อิทธิฤทธิ์ แมว 2008

อิทธิฤทธิ์ แมว 2008

อิทธิฤทธิ์ แมว 2008
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในปี 2008 แมวเป็นสัตว์ที่ทรงอิทธพลอย่างเหลือกำลัง DLife ฉบับปรับโฉมใหม่เลยต้องตามไปเจาะลึกอิทธิฤทธิ์ของแมวในโลกขึ้นมานำเสนอท่านผู้อ่าน เฮลโล คิตตี้เราพบว่ามีแมวทรงอิทธิพลอยู่ทั้งในโลกตะวันออกและตะวันตก

เฮลโล คิตตี้, โดราเอมอน คือเจ้าแห่งแมวในโลกตะวันออก ส่วนการ์ฟิลด์ก็เป็นแมวกวนๆ ที่ทรงอิทธิพลในโลกตะวันตก เฮลโล คิตตี้ นั้น ข่วนใจคนรักแมวไปถึงปีละพันล้านดอลลาร์ หรือหากคิดเป็นเงินไทยก็ราว 3.3 หมื่นล้านบาท

ทำไมแมวถึงได้มีอิทธิฤทธิ์ขนาดนั้น ?

แมวไม่มีปากผู้นำวัฒนธรรมคิกขุ เฮลโล คิตตี้ เป็นแมวที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่จำความได้ และปัจจุบันเธอยังโลดแล่นอยู่ทั้งบนสินค้า เครื่องบิน ไลฟ์โชว์ และแอนิเมชั่น... หากจะถามว่าแล้วอะไรที่ทำให้แมวไม่มีปากตัวนี้ประสบความสำเร็จ ก็ต้องย้อนกลับไปยุค 70"s โน่น "ซานริโอ" เป็นผู้ให้กำเนิดแมวคิตตี้ เพื่อเป็นโลโก้บนสินค้าของใช้กุ๊กกิ๊ก อย่างเช่น กระเป๋าใส่เศษสตางค์ และเครื่องเขียน จนปัจจุบันออกลูกออกหลานเป็นสินค้ากว่า 2 หมื่นชิ้น ตั้งแต่ที่ปิ้งขนมปัง เครื่องทำกาแฟ คอมพิวเตอร์แล็ปทอป ฯลฯ ทั้งที่คิตตี้ไม่มีชีวิต ไม่ได้เกิดขึ้นจากการเป็นแคแร็กเตอร์การ์ตูน ไม่มีบุคลิก ไม่มีปูมหลัง แต่คนกลับรักเธอ ไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นเท่านั้น ยังรวมไปถึงคนทั่วโลกที่รู้จัก และรักเธอ เฮลโล คิตตี้ สร้างรายได้ให้กับซานริโอถึงปีละ 1 พันล้านดอลลาร์ ทุกเดือน ซานริโอจะผลิตสินค้าคิตตี้ 600 ชนิด ออกมาหมุนเวียนเสมอ อีกทั้งคิตตี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล เช่น ฤดูร้อนจะมีรองเท้าแตะคิตตี้ ฤดูหนาวมีที่ครอบหู ฤดูใบไม้ผลิมีกระเป๋า back-to-school โดยซานริโอกำหนดราคาสินค้าเฮลโล คิตตี้ ค่อนข้างจะต่ำพอที่เด็กๆ จะสามารถเป็นเจ้าของได้ นี่เองเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คุณเห็นคิตตี้ติดตัวเด็กๆ ชาวญี่ปุ่นกันมากมาย นอกจากผลิตสินค้าเองแล้ว ซานริโอยังขายลิขสิทธิ์คิตตี้ให้แก่สินค้าหลายเจ้า ทำให้ไม่แปลกใจที่เราเห็นแล็ปทอป NEC-Hello Kitty หรือรถ Daihatsu Kitty Ken Belson และ Brian Bremner ผู้เขียนหนังสือ Hello Kitty : The Remarkable Story of Sanrio and the Billion Dollar Feline Phenomenon กล่าวถึงความสำเร็จของเฮลโล คิตตี้ เอาไว้ว่า หนึ่ง เฮลโล คิตตี้ สามารถดึงความปรารถนาภายในของมนุษย์ลึกๆ ที่อยากจะแบ่งปันออกมาได้ เธอเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ น่ารัก และไร้เดียงสาของเด็กสาวที่โตพอจะรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ สอง เฮลโล คิตตี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการเป็นการ์ตูนช่อง หรือแอนิเมชั่นแบบการ์ตูนอย่างมิกกี้ เมาส์ หรือสนูปปี้ เธอเป็นกระจกเงา สะท้อนเอาแคแร็กเตอร์ไหนก็ได้ที่คุณอยากให้เธอเป็น จนเด็กหญิงตัวเล็กๆ ชื่นชอบเธอ ในขณะเดียวกันคุณแม่ที่ยังไม่อยากทิ้งวัยเยาว์ของตัวเองก็ยังสะสมเธอ คุณค่าของคิตตี้อยู่ที่การที่เธอไม่มีปาก ทำให้เธอสามารถแชร์ความรู้สึกได้ทุกอารมณ์ นอกจากนั้น คิตตี้ยังเป็นแมวข้ามวัฒนธรรม มีคนสร้างเธอให้เป็นแมวอังกฤษ เกิดที่ลอนดอน มีนามสกุลว่า ไวต์ (White) ใช้ชีวิตแบบผู้ดีอังกฤษ ชอบอบขนม เล่นเปียโน แต่เธอก็มีส่วนของความเป็นเอเชียผ่านวัฒนธรรมพ็อปแบบญี่ปุ่น คิตตี้เพิ่งมาขยับปากได้ตอนที่ถูกสร้างเป็นแอนิเมชั่น Hello Kitty"s Furry Tale Theatre เมื่อปี 1987 และต่อมาในช่วงปี 1991 เธอได้ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปออกอากาศทางช่อง CBS ในอเมริกา ในเรื่อง Hello Kitty and Friends และวันนี้คิตตี้กลายเป็นแมวที่ทำเงินมากที่สุดของโลก โดราเอมอน,การ์ฟิลด์

