ม.รังสิตพัฒนาหลักสูตรอินเตอร์ ไอซีที
สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเมอร์ดอก เปิดหลักสูตรปริญญาตรีร่วมนานาชาติแบบ 3+1 รับ 2 ปริญญา รองรับการขยายตัวของตลาดเกม ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ เทคโนโลยีมือถือ ตลอดจนเครือข่ายไร้สายและเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ขยายโอกาสนักศึกษาเลือกประสบการณ์ในต่างแดน
อาจารย์ฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์ หัวหน้าสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า การเรียนในสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือเรียกสั้นๆ ว่า ไอซีที ผู้เรียนจะมีทางเลือกในการเรียนมากขึ้น โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเมอร์ดอก ประเทศออสเตรเลียครั้งนี้ได้ครอบคลุมหลักสูตรแบบ 3+1 กล่าวคือ นักศึกษาสามารถลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิตใน 3 ปีแรก และในปีสุดท้ายสามารถโอนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเมอร์ดอก ประเทศออสเตรเลียได้ ซึ่งนักศึกษาสามารถเลือกเรียนวิชาเอกในสาขาวิชาระบบสารสนเทศธุรกิจ และ/หรือ สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ได้ กล่าวคือ นักศึกษาสามารถเลือกเรียนควบ 2 สาขาวิชาได้ในเวลาเดียวกัน หรือเลือกเรียนอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ซึ่งเมื่อนักศึกษาเรียนจบจะได้ปริญญาจากมหาวิทยาลัยรังสิต ชื่อปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Bachelor of Science in Information and Communication Technology) และอีก 1 ใบจากมหาวิทยาลัยเมอร์ดอก ชื่อปริญญาหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาระบบสารสนเทศธุรกิจ (Bachelor of Science in Business Information Systems) และ/หรือ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอ ((Bachelor of Science in Computer Science) ตามที่นักศึกษาเลือกเรียน ถ้านักศึกษาเรียนควบทั้ง 2 สาขาวิชา ดังนั้น ใบปริญญาของนักศึกษาจะแสดงสาขาวิชาทั้ง 2 วิชาที่นักศึกษาเรียนจบ โดยที่ใน 3 ปีแรกของการเรียนนักศึกษาจะต้องลงทะเบียนเรียนตามค่าหน่วยกิตของมหาวิทยาลัยรังสิต และในปีสุดท้ายนักศึกษาต้องลงทะเบียนเรียนตามหน่วยกิตและหลักสูตรการสอนตามที่มหาวิทยาลัยเมอร์ดอกกำหนด โดยที่นักศึกษาจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ในขณะที่ไปเรียนเอง นอกจากนี้ ในอนาคตคาดว่าจะขยายความร่วมมือนี้ให้นักศึกษามีทางเลือกมากขึ้น โดยที่นักศึกษาสามารถเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยเมอร์ดอก ณ ประเทศสิงคโปร์ได้ ซึ่งจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย หรือถ้านักศึกษาต้องการหาประสบการณ์ในทั้ง 2 ประเทศสามารถทำได้คือ ภายใน 1 ปีสุดท้ายของการเรียนจะแบ่งเรียนใน 2 ประเทศ เพียงแต่หลักสูตรครึ่งปีของประเทศสิงคโปร์จะใช้ระบบการศึกษาแบบไตรภาค ดังนั้น นักศึกษาจะต้องเรียน 2 เทอมที่ประเทศสิงคโปร์ก่อน แล้วจึงไปเรียนอีก 1 เทอมที่ประเทศออสเตรเลียก็สามารถทำได้
หลักสูตรไอซีทีจะสอนครอบคลุมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร ซึ่งนักศึกษาจะได้เรียนทางด้านไอที ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และการเขียนโปรแกรม โดยจะไม่ได้ลงลึกด้านฮาร์ดแวร์ แต่จะเจาะลึกด้านสารสนเทศที่มีความหลากหลายในปัจจุบัน เช่น เครือข่ายการสื่อสารไร้สาย (wireless) มือถือ (smart phone) เพราะการมีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ จะสามารถนำไปประกอบอาชีพด้านการดูแลเน็ตเวิร์คได้ นอกจากนี้ หลักสูตรจะมีขอบเขตหลักๆ เี่ยวกับการสอนเรื่องฐานข้อมูล เครือข่าย วิเคราะห์ระบบ และเว็บดีไซน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักศึกษาต้องเรียน และยังให้นักศึกษาได้เลือกเรียนด้านที่ตนเองสนใจในวิชาเลือกด้วย เช่น คอมพิวเตอร์เกม เน้นเรื่องการผลิตเกม mobile application เน้นซอฟท์แวร์บนมือถือ หรือซอฟท์แวร์หุ่นยนต์ ซึ่งที่มหาวิทยาลัยเมอร์ดอกจะสอนเกี่ยวกับวิชาที่เจาะลึกรายละเอียดอยู่แล้ว แม้กระทั่งเรื่องของคอมพิวเตอร์เกมที่ค่อนข้างมาแรงในปัจจุบัน ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเล่นเกม แต่ยังเป็นเรื่องของการศึกษาด้วย เพราะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการศึกษาได้ โดยขณะนี้หลายๆ มหาวิทยาลัยทั่วโลกเริ่มจะนำเกมมาใช้เป็นสื่อการเรียน ทั้งยังมีการวิจัยออกมาว่าสามารถเป็นการกระตุ้นให้เด็กสนใจเนื้อหาและช่วยเสริมทำให้เด็กมีความกระตือรือร้นมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะการวิจัยต้องมีจุดเริ่มต้นจากสิ่งเล็กรอบตัวเสมอ ถือได้ว่าหลักสูตรดังกล่าวจะสร้างบัณฑิตผู้มากด้วยความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่สามารถทำงานในองค์กรทั้งในและต่างประเทศ หัวหน้าสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศฯ กล่าวเพิ่มเติม