งว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยให้เขามีสมาธิจดจ่อได้นานขึ้น ทำให้ริกลี่ย์ได้ตั้งสถาบันวิจัยขึ้นมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพื่อศึกษาดูว่า คำกล่าวอ้างเหล่านั้นมีความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน? กิลเล่าว่า ทีมนักวิชาการของวิทยาลัยแพทย์เบย์เลอร์ ได้ทำการศึกษาในห้องเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 4 ห้องเรียน โดยมีนักเรียนอายุระหว่าง 13-16 ปี เข้าร่วมโครงการทดลองนี้ 108 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กเชื้อสายสเปน จากครอบครัวผู้มีรายได้น้อย ทีมศึกษาได้แบ่งครึ่งเด็กนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งให้เคี้ยวหมากฝรั่งชนิดไม่มีน้ำตาลทั้งในระหว่างเรียน, ทำการบ้าน และสอบ
ทั้งนี้เด็กๆ จะได้เคี้ยวหมากฝรั่งอย่างน้อย 1 แผ่น คิดเป็น 86% ของระยะเวลาที่พวกเขากำลังเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และคิดเป็นระยะเวลา 36% ของเวลาที่พวกเขาทำการบ้าน ส่วนอีกกลุ่มไม่ให้เคี้ยวหมากฝรั่งเลย หลังจากผ่านไป 14 สัปดาห์ ปรากฏว่าเด็กนักเรียนที่เคี้ยวหมากฝรั่งมีคะแนนสอบจากแบบทดสอบประเมินผลของ Texas Assessment of Knowledge and Skills achievement test เพิ่มขึ้นมา 3% ซึ่งแม้จะเป็นการเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อย แต่ทีมของเครกก็ว่า ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงที่มีหลักฐานเป็นตัวเลขมาแสดงให้เห็นกัน ทีมศึกษายังได้ติดตามวัดคะแนนในแบบทดสอบประเมินผลของ Woodcock Johnson III Tests of Achievement ด้วย แต่ปรากฏว่าไม่มีความแตกต่างในคะแนนสอบของเด็กทั้งสองกลุ่ม แต่ในการสอบปลายเทอม ผลปรากฏว่า เด็กที่เคี้ยวหมากฝรั่งทำเกรดได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้เคี้ยวหมากฝรั่ง ทั้งนี้ในผลการศึกษาที่ริกลี่ย์ให้เงินทุนสนับสนุนอีกชิ้น ยังพบว่า นักศึกษาที่ได้มอบให้หมายให้ทำงานยากๆ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ต่างมีระดับ คอร์ติซอล (cortisol) หรือฮอร์โมนเครียดลดลง เมื่อได้เคี้ยวหมากฝรั่ง เมื่อเทียบกับกลุ่มนักศึกษาที่ไม่ได้เคี้ยว สำหรับผลการศึกษาทั้งหมดที่ได้ กิล ลีเวล คิดว่าน่าจะเป็นผลมาจาก
การเคี้ยวหมากฝรั่ง ช่วยให้นักศึกษารู้สึกคลายเครียด ส่งผลให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น เขาจึงหวังว่า ผลการศึกษาเหล่านี้อาจจะช่วยทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนขึ้นมาบ้าง "สิ่งสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่การเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือกากหมากฝรั่งที่ถูกคายทิ้ง" ซึ่งประเด็นนี้กิลบอกว่า สามารถแก้ไขได้ด้วยการสอนเด็กให้รู้จักแสดงพฤติกรรม จัดการกับกากฝรั่งที่คายทิ้งอย่างถูกต้อง เหมาะสม หรือหากสอนแล้ว เด็กไม่เชื่อฟัง กิลก็ตบท้ายอย่างติดตลกว่า "บางทีเราอาจจะต้องแจกอุปกรณ์ขูดแซะหมากฝรั่งให้กับภารโรงไว้ใช้"
คอลัมน์ ร่อนตามลม โดย raikorn@hotmail.com