แฟนต้ายุวทูต, แฟนต้า, กิจกรรม, เด็ก, เยาวชน

เปิดฉากไปแล้วสำหรับการประกวดรอบแรก ใน โครงการแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 14 ประจำปี 2552 - 2553 ภายใต้หัวข้อ ร่วมทำสิ่งดีๆ ที่แตกต่าง เพื่อเรา...เพื่อโลก ที่จัดขึ้นโดยผู้ใหญ่ใจดี กลุ่มธุรกิจ โคคา - โคลา ในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) ได้ตระเวนจัดประกวดรอบแรกครบทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น 6 ภาค ได้แก่ ส่วนกรุงเทพฯ, ภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคเหนือ, ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยทีมที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินในรอบแรกจะประกาศผลให้ทราบทาง www.fyathai.com และ www.opp.go.th ต่อไป ผศ.เฉลิมพล ดาวเรือง ประธานกรรมการตัดสิน โครงการแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปัจจุบัน เผยภาพรวมของเยาวชนว่า ปีนี้เด็กๆ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ในขณะที่โรงเรียนรู้ทิศทางโครงการมากขึ้นว่าต้องการอะไร เมื่อทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจแล้วก็จะนำไปสู่ความร่วมมือ เด็กจะได้พบประสบการณ์ใหม่นอกห้องเรียน โดยภาพรวมเด็กมีพัฒนาการที่ดีมาก ชัดเจน ครูมีการเตรียมการที่ดี และเด็กกล้าแสดงออก สำหรับพัฒนาการด้านสติปัญหา พบว่าเด็กมีการเรียนรู้ในการแก้ปัญหา ทำงานเป็นทีม มีปฏิภาณไหวพริบ มีความคิดสร้างสรรค์ดีกว่าปีก่อน กล่าวคือเด็กเก่งขึ้นนั่นเอง ขณะที่รอบสองเป็นการเข้าค่าย ซึ่งจะมีการดีไซน์รูปแบบให้มีความเหมาะสมกับช่วงวัยของเด็กวัยรุ่นตอนต้น ค่ายเปรียบเสมือนท่อกลวงขนาดใหญ่ที่ทุกคนต้องเดินผ่าน เป็นประสบการณ์ตรง ได้เรียนรู้เพื่อนใหม่ มีการแบ่งปัน มีความรัก การให้อภัย เอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักปรับตัวให้เข้ากับคนอื่น นำพาไปสู่การเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพ เติบโตไปแล้วมีความสุขในอนาคต ค่ายเป็นห้องเรียนแห่งชีวิต จะมีปัญหา มีสถานการณ์เกิดขึ้น มีกฎกติกาของค่าย แต่ขณะเดียวกันก็มีความสนุกซ่อนอยู่ตลอดเวลา ภายใต้หลักการและทฤษฎีพหุปัญญา เป็นการฝึกเชาวน์ปัญญา 8 ด้าน ได้แก่ คณิตศาสตร์และตรรกวิทยา, การใช้ภาษา, กล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหว, ดนตรีและท่วงทำนอง, มิติสัมพันธ์, เข้าใจตนเอง, เข้าใจผู้อื่น และสุดท้ายเข้าใจธรรมชาติ ซึ่งกิจกรรมทุกกิจกรรมภายในค่ายจะตอบรับกับสมองของเด็ก ที่ต้องการออกซิเจนไปพัฒนาสมองให้มีการเจริญเติบโตเหมือนเป็นการให้อาหารสมองอย่างถูกต้องเหมาะสมนั่นเอง

