อาร์ตี้-ธนฉัตร มุ่งเรียนนิเทศฯ เปรยขอเป็นนักดนตรี มีคอนเสิร์ตใหญ่
ใครที่มีโอกาสได้ไปดูภาพยนตร์สุดฮาแบบอมตะ บุญชู 9 ไอ เลิฟ สระอู เป็นต้องคุ้นเคยกับหนุ่มน้อยเสียงเหน่อคนนี้ในบทบาทของ บุญโชค หลายคนบอกว่าเขาเล่นได้เนียนมาก ๆ เรามาทำความรู้จักเขาเลย อาร์ตี้-ธนฉัตร ตุลยฉัตร
เด็กหนุ่มจากจังหวัดขอนแก่น ที่มาโลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์ม แม้จะเพิ่งเล่นหนังเพียงเรื่องแรก และไม่มีประสบการณ์ในการแสดงมาก่อน ชั่วโมงนี้ต้องบอกว่าอาร์ตี้สอบผ่าน เพราะคนดูเชื่อว่าบุคลิกของเขาเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เรียกว่าโด่งดังจนเจ้าตัวบอกว่าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เข้ามาเป็นนักแสดง จากคนดูสู่ตัวละครบนแผ่นฟิล์ม ?เมื่อก่อนผมจะเป็นคนดูหนังครับ มาวันนี้เราได้ดูตัวเองเล่นหนังรู้สึกว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตผมเลย จากเมื่อก่อนผมเข้าโรงหนังดูคนอื่นเล่น วันนี้หน้าโรงหนังมีโปสเตอร์หนังที่ผมแสดง มันเป็นความรู้สึกภูมิใจ ตื่นเต้นครับ ไม่คิดว่าวันหนึ่งเราจะได้มาเล่นหนังและมีคนรู้จักเรา เรียกว่าเป็นความรู้สึกแบบตื้นตันครับ? ?หลังจากที่หนังฉายไปไม่กี่วัน มีคนจำผมได้ครับ และเข้ามาทักว่าผมเล่นหนังรื่องบุญชูหรือเปล่า ผมก็บอกว่าครับ และเขาชมผมว่าเล่นเหมือนเป็นคนซื่อจริง ๆ เลย ผมดีใจครับ ที่คนดูเห็นผมมีบุคลิกอย่างบุญโชคจริง ๆ การได้เข้ามาทำงานตรงนี้ ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องสนุกครับ จริง ๆ แล้วผมไม่มีพื้นฐานทางด้านการแสดงมาก่อนเลย แต่ว่าก่อนจะเปิดกล้องผู้กำกับให้ผมไปเรียนการแสดงมาก่อน ตรงนี้แหละครับทำให้ผมได้อินกับบทบุญโชคจริง ๆ (หัวเราะ)? ถือว่าเป็นโชคดีของอาร์ตี้ที่มีโอกาสได้เข้ามาโชว์ฝีมือทางด้านการแสดง แต่สิ่งหนึ่งที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นความสูญเสียของเขา นั่นคือการได้เป็นนักดนตรี เพราะก่อนหน้าที่อาร์ตี้จะได้เข้ามาเป็นนักแสดง อาร์ตี้และเพื่อนกำลังฟอร์มวงเพื่อเข้าประกวด Hotwave Music Awards ?ผมอยากเป็นนักดนตรี มีวงเป็นของตัวเอง อยากมีคอนเสิร์ตใหญ่ด้วยเหมือนพี่ ๆ วงบอดี้แสลม ตอนนั้นผมมีวงกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่โรงเรียน แต่ว่ารุ่นพี่เขาจบม.6 ออกไปก่อน และผมได้เข้ามาเป็นนักแสดง ปรากฏว่าที่แพลนเอาไว้ว่าจะเข้าประกวด Hotwave Music Awards เป็นอันต้องพับเก็บไป เสียดายเหมือนกันครับ เพราะเวทีนี้เปิดโอกาสให้นักเรียนมัธยมจริง ๆ? ?อย่างที่บอกครับว่า ลึก ๆ แล้วผมไม่เคยอยากเป็นนักแสดงนะครับ ผมอยากเป็นนักดนตรีมากกว่า แต่เมื่อได้เข้ามาทำงานตรงนี้แล้วผมต้องทำให้ดีที่สุด ผมเล่นดนตรีคือกีตาร์ เป็นเครื่องดนตรีที่ผมรักมากที่สุด เล่นมาประมาณ 4-5 ปีแล้วครับ ที่มาของการเล่นดนตรีของผม คือคุณแม่อยากให้เรียนดนตรี คุณแม่อยากให้ลูกเล่นดนตรีเป็น อะไรก็ได้ สักหนึ่งชิ้น ซึ่งตอนนั้นบอกตรง ๆ ว่าการเล่นดนตรีไม่มีอยู่ในความคิดของผมเลยนะครับ ในเมื่อคุณแม่ตั้งใจให้เรียนผมก็เรียน ตอนแรกเรียนคีย์บอร์ดแต่เล่นได้ประมาณ 3-4 เดือนครับ จากนั้นค่อยเปลี่ยนมาเรียนกลอง ไป ๆ มา ๆ เรียนกลองไม่ได้เพราะแยกระบบประสาทไม่ได้ (หัวเราะ) สุดท้ายจึงมาเรียนกีตาร์โปร่ง ประกอบกับช่วงนั้นเพื่อนเล่นกีตาร์เยอะด้วย ตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันนี้ ผมเล่นกีตาร์มาตลอดครับ? ?ผมไม่เคยถามคุณแม่นะครับว่าทำไมถึงต้องให้ผมไปเรียนดนตรี แต่คุณพ่อจะบอกว่าอยู่ว่าง ๆ ทำไม เสียดายเวลา เอาเวลาตรงนี้ไปทำประโยชน์เพื่อตัวเองดีกว่า เวลาไปสมัครงานเราจะได้มีโปรไฟล์ด้วย คือคุณพ่อคุณแม่เขามองการณ์ไกลครับ?