ฮีโร่แห่งเอเชีย เขาคือตัวการ์ตูนที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ว่าเป็น "ฮีโร่" แห่งเอเชีย จะใครที่ไหนล่ะ ก็เจ้าโดราเอมอนคู่หูของโนบิตะนั่นแหละ โดราเอมอนมีที่มาต่างจากเฮลโล คิตตี้ มีต้นกำเนิดมาจาก "มังงะ" ของ ฮิโรชิ ฟูจิโมโต และโมโตโอะ อาบิโกะ (โดยใช้นามปากการ่วมกันว่า ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ) เขาเป็นหุ่นยนต์แมวจากโลกอนาคตที่ข้ามเวลามาช่วยเด็กชายหัวขี้เลื่อยที่ชื่อโนบิตะด้วยของวิเศษจากอนาคต และของวิเศษเหล่านี้เองที่เติมเต็มจินตนาการให้กับเด็กๆ เขากลายเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ของเด็กๆ ชาวญี่ปุ่น และเด็กๆ ในอีกหลายประเทศในเวลาต่อมา เมื่อเทียบกับแมวสาวคิตตี้แล้ว โดราเอมอนเปรียบเหมือนเพื่อนสนิทของเรา เขาพร้อมจะหัวเราะเวลาเราพูดเรื่องตลก ร่วมร้องไห้เวลาที่เราทุกข์ใจ หรือว่ากล่าวตักเตือนเวลาที่เราทำผิด ในขณะที่คิตตี้ไม่มีปาก ไม่แสดงอารมณ์ การสื่อสารจะออกมาจากคนฝ่ายเดียว มองในแง่เศรษฐกิจ โดราเอมอนเป็นสินค้าที่สร้างรายได้แก่ประเทศญี่ปุ่นไม่น้อย ผลผลิตของโดราเอมอนไม่ได้มีแค่หนังสือการ์ตูน แต่ยังมีภาพยนตร์และแอนิเมชั่นทางทีวี ซึ่งรวมถึงวีซีดี ดีวีดี และยังมีสินค้ามากมายเกี่ยวกับโดราเอมอน ทั้งตุ๊กตา โปสเตอร์ เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องแต่งบ้าน ฯลฯ การ์ตูนโดราเอมอนมีทั้งความเป็นญี่ปุ่นและความเป็นสากลในตัวเอง ดำเนินชีวิตด้วยปรัชญาเซน เขาเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของคนมองโลกในแง่ดี ที่คอยบอกกับทุกคนว่า ปัญหาทุกปัญหาล้วนแล้วแต่แก้ไขได้ ดังนั้นจึงไม่ควรท้อถอย จงมุ่งมั่นในการฟันฝ่าอุปสรรค อีกทั้งยังปลูกฝังความคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์ และสร้างจินตนาการในโลกอนาคต โดราเอมอนมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งการผสานเรื่องราวสนุกสนาน แง่มุมการดำเนินชีวิตอย่างเรื่องการมองโลกในแง่ดีของโดราเอมอนทำให้เป็นการ์ตูนยอดนิยมโดยไม่จำกัดสัญชาติและเชื้อชาติ เพศ และวัย เฉพาะความนิยมในโดราเอมอนที่ญี่ปุ่น ทำให้หนังสือการ์ตูนโดราเอมอนมียอดขายเป็นอันดับ 1 พิมพ์ออกมาแล้วมากกว่า 750 ล้านเล่ม และมีการนำไปแปลและตีพิมพ์ทั่วโลก

