ศิลปศาสตร์ ม.รังสิต ไอเดียบรรเจิด
จัดโครงการแลกเปลี่ยนจีน 2+2 และ 3+1
คณะศิลปศาสตร์ ม.รังสิต
ขอนำเสนอเรื่องราวของมหาวิทยาลัยรังสิตกันอีกสักครั้ง เพราะคิดว่าน่าจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กับผู้อ่านอย่างแน่นอน การศึกษาวันนี้ ทราบมาว่า มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับมหาวิทยาลัยครูกวางสี (Guangxi Normal University : GNU) และมหาวิทยาลัยภาษาปักกิ่ง (Beijing Language & Culture University : BLCU) ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาไทย-จีน 2+2 และ 3+1 ขึ้น แต่ว่ามันคืออะไรนั้น ตามเรามาหาคำตอบได้ในย่อหน้าถัดไป
อาจารย์วรรณษา นิธิวดีกุล รักษาการหัวหน้าสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า ในปีการศึกษา 2550 ที่ผ่านมา นักศึกษาภาควิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่กำลังจะเลื่อนขึ้นชั้นปีที่ 3 จะมีโอกาสได้เดินทางไปเรียนภาษาจีนในโครงการแลกเปลี่ยน 2+2 ณ มหาวิทยาลัยครูกวางสี หรือมหาวิทยาลัยภาษาปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นระยะเวลา 2 ปี และในทางกลับกันนักศึกษาจีนจำนวน 40 คน จากมหาวิทยาลัยครูกวางสี ที่เรียนวิชาภาษาไทยมาแล้ว 2 ปี ก็จะเดินทางมาเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิต ในหลักสูตรวิชาภาษาไทย ที่คณะศิลปศาสตร์ หรือคณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ ใน 2 ปีสุดท้ายเช่นกัน ทั้งนี้เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว นักศึกษาแลกเปลี่ยนจากไทยจะได้รับปริญญาตรีกับทางมหาวิทยาลัยที่ประเทศจีน ก่อนที่จะเทียบโอนกลับมารับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรังสิตอีกครั้งในภายหลัง จะเห็นได้ว่าโครงการแลกเปลี่ยน 2+2 นี้ นักศึกษาไทยจะได้รับปริญญาบัตรถึง 2 ใบด้วยกัน ส่วนนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากจีนจะได้รับปริญญาบัตรกับทางมหาวิทยาลัยรังสิตเท่านั้น
นอกจากนี้ ทางภาควิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ยังมีทางเลือกเพิ่มเติมให้แก่นักศึกษาอีกช่องทางหนึ่งก็คือ หลักสูตร 3+1 โดยในปีการศึกษา 2549 ที่ผ่านมา นักศึกษาภาควิชาภาษาจีนที่เรียนจบชั้นปีที่ 3 แล้ว สามารถเลือกเรียนต่อในหลักสูตรภาษาจีนปีสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยครูกวางสี (GNU) หรือมหาวิทยาลัยภาษาปักกิ่ง (BLCU) ได้เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยนักศึกษาทุนของมหาวิทยาลัยรังสิตจะได้รับผลประโยชน์โดยตรง เนื่องจากนักศึกษาจะได้รับทุนต่อเนื่องจากมหาวิทยาลัยต่อไป การไปเรียนที่ประเทศจีนนั้นทางมหาวิทยาลัยรังสิตจะนึกถึงความปลอดภัยของนักศึกษาเป็นสำคัญ ดังนนนักศึกษาทุกคนจะพักอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัยเท่านั้น และหลังจากที่จบการศึกษาแล้วนักศึกษาสามารถเทียบโอนหน่วยกิตกลับมารับปริญญาที่มหาวิทยาลัยรังสิตได้อีกด้วย ภาษาจีนถือเป็นภาษาที่มีความสำคัญและมีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษา โครงการแลกเปลี่ยน 2+2 และ 3+1 ของสาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้ทำอนุสัญญาร่วมกับมหาวิทยาลัยครูกวางสีและมหาวิทยาลัยภาษาปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาของทั้ง 3 มหาวิทยาลัยได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมจากเจ้าของภาษาอย่างแท้จริง โดยในปีการศึกษา 2550 จะมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรังสิตกว่า 20 คน เดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศจีนในวันที่ 1 มีนาคม 2551 นี้