แฟนต้ายุวทูต, แฟนต้า, กิจกรรม, เด็ก, เยาวชน

ผศ.เฉลิมพล ดาวเรือง กล่าวเสริมว่า เด็กไทยโดยเฉพาะวัยรุ่นตอนต้นนั้นต้องการความรัก ความใจใส่อย่างมาก และแสวงหาตนเอง ต้องการคนเป็นผู้นำ ดังนั้น ผู้ใหญ่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็ก พร้อมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ควรหันมาใส่ใจพัฒนาเด็กให้ถูกทิศทาง การมีกิจกรรมกับเด็ก จะทำให้เด็กสนุกสนานและสมองเกิดการเรียนรู้ พร้อมกันนั้นยังเกิดความผูกพันระหว่างกัน ทั้งครูและนักเรียน และนักเรียนกับนักเรียน เราควรจะพัฒนาคนให้พร้อมกับความเจริญสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด ขณะที่น้องๆ ที่เข้าร่วมประกวด โครงการแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 14 ประจำปี 2552 - 2553 รอบแรก เผยความรู้สึกถึงกิจกรรมในวันี วิทยาลัย กรุงเทพฯ นำโดยน้องแชมเปญ - ด.ญ.ณวพรรณ พรประภา, น้องต๊ะ - ด.ญ. ประดิภา ชาญภิญโญ และน้องมายด์ - ด.ญ.พีรยา เวชวิทารณ์ ที่มาในชื่อทีม เด็กไทย เพื่อไทย กับโครงการ ลุกมาเล่น เช่นเด็กไทย เผยว่า พวกเราได้เพื่อนใหม่มากมาย รู้จักการปรับตัวเข้าหากันและสร้างความสามัคคี อีกทั้งยังได้ฝึกการควบคุมสติ ควบคุมความตื่นเต้น ฝึกไหวพริบ และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ค่ะ เริ่มต้นพวกเรารู้จักโครงการแฟนต้ายุวทูตจากรุ่นพี่ที่เคยได้รับตำแหน่งแฟนต้ายุวทูตเมื่อรุ่นที่แล้ว ชักชวนให้ร่วมสมัคร โดยได้ทำโครงการการละเล่นเด็กไทยเข้าประกวด เพราะปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยให้ความสนใจกับการละเล่นของไทย ที่แสดงถึงวิถีชีวิตของเด็กไทยในสมัยก่อน แต่กลับให้ความสนใจเล่นเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์ เกมเพลย์สเตชั่นมากกว่า ทำให้พวกเราสูญเสียวัฒนธรรมไทยไป แท้จริงแล้วการละเล่นของเด็กไทยมีประโยชน์มาก นอกจากจะได้ความสนุกสนาน มีกิจกรรมทำร่วมกับเพื่อน ยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย พวกเราจึงอยากชวนให้เด็กๆ หันมาเล่นการละเล่นของไทยกัน โดยเริ่มจากการแนะนำการละเล่นต่างๆ สอนวิธีเล่น และวิธีทำของเล่นแบบง่ายๆ ค่ะ โรงเรียนเอกอโยธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นำโดย น้องทิพย์ - ด.ญ.ทิพวัลย์ กาดี, น้องลูกเกด - ด.ญ.ศรุตา จับศัตรู และน้องเบนซ์ - ด.ญ.ชนากาญจน์ อรุณรัตน์ ที่มาในชื่อทีม คนดี ศรี เอกอโยธยา กับโครงการ คุณธรรมนำใจกับจิ๋วแจ๋ว เผยว่า สนุกค่ะ ได้เพื่อน ได้รู้จักคนอื่นๆ หลายๆ คน อีกทั้งยังได้ความรู้เรื่องกลอน และความสามัคคีด้วย พวกเราได้นำโครงการ คุณธรรมนำใจกับจิ๋วแจ๋ว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำอยู่ประจำที่โรงเรียน เป็นการจับดี คือ ใครทำดีเมื่อเราเห็นก็จะบันทึกไว้ เช่น เก็บขยะ จูงคนแก่ข้ามถนน เป็นต้น จากนั้นนำไปขยายต่อให้รุ่นน้องอนุบาลและประถมศึกษา ทำให้รุ่นน้องเอาเยี่ยงอย่างและเกิดความภูมิใจที่ทำดีแล้วมีคนเห็น ส่งผลให้อยากทำต่อไปจนเป็นนิสัย โครงการนี้มุ่งส่งเสริมคุณธรรมและสร้างแรงบันดาลใจให้คนรอบข้างค่ะ โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เลย จ.เลย นำโดย น้องเปรียว - ด.ช.ไกรวุฒิ ชรินทร์, น้อง มาร์ค - ด.ช.ศิวกร จริญสูงเนิน และน้องบีม - ด.ญ.กัญญ์วรา โคตะมา ทีม เยาวชนรักษ์น้ำเลย นำเสนอโครงการ เยาวชนสดใสร่วมใจรักษ์น้ำเลย เผยความรู้สึกที่ได้ร่วมกิจกรรมคัดเลือกรอบแรกว่า โครงการแฟนต้ายุวทูตฯ เป็นโครงการเติมเต็มความฝัน เป็นความสุขทางใจ พวกเราสนใจทำโครงการเยาวชนรักษ์น้ำเลย เนื่องจากเราเห็น ว่าน้ำมีความสำคัญต่อชีวิต แต่ปัจจุบันแม่น้ำเลยมีสภาพเน่าเสีย มีค่าออกซิเจนต่ำกว่ามาตรฐาน เราจึงอยากอนุรักษ์โดยการนำพิธีสืบชะตาของศาสนาพราหมณ์ และวัฒนธรรมมาดึงดูดความสนใจ ประชาสัมพันธ์เชิญชวนโรงเรียน ชุมชน และเทศบาลเข้าร่วม เพื่อให้แม่น้ำสะอาดขึ้นครับ สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้ โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นำโดย น้องซีอิ้ว - ด.