ความคลาสสิกของแมวหุ่นยนต์สีฟ้าตัวนี้เป็นเสมือนศูนย์รวมแห่งความทรงจำวัยเด็ก และจินตนาการ ซึ่งนั่นทำให้เขาได้รับตำแหน่งฮีโร่น่ากอดแห่งเอเชียในปี 2002 จากนิตยสารไทม์ไปครองอย่างเต็มภาคภูมิ อ้วนส้ม...ถึงร้ายก็รัก เจ้าโดราเอมอน และเฮลโล คิตตี้ ที่มีความน่ารัก สดใส และมองโลกในแง่ดีแบบชาวตะวันออก แต่สำหรับ เจ้าการ์ฟิลด์ (Garfield) กลับเป็นแมวอเมริกันตัวร้าย มองโลกในแง่ร้าย และนิสัยร้ายกาจ

การ์ฟิลด์ เป็นการ์ตูนช่องเรื่องสั้น ที่เขียนขึ้นโดย จิม เดวิส ปรากฏตัวครั้งแรกในวันที่ 19 มิถุนายน 1978 เป็นแมวอ้วน สีส้มลายสีดำ มีความคิดเป็นของตัวเอง และมั่นใจในตัวเองมาก มีนิสัยขวางโลก และขี้เกียจเป็นที่สุด ในปี 2007 การ์ตูนการ์ฟิลด์ได้ลงหนังสือพิมพ์ไปทั้งหมด 2,580 ตอน ทำให้กินเนสส์บุ๊กได้บันทึกว่าการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนช่องที่ได้รับการตีพิมพ์มากที่สุดในโลก มีสถิติว่าผู้อ่านการ์ฟิลด์เพิ่มขึ้นทุกวัน และสินค้าของการ์ฟิลด์นั้นก็มีขาย 111 ประเทศทั่วโลก แมวอ้วนสร้างรายได้ให้กับจิม เดวิส เจ้าของมากถึง 750-1,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่ใช่ความบังเอิญแน่ๆ ที่จะมีคนมารักแมวร้ายตัวนี้มากมายขนาดนี้ เบื้องหลังกว่าจะเป็นแมวอ้วน

