เรียนต่อฝรั่งเศส ได้ความรู้ ควบภาษาและวัฒนธรรม
สำหรับคอลัมน์ Alumni ฉบับนี้ จะพาไปรู้จักกับศิษย์เก่าคนเก่งจากประเทศฝรั่งเศสท่านหนึ่ง คือ ?ดร.วลัยภรณ์ นาคพันธุ์? ผู้อำนวยการหลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต และหัวหน้าฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่จะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ที่น่าสนใจ เมื่อคราวไปใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาระดับปริญญาโท-เอก อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส
อาจารย์จบปริญญาตรีจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำหรับการเรียนในระดับปริญญาตรีนั้น เนื้อหาวิชาค่อนข้างกว้างมาก ทำให้สามารถเลือกเรียนต่อปริญญาโทได้หลากหลายมากขึ้น ตอนนั้นอาจารย์ยังเลือกไม่ถูกว่าจะเรียนต่อทางด้านไหนดี แต่ที่ชอบเป็นพิเศษคือด้านคอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบ ดังนั้นอาจารย์จึงตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโททางด้านคอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบนั่นเอง
หลังจากที่เรียนจบมา อาจารย์ทำงานอยู่ที่กรมโยธาฯ 1 ปี ซึ่งในระหว่างนั้นก็เตรียมตัวเพื่อจะไปเรียนต่อต่างประเทศด้วย ด้วยความที่เป็นคนชอบด้านภาษาอยู่แล้ว ก็เลยอยากที่จะเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ บ้าง เนื่องจากภาษาอังกฤษของอาจารย์ค่อนข้างดีอยู่แล้ว เพราะเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไปเรียนที่ประเทศออสเตรเลีย 1 ปี สมัยที่เรียนอยู่ชั้นมัธยม ซึ่งในระหว่างที่เตรียมตัวอยู่นั้นอาจารย์ได้มีโอกาสพูดคุยกับรุ่นพี่ที่รู้จัก เขาแนะนำว่าประเทศฝรั่งเศสเป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าสนใจ พอดีกับอาจารย์มีรุ่นพี่และอาจารย์ที่เรียนจบมาจากประเทศฝรั่งเศสด้วย เลยเข้าไปขอคำแนะนำกับเขาว่าการเรียนที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นอย่างไรบ้าง รวมถึงการไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสด้วย
หลังจากที่ได้ข้อมูลมากพอแล้ว อาจารย์ตัดสินใจว่าจะเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศสอย่างแน่นอน ทีนี้ก็เริ่มมาฟิตภาษาฝรั่งเศสอย่างจริงจัง โดยไปเรียนที่สถาบันสอนภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทย จนสอบได้ใบประกาศนียบัตรเรียบร้อย หลังจากนั้นก็บินไปที่ประเทศฝรั่งเศสเลย ผ่านการดูแลของศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศแห่งหนึ่ง เนื่องจากเราไม่มีญาติหรือเพื่อนอยู่ที่นั่น การที่ได้ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อมาช่วยดูแลให้ช่วยให้เราอุ่นใจมากขึ้น แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เราต้องเตรียมตัวของเราไปด้วยส่วนหนึ่ง เพราะเราจะรู้ใจเราเองที่สุดว่าต้องการอะไร
การจะไปสมัครเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศสค่อนข้างแตกต่างจากประเทศอื่นมาก อย่างที่สหรัฐอเมริกา ถ้าเราสนใจจะไปเรียนต่อต้องส่งจดหมายไปตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ แล้วรอให้มหาวิทยาลัยนั้น ๆ ตอบรับกลับมาเราถึงจะสามารถไปเรียนได้ แต่ถ้าเป็นที่ประเทศฝรั่งเศส เราจะต้องไปอยู่ที่นั่นก่อนเลย เพื่อเตรียมความพร้อมด้านภาษา ถ้าสนใจไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยไหนต้องเข้าไปพูดคุยกับเขาเลยว่าสนใจอยากจะมาเรียนที่นี่ ถ้าเขาสัมภาษณ์เราแล้วทุกอย่างลงตัวก็สามารถเข้าเรียนได้เลย แต่ถ้าส่งจดหมายไปก่อนอาจจะไม่ได้รับการพิจารณาก็เป็นได้
ตอนไปอยู่ที่ฝรั่งเศสอาจารย์ต้องลงเรียนภาษาฝรั่งเศสอีก 8 เดือน ตอนแรกที่เรียนภาษาฝรั่งเศสจากประเทศไทยคิดว่าภาษาเราโอ.เค.แล้ว แต่พอไปถึงที่นั่นพูดไม่ได้เลย ต้องปรับตัวกันพอสมควร การเรียนภาษาไปจากเมืองไทยเป็นแค่พื้นฐานเท่านั้น แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่นั่นทำให้ต้องปรับตัวเรื่องของภาษาขึ้นมาอีกระดับ เพราะเราจะต้องใช้ภาษาฝรั่งเศสในการอ่านตำราและเขียนรายงานส่งอาจารย์ในระหว่างที่เรียนอยู่ที่นั่น
