แนนนี่ Girly Berry ย่ำแดนจิงโจ้ ปูพื้นฐานด้านภาษาให้แน่นปึก

ที่มา " เรียนรอบโลก " ผู้เขียน : oakky วิไลรัตน์ ต่ายประยูร ช่างภาพ : นายหรั่ง 4 สาว Girly Berry เราเห็นแต่ภาพของเธอกับการเป็นนักร้องสดใส ซาบซ่า เซ็กซี่ ล่าสุดกับอัลบั้มเต้นพิเศษชุดที่ 4 Stop Me Babe ออกมาเขย่าหัวใจขาแดนซ์กันแล้ว นั่นเป็นบทบาทที่ทั้ง 4 สาวบอกว่าเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบ แต่ในอีกมุมหนึ่งเชื่อว่าน้อยคนที่จะได้เห็น นั่นคือภาพการนักศึกษา วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับหนึ่งในสมาชิกของวงนี้ ภัทรนันท์ ดีรัศมี หรือที่เรารู้จักเธอดีในนามของ แนนนี่ Girly Berry ขอบอกว่าภาพที่เห็นกับตัวตนที่เป็นนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มาทำความรู้จักแนนนี่ให้มากกว่าที่เห็นในหน้าจอทีวี.กันดีกว่า ในเรื่องการเรียนนั้นเด็กหญิงแนนนี่เริ่มต้นเรียนที่โรงเรียน 2 ภาษา (Bilinguals) พอจบป.6 ก็ย้ายตัวเองมาเรียนต่อในโรงเรียนนานาชาติ เรียกว่าตั้งแต่เด็กเลยที่แนนนี่คุ้นชินกับภาษาอังกฤษ ทำให้ทักษะการพูด ฟัง อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์ดี ?ตั้งแต่เด็กแนนนี่เรียนโรงเรียนสองภาษา แต่มาเรียนระดับมัธยม เป็นโรงเรียนอินเตอร์เนชั่นแนล พอมาเรียนระดับมหาวิทยาลัยมาเลือกเรียนเป็นภาษาอังกฤษอีก ภาษาอังกฤษสำหรับบางคนอาจจะกลัวแต่ความจริงแนนนี่อยากจะบอกว่าถ้าเรียนไปแล้วง่ายมากค่ะ ง่ายกว่าภาษาไทยอีก ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย? แต่ก่อนที่แนนนี่จะก้าวไปเรียนในโรงเรียนนานาชาติอย่างเต็มตัว เธอเตรียมพร้อมด้วยการบินไปซัมเมอร์คอร์สฝึก Speak English ให้แน่นมากขึ้นกว่าเดิมที่ประเทศออสเตรเลีย ?แนนนี่ไปซัมเมอร์คอร์สที่ประเทศออสเตรเลียตอนเรียนอยู่ป.6 ไปอยู่ได้ประมาณ 3 เดือนค่ะ อยู่กับแฟมิลี่ ตอนที่ไปนั้นช่วงอายุ 11-12 ขวบ ภาษาอังกฤษของแนนนี่ยังไม่แข็งแรงเลยค่ะ สื่อสารได้ แต่ถ้าเขาพูดมาเร็วมาก ๆ จะฟังไม่รู้เรื่อง บรรยากาศวันแรกที่ไปซิดนีย์ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการไปที่ไม่ใช่ไปเที่ยวและไม่ได้ไปกับครอบครัว แต่เราไปคนเดียว ไปกับเพื่อน ๆ ที่สำคัญไปอยู่กับคนแปลกหน้าที่เขาพูดจาคนละภาษากับเราด้วย ถามว่ากลัวไหม บอกตามตรงนะคะว่าไม่กลัวเท่าไหร่ แต่ตื่นเต้นมากกว่า เพราะไม่รู้ว่าเขาจะโอ.เค.กับเราหรือเปล่า แนนนี่โชคดีที่ได้รับความอบอุ่นจากแฟมิลี่ที่ไปอยู่ด้วย เขาต้อนรับเราอย่างเต็มที่ ถือว่าประทับใจมากค่ะ? รวมภาพน่ารักๆ ของ แนนนี่บอกว่านั่นเป็นครั้งแรกในการออกไปเรียนรู้โลกกว้างต่างบ้าน ต่างภาษา จึงมีเหตุการณ์ที่สาวคนนี้ประทับใจกลับมาเมืองไทยแบบไม่ลืม ?ความประทับใจของแนนนี่ในประเทศออสเตรเลียมีเยอะมากมายค่ะ แต่ที่ประทับใจสุด ๆ คงจะเป็นคนออสซี่ค่ะ ประทับใจตรงที่เขามีน้ำใจทุกคนพอ ๆ กับคนไทยเลยค่ะ พอเราได้ไปสัมผัสแล้ว รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ที่ประทับใจอีกอย่างคือแฟมิลี่ที่แนนนี่ไปอยู่ด้วย ท่านน่ารักมากค่ะ เป็นคุณตากับคุณยายอยู่กันสองคน คุณยายท่านเก่งมากค่ะ เขาถักผ้านวมใช้กันเองภายในบ้าน ส่วนคุณตาเขาสร้าง...เองด้วย รู้สึกอบอุ่นค่ะ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปเที่ยวอีก ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ท่านสบายดีหรือเปล่า?