จิม เดวิส สร้างการ์ฟิลด์บนพื้นฐานความคิดทางการตลาด เขาได้ศึกษาตลาดการ์ตูนก่อนจะสร้างมันขึ้นมา สิ่งแรกที่เขาคิดคือ ต้องเป็นสัตว์ เขามองย้อนไปที่สนูปปี้ของ

ชาร์ลี บราวน์ นั้น คนจดจำสนูปปี้ได้มากกว่าชาร์ลีผู้เป็นเจ้าของเสียอีก ในตอนนั้นมีสุนัขหลายตัวที่เป็นที่นิยมและตลก แต่ไม่เห็นมีแมวตลกสักตัว ว่าแล้วเขาก็เลยสร้างการ์ตูนตลกโดยมีแมวเป็นตัวเอก สร้างบุคลิกให้แมวตัวนั้นเหมือนกับคน เป็นแมวที่เกลียดวันจันทร์ แมวที่ชอบกินลาซาญ่า และแน่นอนว่ามันต้องตัวอ้วน การ์ฟิลด์ไม่ได้หยุดความสำเร็จเอาไว้แค่ในหนังสือพิมพ์ เขายังปรากฏโฉมในรูปแบบแอนิเมชั่น ภาพยนตร์ และสินค้าลิขสิทธิ์ โดยมี Paws,Inc. เป็นผู้ดูแลลิขสิทธิ์ทั้งหมดของการ์ฟิลด์อย่างถูกต้องเพียงเจ้าเดียว Paws,Inc. เริ่มผลิตสินค้าการ์ฟิลด์ขายออนไลน์ในปี 1997 และยังมี "Garfield Pizza Cafe" ในกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และในรัฐเนวาดาก็มีสลอตแมชีนการ์ฟิลด์ เดี๋ยวนี้คุณจะเห็นการ์ฟิลด์ปรากฏตัวทั่วทุกประเทศ ตั้งแต่ประเทศไทย ถึงกัวเตมาลา ถึงฝรั่งเศส และรัฐบาลบางประเทศยังนำการ์ฟิลด์ไปใช้สอนภาษาอังกฤษในเด็กนักเรียนด้วย

การปรากฏตัวที่ยิ่งใหญ่ของการ์ฟิลด์บนจอเงิน ในภาพยนตร์เรื่อง Garfield : The Movie ยิ่งตอกย้ำความนิยมของแมวอ้วนส้มตัวนี้ และสร้างความภาคภูมิใจให้เดวิสผู้สร้างเป็นอย่างมาก นี่คือการตอกย้ำอิทธิพลและความนิยมของคนที่มีต่อแมว ทีนี้เชื่อกันหรือยังละว่าแมวนั้นทรงอิทธิพลจริงๆ ลินา ลีนุตพงษ์ "แมวก็เศร้าเหงาเป็น" ลินา ลีนุตพงษ์,แมวจะว่าไปแล้วแมวนั้นก็มีคนรักอยู่มากมาย ชัดเจนก็ท่านสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในวันแถลงข่าวเปิดตัว ท่านยังเอาเจ้า "แตงไทย" วัย 18 ปีมาโชว์ตัวด้วย แต่อีกคนหนึ่ง นั่นคือ ลินา-ภัคศรณ์ ลีนุตพงษ์ นักแต่งเพลงสาวสวยที่มีผลงานเพลงชิ้นโบแดงอย่างเพลง "ดินแดนแห่งความรัก" ให้วงเครสเซนโดร้อง ทำไม "ลินา" ถึงรักน้องเหมียวนักหนา ?