ญ.รอยพิมพ์ ศรีวิชัย, น้องใบเตย - ด.ญ.เชาวณี กัลยาราช และน้องพวงแสด - ด.ญ.ชโลบล อุดมศรี ที่มาในชื่อทีม ข้าวเหนียวยิ้มแฉ่ง กับโครงการ เด็กไทยไหว้สวย เผยว่า ตั้งใจประกวดแฟนต้ายุวทูต เพราะอยากได้ประสบการณ์ชีวิตเหมือนรุ่นพี่ที่เคยไเลิศเมื่อปีก่อน ซึ่งพี่ๆ ได้แนะนำเทคนิคมากมาย เช่น อย่าอาย ยิ้มเยอะๆ สบตากรรมการ และเสียงดังฉะฉาน พูดจามีหางเสียง ช่วยเหลือกันในทีม เป็นต้น และที่สนใจทำเรื่องการไหว้เพราะว่าเด็กไทยสมัยนี้ละเลยการเคารพผู้ใหญ่ จึงอยากทำกิจกรรมที่ช่วยปลูกฝังและส่งเสริมให้เพื่อนๆ ในโรงเรียนรักการไหว้ โดยให้ข้อมูลข้อดีของการไหว้ ใช้การทำให้เห็น เช่นเพื่อนคนหนึ่งไหว้ ที่มาด้วยกันก็ต้องรู้ว่าควรจะไหว้ด้วย การไหว้เป็นวัฒนธรรมไทยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรรักษา นอกจากหัวใจและสองมือ คิดว่าโครงการนี้น่าจะทำให้ทุกคนในโรงเรียนไหว้เยอะขึ้น และขยายไปยังบ้าน และชุมชนต่อไป ปิดท้ายที่โรงเรียนแชมป์เก่าภาคตะวันออกปีก่อนกับ โรงเรียนเทศบาลขลุง (บุรวิทยาคาร) จ.จันทบุรี นำโดย น้องจอห์น ด.ช.จิรวัฒน์ เจริญนาน, น้องบอส ด.ช.วงศกร เผดิมวัฒนกุล และน้องเซฟ ด.ช.ธนกร ทิพย์จิตร ที่มาในชื่อทีม Boty B-Boy Khlung กับโครงการ B-Boy ร่วมใจต้านภัยยาเสพติด เผยว่า ทราบข่าวจากทางโรงเรียน และส่วนตัวก็สนใจ เพราะเห็นรุ่นพี่ปีก่อนได้ตำแหน่ง เลยหาข้อมูลในเว็บไซต์ ที่สำคัญอยากทดสอบความสามารถของตนเอง รวมทั้งใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ จึงทำโครงการ B-Boy ร่วมใจต้านภัยยาเสพติด ขึ้น เนื่องจากเห็นว่าเดี๋ยวนี้มีคนติดยาเสพติดเยอะ แล้วชอบทำร้ายและหาเรื่องคนอื่น สูญเสียความเป็นตัวเอง พวกเราจึงอยากเชิญชวนเพื่อนๆ น้องๆ และรุ่นพี่หากิจกรรมทำโดยรวมกลุ่มกันเต้นบีบอยกับเรา ซึ่งได้ใช้ทักษะหลายด้านและสามารถฝึกได้ โดยจะเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจทั้งชายและหญิง ซึ่งขณะนี้มี 30 กว่าคน และสอนพื้นฐาน การจับจังหวะเพลง ฯลฯ ในช่วงหลังเลิกเรียนและเสาร์-อาทิตย์ พร้อมมีการโชว์ตามที่ต่างๆ เพื่อเป็นตัวอย่างแก่คนที่สนใจ คาดว่าโครงการของเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหายาเสพติด สุขภาพกายและจิตดีครับ การประกวดแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย ในรอบสองนั้นจะเป็นการเข้าค่ายเรียนรู้ 3 วัน 2 คืน ช่วงเดือนมีนาคม พฤษภาคม 2553 และรอบชิงชนะเลิศ ระหว่างเดือนมิถุนายน ต้นกรกฎาคมศกนี้ โดยผู้ครองตำแหน่งแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย จะได้ถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ทุนการศึกษา พร้อมเดินทางไปทัศนศึกษา และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม พร้อมร่วมงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2010 ที่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน

อัลบั้มภาพ แฟนต้ายุวทูต...กระจกบานใหญ่สะท้อนเด็กไทย 2010 ภาพที่ 1 / 3

แฟนต้ายุวทูต...กระจกบานใหญ่สะท้อนเด็กไทย 2010

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

เด็กจุฬาภรณราชวิทยาลัย คว้าแชมป์แฟนต้ายุวทูตอีสาน

ได้แล้ว!แฟนต้ายุวทูต(กรุงเทพฯ/ภาคกลาง) ปี 53

แฟนต้ายุวทูตรอบแรก เปิดฉากแล้ว!

แฟนต้ายุวทูต เข้าค่ายสิ่งแวดล้อม