ภาพหล่อๆ ของอาร์ตี้-ธนฉัตร ตุลยฉัตร (คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่)
นั่นเป็นไลฟ์สไตล์เพียงบางส่วนของหนุ่มน้อยอาร์ตี้ คราวนี้มาดูหน้าที่หลักของเขากันบ้างดีกว่า ปัจจุบันอาร์ตี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นม.6 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน หลังจากที่เข้าวงการมาเป็นนักแสดงแล้ว เรื่องการเรียนนั้นประสบปัญหามากแค่ไหน และเขามีวิธีรับมืออย่างไร ?เรื่องแบ่งเวลาเรียนช่วงก่อนหน้านั้นอาจจะหนักหน่อยครับ เพราะผมเรียนอยู่ที่ขอนแก่น ต้องไป-มาแบบนี้อยู่ตลอด มีขาดเรียนบ้างครับเพราะระยะทางมันไกลด้วย ประกอบกับคิวถ่ายหนังเป็นวันธรรมดาครับ แต่ถ้าว่างจากกองถ่าย 3 วันผมจะกลับไปเรียนหนังสือ แต่ถ้าคิวผมเต็มสัปดาห์นั้นอาจต้องลาหยุดจากทางโรงเรียนครับ ช่วงที่ถ่ายหนังเรื่องบุญชู เวลาเรียนผมหายไปเกือบเทอมเลยครับ เรียกว่าหนึ่งเทอมผมไม่ได้ไปเรียนเลย (ยิ้ม) แต่ทางโรงเรียนทราบครับ เพราะผมมีจดหมายไปถึงโรงเรียน อาจารย์ทุกท่านให้ผมทำงานส่งทีหลัง ที่สำคัญเพื่อน ๆ ช่วยผมเยอะมาก ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ช่วยเหลือในเรื่องของการทำรายงานต่าง ๆ ครับ? ?มีคนถามผมเหมือนกันว่าทำไมไม่ย้ายโรงเรียนมาเรียนในกรุงเทพฯ ซะเลยจะได้ไม่ต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงขอนแก่น-กรุงเทพฯ จะได้สะดวกในการเดินทางไปโรงเรียนกับการทำงาน แต่ผมปฏิเสธครับ เพราะหนึ่งผมเรียนม.6 ปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้ว สอง เพื่อนผมอยู่ที่นั่นเยอะมาก เราแค่อดทนอีกเทอมเดียวเอง ที่สำคัญอยากเรียนจบพร้อมเพื่อน ๆ ด้วยครับ ถ้าจะมาเรียนในกรุงเทพฯ คิดว่าค่อยมาเรียนในระดับมหาวิทยาลัยดีกว่า? ?ช่วงวิกฤตการเรียนมีบ้างครับ แต่ผมจะไม่มานั่งเครียดมาก เพราะผมตัดสินใจแล้วที่จะเข้ามาทำงาน ในเมื่อเราได้รับโอกาสดี ๆ เหล่านี้ ผมอยากทำให้เต็มที่ครับ สนุกไปกับงานดีกว่า หลังจากนั้นเรากลับไปเรียนเหมือนเดิม ผมไม่ได้ทิ้งการเรียนนะครับ กลับไปสอบกลางภาคกับสอบปลายภาคไปเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง? เหลือเวลาอีก 1 เทอมเท่านั้นที่อาร์ตี้จะสลัดขาสั้นก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย อาร์ตี้วาดแผนอนาคตในการเรียนต่อให้รู้ว่า ?เรื่องการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย เวลาของผมอาจจะไม่ได้มากเท่าเพื่อน ๆ ครับ แต่มีเวลาว่างผมจะอ่านหนังสือเก็บไว้ คะแนนจะได้ออกมาดี ๆ ครับ ผมอยากเรียนคณะนิเทศศาสตร์ ที่เลือกเรียนทางด้านนี้เพราะผมชอบมาตั้งแต่ก่อนเข้ามาเล่นหนังอีก และพอได้เข้ามาสัมผัสจริง ผมรู้สึกว่านี่แหละสิ่งที่ผมชอบ ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดึงดูดผมให้อยากเรียน คณะศิลปกรรมผมก็อยากเรียนเหมือนกัน แต่อันดับหนึ่งของผมคือนิเทศศาสตร์? ถึงวันนี้อาร์ตี้ก้าวผ่านช่วงชีวิตของเด็กวัยเดียวกันมาอีกหนึ่งขั้น แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เด็กน้อยวิ่งซนไปวัน ๆ คนนี้มีความรับผิดชอบมากขึ้น อาร์ตี้ยืนยันว่าเป็นเพราะวงการบันเทิงหล่อหลอมให้เขากลายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ?มีคนรอบข้างผม เพื่อน ๆ ผมบอกเหมือนกันครับว่าอาร์ตี้เปลี่ยนไปนะในเรื่องของการพูดการจา การวางตัว จากเมื่อก่อนผมเป็นคนประเภทขี้เล่น สนุกสนาน แต่ผมรู้สึกว่าผมเหมือนเดิมนะครับ (หัวเราะ) แต่ในแง่ของการทำงาน ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนมีความรับผิดชอบมากขึ้น มีการวางแผนในการทำอะไรมากขึ้นครับ? อีกส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในการสร้างตัวตนและส่งเสริม รวมถึงให้กำลังใจแก่หนุ่มคนนี้ได้ก้าวเดินอย่างมั่นใจ นั่นคือครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ และน้องชาย ?คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงผมแบบเพื่อนเลยครับ สนิทกันหมดทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ หรือว่าน้องชายผม ทุกคนสามารถคุยกันได้หมด? ?ในเรื่องความเป็นห่วง คุณพ่อคุณแม่จะเป็นห่วงผมในเรื่องการวางตัวครับ เพราะว่าผมยังเด็กและไม่เคยทำงานกับผู้ใหญ่มาก่อน เขากลัวว่าผมจะทำได้หรือเปล่า อีกหนึ่งเรื่องที่พ่อแม่เป็นห่วงครับคือเรื่องเรียน กลัวว่าผมจะเดินทางไหวหรือเปล่าเพราะต้องขึ้น-ลงกรุงเทพฯ-ขอนแก่นบ่อยมาก ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่เตือนผมเป็นพิเศษ คือต้องตรงต่อเวลาและมีสัมมาคารวะครับ ตอนนี้เริ่มชินต้องค่อย ๆ ปรับตัวไปเรื่อย ๆ ครับ? ?วันไหนที่เหนื่อยแบบสุด ๆ ผมมีวิธีให้กำลังใจตัวเอง คือผมจะสนุกอยู่ทุกวัน ไม่ค่อยมีวันที่ผมเครียดหรอกครับ มีเหนื่อยคือช่วงตื่นนอนครับ ถ้าตื่นแล้วก็แล้วกัน กับอีกอย่างคืออยู่กรุงเทพฯ อยากกลับขอนแก่น อยู่ขอนแก่นไม่อยากกลับกรุงเทพฯ ที่อยากกลับขอนแก่นคือผมคิดถึงเพื่อน ๆ ครับ แต่อยู่ขอนแก่นอยากกลับมาทำงาน อยู่บ้านเฉย ๆ รู้สึกแปลก ๆ ครับ ชีวิตผมจะทำงานบ่อย ขึ้น-ลงขอนแก่นเป็นอย่างนี้ประจำ แต่พออยู่เฉย ๆ เลยรู้สึกงง ๆ (หัวเราะ)? สุดท้ายอาร์ตี้บอกว่าวันนี้ทำเขาทำงานและเรียนโดยถือคติประจำใจ ซื่อสัตย์สุจริต กตัญญูรู้คุณ นอกจากนี้ยังฝากมาถึงเพื่อน ๆ วัยเดียวกันให้ตั้งใจเรียนกันทุกคน เพราะการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินชีวิต สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับพ่อหนุ่มน้อยคนนี้ อาร์ตี้บอกว่าปลายปีกำลังจะเปิดกล้องเรื่องใหม่ บทบาทยังเป็นวัยรุ่นเหมือนเดิม...ติดตามกันได้นะจ๊ะ ที่มา "การศึกษาวันนี้" ผู้เขียน : oakky วิไลรัตน์ ต่ายประยูร ช่างภาพ : พี่ดอน ++ สาระ ความรู้ การเรียน การศึกษา แฟชั่นอินเทรนด์ คลิก!!! http://campus.sanook.com/อัลบั้มภาพ 8 ภาพ