รวมภาพ!! น่ารักๆ ของแนนนี่ Girly Berry

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

นอกจากจะได้ภาษาอังกฤษกลับมาแล้ว สิ่งหนึ่งที่ได้แนนนี่ได้กลับมาเป็นผลพวงต่อเนื่องนั่นคือ การเรียนรู้วัฒนธรรมของคนออสซี่ และการบริหารจัดการตนเอง ?สิ่งแรกที่ได้กลับมาแน่ ๆ คือภาษาอังกฤษ ตามมาด้วยได้เรียนรู้วัฒนธรรมของคนออสซี่แบบจริง ๆ ว่าบุคลิกลักษณะเขาเป็นอย่างไร ที่สำคัญเราได้เรื่องการใช้ชีวิตอยู่คนเดียวต่างประเทศ ต้องช่วยเหลือตัวเองว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ทางแฟมิลี่เขาดูแลเราเรื่องที่พักและไปรับ-ส่งที่โรงเรียน ตอนนั้นยังเด็กด้วย และเด็กคนหนึ่งได้เงินมาก้อนหนึ่ง ซึ่งเงินก้อนนี้เราต้องบริหารจัดการให้ได้ระหว่างที่เราไปอยู่ ว่าต้องใช้อะไร ต้องไม่ฟุ่มเฟือย เรื่องไปเรียนเขาไม่ได้บังคับนะคะว่าเราต้องไปเรียนทุกวัน แต่แนนนี่คิดว่าในเมื่อเรามีโอกาสมาแล้วควรจะใช้โอกาสที่มีให้คุ้มค่า พยายามเข้าหาเพื่อน ๆ หลากหลายชาติ เพื่อนคนไทยของแนนนี่มีไปเรียนด้วยเหมือนกัน แต่แนนนี่ว่าเราพยายามฝึกพูดกับเพื่อนต่างชาติบ้างจะเป็นประโยชน์แก่ตัวคุณเอง? ซิดนีย์ ออสเตรเลีย เมืองน่าอยู่ อากาศดี เหมาะแก่การไปเรียน ?แนนนี่ไปอยู่เมืองซิดนีย์ค่ะ จริง ๆ แล้วแนนนี่ไม่ได้ตั้งใจจะไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียเลย พอไปแล้วชอบบรรยากาศของเมืองซิดนีย์ ตอนแรกเข้าใจว่าออสเตรเลียต้องเป็นประเทศที่หนาวมากแน่นอน แต่พอไปแล้วไม่ใช่เลยค่ะ วันหนึ่งมี 4 ฤดูเลยด้วยซ้ำ เช้าอากาศหนาวมาก ต้องใส่เสื้อ 2-3 ชั้น พอตอนสาย ๆ ฝนตก หรือบางทีตอนบ่ายร้อนมาก เป็นอย่างนี้ตลอดค่ะ อยู่ไปสักพักเริ่มชิน เริ่มชอบค่ะ อากาศเมืองเขาบริสุทธิ์มาก แนนนี่ว่าออสเตรเลียเกือบทุกเมืองน่าอยู่หมด และเหมาะกับการมาเรียนด้วยค่ะ? ปัจจุบันภาษาอังกฤษมีความจำเป็นต่อการติดต่อสื่อสาร แนนนี่บอกว่าไม่ใช่ภาษาอังกฤษเท่านั้นที่ควรจะรู้ ภาษาที่ 3 ที่ 4 ถ้าเราสามารถจะเรียนรู้เพิ่มเติมได้ถือเป็นประโยชน์แก่ตนเอง ?ภาษาอังกฤษของแนนนี่ไม่ได้ดีมากหรอกค่ะ แต่ทักษะการพูด ฟัง อ่าน เขียนของแนนนี่ค่อนข้างพอใช้ได้ สามารถติดต่อสื่อสารได้ปรกติ ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กในปัจจุบัน แนนนี่คิดว่าเป็นภาษาที่สองรองจากภาษาแม่เลยนะคะ สำคัญมาก เพราะสื่อทุกสื่อมีภาษาอังกฤษ โลกเราเปิดกว้างมาก คนสมัยนี้แนนนี่คิดว่าไม่ได้แปลกแล้วถ้าใครจะพูดภาษาอังกฤษได้ กลับกันต้องเป็นภาษาที่ 3 ที่ 4 หรือที่ 5 ต่างหาก เราถึงจะมีคุณสมบัติพิเศษกว่าคนอื่นเขา? ?