นศ.ม.รังสิต จัดโครงการลงใต้บำเพ็ญประโยชน์
นางสาวนภาวรรณ พันธุ์จินดา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาไทย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะประธานรุ่น กล่าวว่า โครงการในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมและเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภาคใต้ ณ หมู่บ้านไม้เรียง อ.ทานพอ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งในปีนี้มีทั้งนักศึกษาไทยและนักศึกษาโครงการแลกเปลี่ยนฯ จากประเทศจีนร่วมโครงการด้วย โดยในปีนี้ได้จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์หลากหลายขึ้น อาทิ การทำความสะอาดโบสถ์และลานวัด บริจาคหนังสือแก่ห้องสมุดหมู่บ้านไม้เรียง สนทนาธรรม และฝึกสมาธิ อีกทั้งเพื่อนนักศึกษายังเป็นคุณครูอาสาสมัครสอนหนังสือ ภาษา และวัฒนธรรม แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดหาดสูงด้วย ซึ่งเด็กที่นี่มีความสนใจที่จะเรียนรู้ภาษาต่างๆ เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังมีการสอนร้องเพลงและการประกวดวาดภาพ เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพี่นักศึกษาและน้องๆ นอกจากนี้ ในช่วงเย็นของทุกวัน ทุกคนจะมารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมสนทนาธรรมที่วัดใกล้ๆ ที่พัก
การออกค่ายในครั้งนี้ได้รับประโยชน์มาก ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างพอเพียงของชาวบ้าน และพวกเรานักศึกษาเองก็มีความรักใคร่กลมเกลียวและสามัคคีกันมากขึ้น ดังนั้น การร่วมกันทำกิจกรรมในครั้งนี้เป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก นอกจากจะช่วยให้นักศึกษาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในช่วงปิดเทอมแล้ว ยังสาารถเป็นประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะชนอีกด้วย ประธานรุ่น กล่าว นายสุรสิทธิ์ ชั้นวิเชียร (บอลลี่) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาภาษาไทย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า สิ่งแรกที่ได้จากกิจกรรมคือ คุณธรรมและจริยธรรม พวกเราต้องรู้หน้าที่ของตนเอง ตอนเช้าแต่ละคนจะมีหน้าที่ของตัวเอง เพราะพวกเราได้จัดแบ่งเวรของแต่ละกลุ่มแต่ละคนซึ่งทุกคนจะรู้หน้าที่ของตนและทำอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดความซื่อสัตย์ ขยันและรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม สิ่งนี้สามารถสอนตัวเราได้เป็นอย่างดี เจิงเฉิงเฉิง (ส้ม พัชราภา) นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาไทย คณะศิลปศาสตร์ โครงการแลกเปลี่ยน 2+2 จากประเทศจีน กล่าวว่า การได้มาทำกิจกรรมครั้งนี้ทำให้ตนได้มีโอกาสรู้จักเพื่อนคนไทยและเด็กคนไทย ซึ่งตนได้ฝึกพูดภาษาไทยทำให้ภาษาไทยของตนพัฒนามากขึ้น และยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของคนภาคใต้ด้วย ตนได้มีโอกาสพูดคุยและได้เรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน และยังได้สอนภาษาจีนแก่เด็กๆ และยังได้ตั้งชื่อภาษาจีนให้กับเด็กๆ บางคนที่อยากมีชื่อเป็นภาษาจีนด้วย นอกจากนี้ การได้สอนหนังสือแก่เด็กๆ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ซึ่งเด็กทุกคนขยันเรียนและน่ารักมาก เวลาได้เห็นเด็กๆ สนุกสนานเพลิดเพลินทำให้ตนรู้สึกดีใจและประทับใจมาก เพราะสิ่งที่เราสอนไป เมื่อเขาโตขึ้นก็จะมีโอกาสได้ใช้ต่อไป นายอาทิตย์ คำสัตย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาไทย คณะศิลปศาสตร์ กล่าวว่า การมาค่ายเป็นการละลายพฤติกรรมในเรื่องการมีระเบียบวินัย ซึ่งตนรู้สึกประทับใจกับการดำเนินชีวิตแบบพอเพียงของชาวบ้านทำให้ผมคิดได้ว่า พวกเรามีโอกาสมากกว่าพวกชาวบ้านในเรื่องการกิน การใช้จ่ายแต่กลับไม่รู้จักพอเพียง ชาวบ้านที่นี่ทั้งที่รายรับมีน้อยมากในแต่ละเดือน แต่พวกเขาก็ยังอยู่ได้อย่างพอเพียงและมีความสุข ตนจะนำข้อคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน
กิจกรรมครั้งหน้าก็จะมาร่วมอีกเพราะการทำกิจกรรมสอนให้เรามีเพื่อน มีความอดทน และเป็นคนมีระเบียบวินัย สุดท้ายนี้กับข้อคิดที่ผมได้กลับกรุงเทพครั้งนี้ก็คือ ขณะที่ผมเดินทางมาที่นี่พร้อมกระเป๋าซึ่งมีแต่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่วันที่เดินทางกลับในกระเป๋าของผมกลับมีมากกว่าเสื้อผ้า เพราะได้มิตรภาพจากเพื่อนๆ พี่ๆ และรอยยิ้มของเด็กๆ และชาวบ้านหมู่บ้านไม้เรียงกลับมาเต็มกระเป๋า