นางสาวจินตหรา วงศ์มโนพณิช นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาจีน คณะศิลปศาสตร์ ผู้เข้าร่วมโครงการ 2+2 ที่มหาวิทยาลัยภาษาปักกิ่ง เปิดใจว่า ตนทราบข่าวโครงการนี้ตอนเข้ามาเรียนปี 1 แรก ๆ ก็ยังไม่รู้สึกสนใจเท่าไหร่ แต่พอเริ่มเรียนไปเรื่อย ๆ ผลการเรียนของตนอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งตรงกับคุณสมบัติของโครงการพอดี ประกอบกับตนชอบภาษาจีนอยู่แล้ว และมีแรงบันดาลใจจาก เจ้าเว่ย นักแสดงจีนที่ชื่นชอบ จึงทำให้ตนตัดสินเข้าร่วมโครงการ 2+2 ในเวลาไม่นานนัก สาเหตุหลักอีกอย่างหนึ่งก็คือ อยากจะพัฒนาทักษะภาษาจีนของตนให้ดีขึ้น และต้องการได้รับประสบการณ์ตรงจากเจ้าของภาษาอย่างแท้จริง การได้ไปใช้ชีวิตในต่างประเทศสอนให้เรามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และคิดว่าจะนำความรู้มาพัฒนาและต่อยอดในอาชีพการงานด้านนักเขียนที่ฝันไว้ในอนาคต ด้านนางสาวบุตรี จึงเจริญ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ผู้เข้าร่วมโครงการ 2+2 ที่มหาวิทยาลัยครูกวางสี กล่าวถึงสาเหตุที่เข้าร่วมโครงการว่า ตนชอบภาษาจีนและได้เรียนมาตั้งแต่ชั้นมัธยมแล้ว เมื่อเริ่มเข้ามาเรียนภาษาจีนที่มหาวิทยาลัยรังสิตในชั้นปี 1 ก็ได้รู้จักกับโครงการนี้ ตอนแรกยังไม่สนใจเท่าไหร่ เนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นเรียน แต่เรียนไปเรียนมาด้วยความที่ชอบจึงทำให้ผลการเรียนออกมาดี และได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ 2+2 ในครั้งนี้ สำหรับการเตรียมตัวนั้น ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์และรุ่นพี่ว่าต้องพยายามฝึกฟัง พูด และท่องศัพท์เยอะ ๆ ซึ่งตอนนี้ตนพร้อมแล้วสำหรับการเดินทางในวันที่ 1 มีนาคม ที่จะถึงนี้ ท้ายที่สุดนี้ตนจะเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะก้าวสู่โลกของการทำงานจริงต่อไปในอนาคต
มากันที่นักศึกษาจีนกันบ้างดีกว่า Miss Zeng Qiu (ชื่อไทย จริยา ชื่อเล่น จอย) เปิดเผยว่า ตนเรียนภาษาไทยที่มหาวิทยาลัยรังสิตเป็นเวลากว่า 8 เดือนแล้ว เรียนที่นี่สบายมาก อาจารย์ทุกคนใจดี คอยดูแลนักศึกษาเป็นอย่างดี เพื่อน ๆ คนไทยก็ใจดีเหมือนกัน มหาวิทยาลัยรังสิตเป็นมหาวิทยาลัยที่ดี มีสิ่งแวดล้อมดีมาก ตึกเรียนก็สวยมาก อุปกรณ์การเรียนการสอนก็ดี ก่อนมาถึงประเทศไทยได้ยินมาว่าทะเลไทยสวยมาก ซึ่งก็สวยจริง ๆ ตนรู้สึกยินดีมากที่ได้มีโอกาสมาเรียนที่ประเทศไทยในครั้งนี้ ด้าน Miss Zeng Chengcheng (ชื่อไทย พัชราภา ชื่อเล่น ส้ม) นักศึกษาแลกเปลี่ยนชาวจีน โครงการ 2+2 จากมหาวิทยาลัยครูกวางสี กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มาเรียนที่ประเทศไทยว่า ที่นี่เหมือนครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่ง ทุกคนมีความรักและมีความสุขมาก ตนรู้สึกประทับใจมากด้วย ที่มหาวิทยาลัยทุกคนเหมือนพี่น้องกัน รักและช่วยเหลือกัน อาจารย์ทุกท่านก็รักและเอาใจใส่นักศึกษาดีมาก ทำให้พวกเรารู้สึกอบอุ่นเมื่อได้มาเรียนที่นี่ ที่สำคัญยังได้รู้จักเพื่อนใหม่และได้เพิ่มเติมประสบการณ์ในชีวิตด้วย นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทยมากขึ้นด้วย
นับเป็นโครงการที่ผนึกกำลังทางวิชาการ เพื่อสร้างบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง และพร้อมที่จะก้าวออกไปสู่โลกแห่งการทำงานจริงต่อไปในอนาคต