"ที่บ้านเลี้ยงแมว 3 สาว 3 ตัว เป็นแมวเปอร์เซียตัวแรกอายุ 8 ปีมีชื่อว่า จิงเกิ้ลเบลล์ เป็นแมวหิมาลายัน ช็อกโกแลต พ้อยต์ ชื่อว่าจิงเกิ้ลเบลล์เพราะลินาซื้อแมวตัวนี้มาตอนวันคริสต์มาสพอดี ส่วนอีกสองตัวเป็นแมวเปอร์เซียสีขาว อายุเท่าๆ กันประมาณ 3-4 ปี ชื่อ "เอลล่า" และ "เอมิลี่" เอลล่าเป็นแมวที่พี่บี (พีระพัฒน์ เถรว่อง อดีตนักร้องนำวงเครชเชนโดแฟนของลินา) ซื้อให้เพื่อให้มาเป็นเพื่อนกับกับจิงเกิ้ลเบลล์ ต่อมาลินาได้ซื้อเอมิลี่มาเพิ่มอีกตัว ชื่อของแมวสองตัวนี้มีที่มา ชื่อ "เอลล่า" มาจาก เอลล่า ฟิตซ์เจอรัลด์ นักร้องแจ๊ซระดับตำนาน และชื่อ "เอมิลี่" มาจากชื่อหนังฝรั่งเศสที่ชื่อเดียวกันนี้" ...จิงเกิ้ลเบลล์เป็นแมวที่สดใสร่าเริง ใครไปเล่นกับเขาก็ไม่เป็นไร แต่ที่น่าแปลก คือ เจ้าเอลล่า แม้ว่าจะเป็นแมวที่พี่บีเอามาให้ แต่มันกลับติดลินามากกว่า ส่วนเอมิลี่ซึ่งเป็นแมวที่ลินาเอามาเลี้ยงเองกลับติดพี่บี เวลาพี่บีมาทีไร เจ้าเอมิลี่ต้องเข้าไปเล่นด้วยเป็นประจำ... การดูแลแมวของลินานั้นจะพยายามอาบน้ำให้สัปดาห์ละครั้ง บางครั้งไม่ว่างก็อาจจะสองสัปดาห์ครั้ง แต่ลินาจะแปรงขนให้ทุกวัน การให้อาหารแมวส่วนใหญ่เป็นอาหารเม็ดเพราะว่ามันดีต่อสุขภาพเหงือกและฟัน ลินารู้สึกว่าแมวทำให้ห้องดูสดใส เหมือนกับตุ๊กตาที่มีชีวิต แมวของลินามักจะนอนกับลินาบนเตียงนอนเลย "ลินาอยากเลี้ยงแมวมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนเด็กๆ ลินาแพ้ขนแมวขนาดที่ว่าถ้าเจอจะน้ำหูน้ำตาไหลทันที แต่พอโตขึ้นเหมือนมีภูมิคุ้มกันเยอะขึ้น ตอนเอาเขามาเลี้ยงจึงไม่เป็นอะไร"ด้วยความที่เป็นคนรักแมว ลินาจึงชอบของสะสมที่เกี่ยวกับแมวไปด้วย "ตอนนี้ลินาชอบชาร์มมี่ คิตตี้ ซึ่งเป็นแมวที่เป็นเพื่อนของเฮลโล คิตตี้ แมวตัวนี้เป็นแมวเปอร์เซียเหมือนแมวของลินา" "แต่อยากฝากถึงคนที่จะเลี้ยงแมวหรือสุนัขว่า ไม่ว่าแมวหรือสุนัข เขาก็มีจิตใจ เศร้าหรือเหงาเป็น แม้ว่าเรามีเขาแต่พอเราออกไปข้างนอกเราก็เจอกับคนอื่น แต่เขามีแค่เรา เพราะฉะนั้นถ้าจะเลี้ยง ต้องคิดให้ดี"

แมวที่แก่ที่สุด อายุแมวมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-18 ปี มีน้อยตัวที่จะอายุยืนนานได้มากกว่านั้น มีบันทึกไว้ว่าแมวที่แก่ที่สุดในโลกอายุมากถึง 36 ปี แต่ปัจจุบันแมวตัวนั้นลาโลกไปแล้ว ขณะเดียวกันก็ยังมีแมวอยู่หลายตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ และอายุมากกว่า 30 ปี