แนนนี่ตั้งใจไว้ว่าอยากจะพูดได้ถึง 5 ภาษาเลยค่ะ เพิ่มขึ้นมาจากไทย อังกฤษ จะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี ช่วงที่ผ่านมาแนนนี่มีโอกาสได้เรียนภาษาญี่ปุ่นบ้างเหมือนกัน มีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นด้วย เมื่อก่อนจะฟังรู้เรื่องว่าเขาพูดว่าอะไร แต่ไม่ค่อยได้ใช้ทำได้ลืมไปบ้างค่ะ ถ้ามีเวลาจะพยายามกลับมานั่งทบทวนใหม่ ภาษาเกาหลีแนนนี่เคยไปเรียนด้วย รู้สึกชอบค่ะ คล้าย ๆ ภาษาไทยและภาษาญี่ปุ่น แนนนี่ตั้งเป้าหมายว่าภายในปลายปีหน้าจะต้องพูดทั้งสองภาษานี้ให้ได้ อีกภาษาหนึ่งที่แนนนี่อยากจะเรียนคือ ภาษาอิตาเลี่ยน แต่สำเนียงการพูดไม่ไปค่ะ สำเนียงแย่มาก (หัวเราะ)?

ภาษาอังกฤษไม่ยาก ต้องกล้า และฝึกพูดบ่อย ๆ ?แนนนี่อยากให้ทุกคนกล้าพูดไม่ว่าจะเป็นถูกจะผิดขอให้พูดไปค่ะ พูดผิดไม่ใช่เรื่องน่าอายเพราะไม่ใช่ภาษาที่เราใช้มาตั้งแต่เกิด การที่เราจะเรียนภาษาใดภาษาหนึ่งให้ได้ผลหนึ่ง เราต้องพยายามพูดออกไป สังเกตว่าไม่มีชาวต่างชาติคนไหนมานั่งหัวเราะเราเมื่อเราพูดผิดหรอก มีแต่จะพยายามช่วยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นแนนนี่อยากให้ทุกคนมีความกล้า เพราะเป็นประโยชน์จริง ๆ ในอนาคตข้างหน้าจะเห็นผลเลยค่ะ? อย่างที่บอกว่าสาวแนนนี่นักร้องหน้าใสคนนี้ตั้งแต่เริ่มต้นเรียนหนังสือเธอมีโอกาสได้เรียนเป็นระบบอินเตอร์ทั้งหมด แม้กระทั่งเรียนต่อระดับปริญญาตรี ปัจจุบันแนนนี่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 Business English, Bangkok University International ?ที่เลือกเรียนทางด้านบริหาร จริง ๆ แล้วแนนนี่ไม่ได้ตั้งใจจะเรียนทางด้านนี้ แนนนี่ชอบทางด้านศิลปะ ชอบแฟชั่นดีไซน์ แต่ด้วยความที่แนนนี่เลือกมาทางด้านนี้ สิ่งที่เลือกได้คือเลือกมหาวิทยาลัยที่เปิดกว้างมากที่สุด และวิชาที่เรียนแล้วไม่ยากจนเกินไป ไม่ต้องมีภาคปฏิบัติเยอะ ตอนแรกอยากเรียนนิเทศศาสตร์เหมือนกัน แต่ไป ๆ มา ๆ นิเทศกิจกรรมเยอะมาก ถ้าไม่ไปร่วมคงไม่ได้ แต่เรียนไปเรื่อย ๆ ค่อนข้างชอบนะคะ เรายิ่งโตขึ้นเรื่อย ๆ มีโอกาสได้เจอคนเยอะ ทำให้เรามีมุมมองที่กว้างมากขึ้นในเรื่องของการทำธุรกิจ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากในอนาคต อีกอย่างเราคงไม่ได้อยู่ทำตรงนี้ไปได้ตลอด ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยเรามีพื้นฐานทางด้านธุรกิจก็ดีเหมือนกันค่ะ? ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ แนนนี่บอกว่าสำหรับใครที่มีโอกาสไปเรียนต่อแล้วขอให้ตั้งใจเรียนจริง ๆ เพื่ออนาคตที่ดี ?สำหรับคนที่อยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นโอกาสที่ดีมาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ไป ในเมื่อคุณมีโอกาสแล้วเก็บโอกาสและเก็บประสบการณ์จากตรงนั้นมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด ไม่ว่าเราจะไปประเทศไหน หรือภาษาไหนก็ตาม อยากให้ใช้ให้มากที่สุด ไปเรียนก็ตั้งใจเรียนให้เต็มที่ เรื่องเที่ยวเราเที่ยวเมื่อเรียนจบก็ยังทัน และพอเราจบมาแนนนี่เชื่อว่าอนาคตเราจะสดใสกว่าเดิมแน่นอนค่ะ ถ้าเกิดเราได้อะไรจากการเรียน? ?ไปเรียนต่างประเทศ เราต้องมีวินัยเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีผู้ใหญ่ดูแล เรามีความเป็นอิสระสูงมาก ถ้าเราไม่มีจุดมุ่งหมายและไม่มีวินัยในตัวเอง จบเลยนะคะ บางคนไปแล้วเสียคน เรียนไม่จบมีให้เห็นเยอะค่ะ สาเหตุนี้ผู้ใหญ่จึงไม่ค่อยส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ อย่างคุณแม่แนนนี่ท่านยังเป็นห่วงไม่ให้แนนนี่ไปเรียนต่างประเทศ เมื่อก่อนแนนนี่พยายามมาก ชอบภาษาญี่ปุ่นเลยจะสอบชิงทุนไปเรียนที่ญี่ปุ่น คุณแม่ไม่ให้ไปสอบ แต่ถ้าไปเรียนเป็นคอร์สสั้น ๆ คุณแม่อนุญาตค่ะ คือแนนนี่เป็นลูกคนเดียว คุณแม่เลี้ยงแบบอยู่ในสายตาตลอด แต่ตอนนี้แนนนี่โตแล้ว เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คุณแม่ท่านไม่ว่าอะไรแล้วค่ะ? อนาคตวางแผนเรียนต่อปริญญาโท ที่ประเทศอังกฤษ ?แนนนี่ตั้งใจว่าจะเรียนต่อปริญญาโทค่ะ ตอนนี้เรียนทางด้านบริหารธุรกิจ คิดว่าถ้าเรียนปริญญาโทคงต่อทางด้านนี้เหมือนเดิมเพื่อให้วิชาความรู้แน่นยิ่งขึ้น แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเรียนทางด้านสาขาไหน ถ้ามีโอกาสอยากไปเรียนต่อที่อังกฤษ เพราะใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น แนนนี่อยากเปลี่ยนบรรยากาศด้วย อยู่ที่นี่ได้เห็นอะไรเดิม ๆ ลองเปลี่ยนสังคมใหม่ ๆ เพื่อที่เราจะได้มุมมองที่กว้างมากขึ้น? ไม่ใช่มีดีที่ท่าเต้นอย่างเดียว สาวแนนนี่แห่ง Girly Berry เธอสวยใส มีสมองแถมเก่งภาษาอีกต่าง ตัดสินกันเพียงแค่ภาพลักษณ์ภายนอกไม่ได้เลยนะจ๊ะ.... ++ สาระ ความรู้ การเรียน การศึกษา แฟชั่นอินเทรนด์ คลิก!!! http://campus.sanook.com/