การเลือกมหาวิทยาลัยในประเทศฝรั่งเศสต้องค้นหาข้อมูลให้ดี เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีความโดดเด่นกันไปคนละด้าน ซึ่งด้านคอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบ มีที่น่าสนใจอยู่ 2 มหาวิทยาลัย ซึ่งอาจารย์เลือกเรียนต่อปริญญาโทที่ Universite Henri-Poincare (Nancy1), France และเรียนต่อปริญญาเอกที่ Institut Nationale Polytechnique de Lorraine (INPL.), Nancy, France
โดยในระหว่างที่เรียนปริญญาโทอยู่นั้น อาจารย์ก็มองหาทุนในระดับปริญญาเอกไปด้วย เพราะช่วงนั้นเศรษฐกิจบ้านเราเกิดภาวะฟองสบู่แตกพอดี ก็เลยอยากที่จะแบ่งเบาภาระของทางบ้านด้วย ในที่สุดอาจารย์ได้รับทุนการศึกษาในระดับปริญญาเอก หรือที่รู้จักกันดีในชื่อทุน ?Eiffel? ต้องบอกว่าที่ประเทศฝรั่งเศสมีทุนให้นักศึกษาเยอะมาก ต้องพยายามหาข้อมูลดี ๆ ค่าเล่าเรียนที่ประเทศฝรั่งเศสค่อนข้างถูกกว่าประเทศอื่นมาก ที่นั่นจะจ่ายค่าเล่าเรียนเป็นปี ซึ่งปีละไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้น ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา หรือออสเตรเลีย ค่าเล่าเรียนต่อปีอยู่ที่หลายแสนบาททีเดียว
เพราะที่ฝรั่งเศสไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาของเขาหรือว่านักศึกษาต่างชาติ สวัสดิการและสิทธิต่าง ๆ จะเท่าเทียมกันหมด เสมือนว่าเราเป็นพลเมืองคนหนึ่งของเขาเช่นกัน เบ็ดเสร็จแล้วอาจารย์เรียนอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลา 6 ปีกว่า ๆ เรียนภาษา 8 เดือน เรียนปริญญาโท 1 ปี และเรียนปริญญาเอก 4.5 ปี ที่ ซึ่งการเรียนที่ประเทศฝรั่งเศสค่อนข้างเหมือนกับของไทยมาก คือนักศึกษาค่อนข้างที่จะสุภาพ เรียบร้อย แตกต่างจากนักศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียมาก ที่ค่อนข้างกล้าแสดงออกมากกว่า
คนฝรั่งเศสเป็นคนที่รู้จักใช้ชีวิต อย่างการทานอาหารกลางวันของพวกเขา ใช้เวลาในการทาน 2 ชั่วโมง หลังจากทานข้าวเสร็จต้องไปดื่มกาแฟกันต่อ พูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ ทั่วไป แต่ถ้าเป็นเวลางานพวกเขาจะทุ่มเทและทำงานอย่างเต็มที่ จะเสร็จดึกดื่นแค่ไหนก็จะต้องทำให้เสร็จ ส่วนในช่วงวันหยุด ชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่มักใช้เวลาท่องเที่ยวดื่มด่ำศิลปะและสถาปัตยกรรมที่สวยงามตามสถานที่ต่าง ๆ บางทีอาจจะเดินทางท่องเที่ยวไปในประเทศใกล้เคียง เพราะระบบการคมนาคมของเขาดีมาก สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย
สำหรับเทคนิคในการเรียนให้ประสบความสำเร็จ สิ่งแรกเลยคือ ต้องสื่อสารภาษาฝรั่งเศสได้ดีในทุกทักษะ ไม่ว่าจะเป็นฟัง พูด อ่าน เขียน ต้องขยันขวนขวายและทุ่มเทให้กับการเรียนมาก ๆ ถ้าไม่เข้าใจอะไรให้รีบปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาทันที พยายามพบอาจารย์ที่ปรึกษาบ่อย ๆ ตรงนี้สำคัญมาก เพราะอาจารย์เขาจะช่วยเราได้มากทีเดียว
การไปเรียนที่ประเทศฝรั่งเศสนอกจากจะได้รับความรู้แล้ว สิ่งที่จะได้รับกลับมาด้วยคือเรื่องของภาษาและวัฒนธรรม สุดท้ายนี้อยากจะฝากถึงน้อง ๆ รุ่นหลังที่สนใจจะไปเรียนที่ประเทศฝรั่งเศสบ้างว่า อยากให้ตั้งใจเรียนจริง ๆ ไม่ว่าจะพบเจอกับปัญหาอะไรให้คิดไว้อย่างเดียวว่าต้องเรียนให้จบ รู้จักรับผิดชอบตัวเอง อดทน พยายามคิดแง่บวกไว้เสมอว่าเราทำได้ แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ที่สำคัญต้องรู้จักวางแผนการใช้ชีวิตให้ดี ถ้าทำได้ตามที่กล่าวมานี้รับรองว่าประสบความสำเร็จในการเรียนอย่างแน่นอน
ที่มา " เรียนรอบโลก "
ผู้เขียน : ปิยะนุช zorau123@hotmail.com ช่างภาพ
- เรื่องน่าสนใจ
รวมภาพ! ดาราสวย- หล่อ ในชุดรับปริญญา อยากรู้คลิกเลย!!!
ศิลปิน ดารา นักร้อง เวลาเขาสวมชุดครุย
น่าตาจะเป็นยังไงหนอ?
40 สาวดาวโรงเรียน อยากรู้น่ารักแค่ไหนคลิก!! จัดมาให้ดูกันเต็มๆ น่ารักทุกคนเลย สำหรับทั้ง 40 สาว
40 สาวดาวโรงเรียน อยากรู้น่ารักแค่ไหนคลิก!! จัดมาให้ดูกันเต็มๆ น่ารักทุกคนเลย สำหรับทั้ง 40 สาว