นิสัยแมวๆ ในรัฐบาลนี้สง่าราศีของ "แมว" ฉายแสงแจ่มตาในฐานะสัตว์เลี้ยงคู่ใจของผู้นำรัฐบาล แถมคนยังนำนิสัยของแมวมาใช้เป็นวาทะในการเหน็บแนมด้วยแล้ว แมวจึงเป็นสัตว์เลี้ยงที่เราควรศึกษานิสัยใจคอของมันไว้บ้าง แมวมีนิสัยรักอิสระ เป็นตัวของตัวเอง ชอบไปไหนมาไหนตามใจ (ไม่ชอบให้คนติดตาม) สง่างาม เจ้าอารมณ์ รักสะอาด มักคิดเสมอว่าตัวเองอยู่เหนือมนุษย์ เป็นนายเรา อย่างเช่น พฤติกรรมที่พอถูกดึงหางแล้วมันจะเดินหน้า พอถูกดึงท้องมันจะโก่งตัว แมวคิดว่ามันเป็นเจ้าของเรามากกว่าที่เราจะเป็นเจ้าของมัน แมวจะรักตอบคนที่รักมันเท่านั้น ใครที่ทำเย่อหยิ่งกับมันก่อน อย่าได้หวังว่ามันจะง้อ แต่แม้ว่ามันอาจจะหยิ่งสักหน่อย แต่ก็ไม่ติดเจ้าของเหมือนสุนัข ไม่คอยมานั่งเฝ้าคุณอยู่ตลอดเวลา แถมยังไม่ค่อยเชื่อฟังอีก แต่คนที่เลี้ยงแมวเขาพากันบอกตรงกันว่า ถ้าคุณทำให้มันรักคุณได้ และถ้าคุณเรียนรู้วิธีที่จะจัดการกับมันอย่างถูกต้อง เจ้าเหมียวตัวนั้นจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าเอ็นดูเลยแหละ นอกจากนี้ แมวเป็นสัตว์ชนิดเดียวในโลกที่ไม่มีกลิ่นตัว แต่กลับมีอึเหม็นมากเพราะกระเพาะอาหารของมันย่อยอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากเนื้อสัตว์เท่านั้น มันจะมีรอบการนอน 20 ชั่วโมงต่อวัน หวงถิ่น ปรับตัวเข้ากับแมวด้วยกันเองและสัตว์อื่น หรือสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ยากกว่า "มะหมา"ที่สำคัญด้วยความที่ต้นตระกูลของแมวมาจากเสือไซบีเรียน ฉะนั้นมันจึงมีสัญชาตญาณสัตว์ป่ามากกว่าสุนัข

ถ้าคิดจะฝึกแมวให้เชื่อฟังขนาดชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ สั่งโดดข้ามสิ่งกีดขวาง หรือกระโดดข้ามห่วงไฟ ขอบอกว่า ยากส์ ! ทีนี้พอจะเข้าใจกันหรือยังที่ว่าเป็นคนนิสัยแมวนั้นเป็นยังไง ! Believe it or not ! รกแมว : เชื่อว่าเป็นของดี เป็นของหายาก เพราะเวลาแมวคลอดลูกมักแอบไปคลอดที่ลับๆ ส่วนมากจะกินรกตัวเอง ยิ่งลูกกรอกแมวจะยิ่งหายากกว่ารกแมวหลายเท่า เพราะเป็นลูกแมวที่คลอดออกมาแล้วแต่ตายตั้งแต่ในท้อง ลูกกรอกแมวนี้จะมีวิญญาณแมวอยู่ โบราณเชื่อว่า ถ้าผู้ชายพกติดตัวไปนอกจากมีความสุดยอดทางเรื่องมหานิยมแล้ว เวลาไปหาผู้หญิงสามารถอธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการได้ ลูกกรอกแมวเป็นลักษณะภูติที่ให้แต่คุณ ไม่มีโทษใดๆ

แห่นางแมว : ความเชื่อทางภาคอีสาน เมื่อถึงฤดูแล้ง ชาวบ้านจะนำแมวสีสวาด (แมวโคราช) ขึ้นเสลี่ยงแห่ไปรอบๆ หมู่บ้าน ไปถึงบ้านไหน บ้านนั้นให้ออกไปรดน้ำแมว ถือเป็นพิธีกรรมขอฝนจากเทวดา

แมวนางกวัก : ความเชื่อจากแดนปลาดิบ เล่าสืบต่อกันมาว่า หญิงชราฐานะยากจนคนหนึ่ง ฝันเห็นแมวมาบอกให้ปั้นรูปแมวด้วยดินเหนียวแล้วจะโชคดี ยิ่งเธอปั้นมากเท่าไรก็จะมีคนมาขอซื้อมากเท่านั้น แมวจึงถือเป็นสัตว์นำโชคตั้งแต่นั้นมา เชื่อกันว่าแมวที่กวักมือซ้ายจะเรียกคนเข้าร้าน ยิ่งยกแขนกวักสูงแค่ไหนก็เรียกคนได้มากแค่นั้น แต่ถ้ากวักมือขวาเป็นการเรียกเงินทองและความโชคดีเข้าบ้าน ส่วนแมวสามสีกวักมือซ้ายถือว่าโชคดีที่สุด เงินทองไหลมาเทมา

แมวดำ : คนไม่นิยมเลี้ยงเพราะเชื่อว่าเป็นแมวผี แมวดำของไทยที่ยังไม่สูญพันธุ์คือ โกญจา (ส่วนนิลรัตน์ที่มีเล็บ ลิ้น ฟัน ตา ดำหมด สูญหายไปแล้ว) โกญจาแปลว่านกกระเรียน หรือเสียงดังกึกก้องกังวาน เจ้าแมวโกญจานี่ท่าเดินสง่างามมาก แถมมีเสียงร้องดังก้องกว่าแมวธรรมดา เวลาแมวโกญจาร้องตอนกลางคืน คนสมัยก่อนเอาไต้ส่องหาไม่เห็นตัว เห็นแต่ดวงตาระยิบระยับน่ากลัว เลยเอามาเขียนเป็นนิยายแมวผีเล่าสืบทอดต่อๆ กันมาจนกลายเป็นความเชื่อจนถึงปัจจุบัน

แมวตาสองสี : แมวพันธุ์ขาวมณี สีขาวปลอดทั้งตัว บรรพบุรุษสายพันธุ์แท้ๆ สืบเชื้อสายมาจากแมวของกษัตริย์ มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่ารัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเลี้ยงแมวมากโดยเฉพาะพันธุ์ขาวมณีแท้มีถึง 9 ตัว (เช่นเดียวกับช้างเผือกที่มี 9 เชือก) ในขณะที่พระราชทานแมวไทยพันธุ์อื่นๆ ให้แก่ทูตานุทูตประเทศต่างๆ (แทนของล้ำค่าแทนถมเงินถมทอง) พระองค์เก็บเจ้าขาวมณีไว้เลี้ยงเอง และในเวลาต่อมาจึงพระราชทานแก่กรมหลวงชุมพรฯ เฉพาะสายพันธุ์แท้สืบต่อตกทอดอยู่แต่ในตระกูลของลูกหลาน เพราะถือเป็นแมวของกษัตริย์เท่านั้นห้ามซื้อ-ห้ามขาย (ปัจจุบันหาชมได้ที่อุทยานแมวไทยโบราณ)

เพชรตาแมว : ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ คนโบราณว่า ใครมีแมวตาเพชรจะมีลาภมียศ มียศถาบรรดาศักดิ์

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ อิทธิฤทธิ์ แมว 2008

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook