โบ-ธนากร ในมหานครลอนดอน ไฮไลท์ชีวิตที่น่าประทับใจ
ใครที่เป็นแฟนประจำคลื่น 94.0 EFM ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 20.00?21.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.00- 24.00 น. เราจะได้ยินเสียงของผู้ชายคนนี้นั่งจ้ออยู่หลังไมค์ และในรายการไฟว์ไลฟ์ที่ออนแอร์ทางช่อง 5 วันธรรมดา เขาก็เป็นหนึ่งในพิธีกรร่วมก๊วนเพื่อน ๆ ?โบ-ธนากร ชินกูล?
ล่าสุดกับผลงานละครซิทคอมเรื่องแรกในชีวิต ?เนื้อคู่ประตูถัดไป? โบบอกว่า เขาตั้งใจทำงานเต็มที่และฝากให้ติดตามด้วย กำลังจะออนแอร์วันที่ 11 ตุลาคมนี้แล้ว ทางโมเดิร์น 9 เวลา 14.00 น. อย่าลืมติดตามผลงานของดีเจหนุ่มคนนี้ด้วยนะจ๊ะ แต่ก่อนที่หนุ่มโบจะก้าวเข้ามาสู่แวดวงอาชีพการเป็นดีเจ หนึ่งความตั้งใจของเขาคือการได้ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ เมื่อจังหวะลงตัว ผู้ใหญ่ทางเอไทม์หยิบยื่นโอกาสให้โบได้เข้ามาทำอาชีพที่ตัวเองรัก โครงการเรียนต่อเป็นอันต้องพับเก็บในกระเป๋าไว้ก่อน สาเหตุที่โบเลือกเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษนั้น เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้วเจ้าตัวมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนผู้ดีอังกฤษถึง 3 เดือนด้วยกัน แม้ระยะเวลาจะสั้นไปสักหน่อย แต่โบบอกว่าทุกช่วงนาทีมีความหมายมาก เรามาเปิดไดอารีชีวิตของผู้ชาย Chapter : Live in London กันดีกว่า เตรียมตัวหนึ่งเดือน จากนั้นแพ็กกระเป๋าเหินฟ้าสู่ลอนดอนทันที สาเหตุที่หนุ่มโบมีเวลาเตรียมพร้อมแค่หนึ่งเดือน เพราะว่าพี่สาวชวนให้มาเรียนภาษาต่อ ?พี่สาวมาเรียนที่อังกฤษก่อนผมหลายปีแล้วครับ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมเพิ่งจะเรียนจบใหม่ ๆ ประกอบกับยังค้นหาตัวเองไม่เจอว่าจะทำอะไรดี หรือว่าจะเรียนต่อ เป็นช่วงเคว้ง ๆ ครับ จังหวะเดียวกับพี่สาวชวนให้มาเรียนภาษาที่นี่ เพราะน้องเพื่อนเขามาเรียนภาษาเหมือนกัน จะได้มีเพื่อน ผมเลยไม่คิดอะไรมากเลยครับ ไปก็ไป เรียกว่าไม่ค่อยได้ตั้งหลักเท่าไหร่ เตรียมตัวแค่เดือนหนึ่งเท่านั้น เมื่อทุกอย่างพร้อม ผมขึ้นเครื่องบินมาคนเดียวเลยครับ? ?วันแรกที่เดินทางมาถึง ก่อนหน้านั้นได้ตกลงกันไว้กับพี่สาว คือน้องสาวของเพื่อนพี่สาวจะมารับผมที่สนามบิน แต่ปรากฏว่าเขาไปปาร์ตี้หนักจนตื่นมารับผมไม่ไหว ผมเลยต้องขึ้นรถใต้ดินมาที่หอพักเองเลย ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกกลัวเลยครับ รู้สึกว่าตื่นตาตื่นใจไปหมดทุกอย่าง เพราะเป็นการเปลี่ยนสถานที่ของเรา ผู้คนที่แวดล้อมอยู่ไม่ได้พูดภาษาไทยเลย มีอาการงง ๆ บ้างแต่สุดท้ายก็คลำทางมาถึงหอพักจนได้ จากนั้นเริ่มลุยเที่ยวเลยครับ น้องสาวเพื่อนพี่สาวเขาพาผมลุยลอนดอนวันแรก สนุกมาก ไม่เคยใช้ชีวิตอย่างนี้มาก่อน? โบบอกว่าตอนแรกตั้งใจแค่มาเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เขาจึงลงเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม และนั่นจึงเป็นที่มาของมิตรภาพระหว่างชนชาติ ?เรียนลอนดอนค่าใช้จ่ายค่อนข้างจะสูง แต่จุดประสงค์ที่ผมไปอังกฤษนั้นคือผมต้องการเปิดโลกความรู้ใหม่ ๆ ให้กับตัวเองด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ ๆ การที่ผมไปเที่ยวอย่างเดียว ผมรู้สึกว่ามันไร้สาระเกินไปหรือเปล่า ผมเลยลงเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมไปด้วย เป็นการหาความรู้ใส่ตัวเอง เรียนด้วยเที่ยวด้วยครับ? ?ตอนไปภาษาอังกฤษถือว่าไม่ได้มากมายอะไร จะเรียกว่าห่วยก็ได้นะ (หัวเราะ) แต่ยังพอสั่งข้าวทานได้ เอาตัวรอดได้ตามประสา จริง ๆ ผมเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ป.3 เพราะที่โรงเรียนสาธิตเกษตรฯ เขาสอนพื้นฐานมาตั้งแต่แรก แกรมม่าได้นิดหน่อยครับ พูดได้บ้าง พอไปเรียน เราเริ่มต้นแกรมม่าเหมือนกัน ก่อนเข้าไปเรียนเขาต้องให้วัดระดับก่อนว่าเราจะเรียนอยู่ในระดับไหน ผมพอจะได้พื้นแกรมม่ากลับมาบ้าง และด้วยความที่ผมไม่มีเพื่อนคนไทยเลย ต้องใช้ภาษาอังกฤษอยู่ทุกวัน ใช้ผิดบ้างถูกบ้างถือว่าได้ใช้ครับ เพราะคนที่ผมคุยด้วยทุกวัน ๆ เขาก็ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเก่งมากมาย เหมือนกันกับเรานั่นแหละ อีกอย่างพอเราไม่ได้ใช้ภาษาไทยเลย ทำให้เราพูดภาษาอังกฤษได้รวดเร็วเหมือนกัน เพราะถ้าเราไม่เรียนรู้เราจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง ระดับการพูดภาษาอังกฤษของผมคือพื้นฐานทั่วไป คุยเรื่องอากาศ ฟ้าฝน ไปเที่ยว สั่งข้าว ซึ่งตรงนี้ผมจะได้ความมั่นใจในการพูดมากขึ้นเยอะ? 3 เดือนในลอนดอน นอกจากภาษาอังกฤษที่สามารถพูดได้อย่างมั่นใจมากขึ้นแล้ว เจ้าของเรื่องราวยังบอกอีกว่าเขาได้ประสบการณ์ชีวิตมากมายแบบตีราคาไม่ได้ ?อยู่ได้ประมาณ 3 เดือน ได้อะไรกลับมาเยอะมาก ได้เจอเพื่อนชาวต่างชาติที่มาเรียนภาษาอังกฤษเหมือนกัน ผมไม่ได้กระแดะหรืออะไรนะครับ แต่ผมจะไม่หาเพื่อนคนไทยเลย เพราะผมรู้สึกว่าเวลาเราเรียนนั้นค่อนข้างสั้น ฉะนั้นเราต้องเก็บเกี่ยวอะไรให้ได้มากที่สุด ถ้าเราเกาะกลุ่มกับเพื่อนคนไทยด้วยกัน ในเรื่องของภาษาคงไม่ได้ฝึก หรือจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม ก็คงไม่ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ผมอยากได้สังคมใหม่ ๆ กลับมา อีกอย่างต้องบอกก่อนว่าเพื่อนที่ผมคบนั้นไม่ได้เป็นคนอังกฤษนะครับเป็นเพื่อนต่างชาติที่มาเรียนภาษา มีเยอะมาก ทั้งอิตาเลียน ญี่ปุ่น เกาหลี หรือว่าคนฝรั่งเศส และทั่วไปที่เขาอ่อนภาษาอังกฤษ ผมได้เพื่อนพวกนี้แหละครับที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน? ?ผมได้รู้ว่าคนทางฝั่งยุโรปเขาคิดเรื่องบางเรื่องอย่างไร หรืออย่างไปเที่ยวเขามีวิธีการดื่มการกินอย่างไร ซึ่งชาติแต่ละชาติจะไม่เหมือนกัน หรือเขามีวิธีเที่ยว มีวิธีดูแลตัวเองกันอย่างไร ผมมีความรู้สึกว่ามันได้อะไรอีกเยอะเลยครับ ส่วนในเรื่องการเรียน ผมไม่ได้เน้นเท่าไหร่ แต่ที่ผมเน้นคือ ผมอยากเปิดโลกให้กว้างขึ้น ภาษาถ้าไม่ได้ใช้นาน ๆ กลับมาเมืองไทยสักพักคงลืมครับ?
ภาพหล่อๆของ โบ-ธนากร ชินกูล (คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่)
อย่างที่หนุ่มโบบอกตั้งแต่แรกว่าเขาอยากมาหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง ด้วยการเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตัวเอง เพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่งที่โบเลือกเองนั่นคือการใช้ชีวิตโดยลำพังด้วยการอยู่หอ ?การมาอังกฤษของผมไม่ได้เน้นว่าจะต้องไป Take course อะไร หรือกลับมาจะต้องเก่งภาษาอังกฤษเลย จุดประสงค์หลัก ผมอยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง จากเดิม ๆ แค่เพื่อนนัดไปโน้นมานี่ ผมต้องการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตัวเองจริง ๆ ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่าไปที่อังกฤษแล้วเราจะเจออะไรบ้าง เป็นการฝึกตัวเองว่าให้รับแต่ละสถานการณ์ให้ได้ และผมรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบนื้ทำให้ผมเริ่มมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ทำให้เราได้เรียนรู้ความคิดของชนชาติอื่น ๆ ซึ่งเพื่อนบางคนอายุ 40 กว่าก็มี ทุกคนเหมือนเพื่อนครับ มาจากศูนย์กันหมด? ?ด้วยความที่เราสนิทสนมกัน หลังเลิกเรียนผมกับเพื่อน ๆ จะทำกับข้าวกินกันเอง ไปจ่ายตลาดจากย่านโซโห เพื่อนที่เป็นคนฝรั่งเศสเขาจะทำอาหารชาติเขาให้เรากิน ส่วนผมจากที่ทำกับข้าวไม่เป็นเลย ทำอย่างแรกคือแกงพะแนง ผมจะซื้อผงทำอาหารสำเร็จรูป แล้วเราก็ทำตามขั้นตอนของเขาปรากฏว่าหน้าตาออกมาทานได้นะครับ (หัวเราะ) คนไทยกินอาจจะบอกว่ารสชาติห่วยมาก แต่ฝรั่งเขากินเขาบอกว่าอร่อยมาก ชมซะผมเป็นกุ๊กชั้นเทพเลยครับ (หัวเราะ) คือผมเอารสหวานเข้าว่าครับ เรียกว่าเป็นช่วงชีวิตที่ผมรู้สึกสนุกมาก อยู่บ้านเราไม่มีวันมานั่งทำแบบนี้ได้แน่นอน เพราะถ้าท้องเราหิว เราคงเดินออกไปซื้อ หรือบอกแม่ให้ทำให้กิน? ?ผมอยู่หอที่โรงเรียนครับ ที่เลือกอยู่หอไม่อยู่กับ Host เพราะผมอยากใช้ชีวิตเอง ซึ่งผมรู้สึกว่าการอยู่กับ Host เหมือนถูกตีกรอบจนเกินไป อิสระมีไม่ได้เต็มที่ ในเมื่อเราต้องไปเรียนรู้สิ่งใหม่ เรียนรู้การอยู่ได้ด้วยตัวเอง เมื่อเราต้องการกำหนดชีวิตเราเอง เราควรไปอยู่ด้วยตัวเองดีกว่า หอพักของผมมีห้องน้ำในตัว แต่ห้องครัวเราใช้ร่วมกัน ผมว่าดีเหมือนกัน เพราะเราได้แบ่งปันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อย่างบางทีเพื่อนที่เรียนที่เดียวกันแต่ไม่ได้อยู่หอเดียวกัน เราก็โทร.ชวนเขามากินข้าวด้วย สนุกมากครับ? ?ตกเย็นเราไปนั่งตาม Park ได้เจอเพื่อนต่างกลุ่มอีกด้วย มีฟิตเนสให้เล่นเป็นราคาของนักเรียน ผมอยู่หอย่าน Stock well นั่งรถประมาณ 8 สถานีรถไฟถึงจะถึงโรงเรียน การนั่งรถไฟตอนกลางคืนอันตรายมาก เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะมายังไง เราต้องระวังตัวไว้ก่อน เพื่อนผมโดนล้วงกระเป๋าบ้าง โดนทำร้ายร่างกายเอาทรัพย์สินไปบ้าง ทำให้เราเรียนรู้ว่าเราต้องเอาตัวรอดยังไง ต้องรับมือกับมันอย่างไร และเราต้องแก้ไขอย่างไร เป็นสิ่งที่ผมได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ทั้ง ๆ ที่อยู่แค่ 3 เดือน ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว?ดูเหมือนว่ามหานครลอนดอนจะมีเสน่ห์มากมาย แถมเป็นโรงเรียนชีวิตแห่งใหม่ให้กับหนุ่มโบซะจริง ๆ เพราะหลังจากที่เจ้าตัวได้บินกลับมาเมืองไทยแล้ว มีเสียงกระซิบจากคนใกล้ตัวบอกว่า เขาโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ?หลังจากผมเรียนจบคอร์สภาษาอังกฤษ 2 เดือน ผมไปหาเพื่อนผมที่อยู่ที่ Manchester ไปเที่ยวครับ แบบกระเป๋าใบเดียวเลย อยู่ได้เกือบเดือนครับ และก่อนกลับเมืองไทยผมยังได้เที่ยวพิพิธภัณฑ สถานที่สำคัญ ๆ ของลอนดอนอีกหลายแห่งด้วย? ?จริง ๆ ผมอยากอยู่ต่อเหมือนกันนะ แต่ติดตรงเรื่องของเวลาและค่าใช้จ่ายครับ เกรงใจทางบ้านด้วย เพราะผมไปไม่ได้ทำงานอะไรเลย เพื่อนบางคนเขาไปทำงานที่ Starbuck แต่ผมห่วงเที่ยวอย่างเดียว (หัวเราะ) อย่างที่ผมบอกว่าผมได้อะไรเยอะมากครับในการมาอังกฤษครั้งนี้ ตอนกลับบ้านใหม่ ๆ แม่ยังบอกว่ารู้สึกว่าผมเปลี่ยนไป แต่เป็นไปในทางที่ดีนะ (หัวเราะ) สุดท้ายดีเจโบอารมณ์ดีฝากถึงเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ที่กำลังมีแพลนว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ?ผมอยากจะบอกว่าอย่าไปคิดว่าการไปเรียนต่างประเทศเราจะต้องได้อะไรกลับมา แค่เราได้ออกไปสู่โลกกว้าง เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเดิม นี่คือในมุมมองของผมนะครับ ถ้าเราเตรียมอะไรมากเกินไป ผมว่ามันได้อะไรไม่เต็มที่ พ่อผมเคยไปอยู่ที่อังกฤษพ่อบอกว่าเรื่องของความรู้ไม่ได้มากมายนัก แต่ได้ในเรื่องของประสบการณ์ชีวิต เพราะเขาใช้ชีวิตอย่างหนักมาแล้ว ผมจำคำพูดพ่อมาตลอด ผมประทับใจการใช้ชีวิตของตัวเอง และได้ความรู้เพิ่มเติมด้านภาษาอังกฤษ นอกจากภาษาแล้ว ประสบการณ์ชีวิตยิ่งอยู่นานยิ่งได้เจอสิ่งแปลก ๆ ทุกวัน คือถ้าเราไม่ไปเจอสิ่งเหล่านี้ก็คงไม่ตายหรอก ไม่เป็นผลลบต่อชีวิต แต่ผมมองว่าเป็นกำไรชีวิต ถึงเรื่องพวกนี้อาจจะไม่เคยนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเรา แต่ผมถือว่านี่คือไฮไลต์ของชีวิตผม ถ้าผมไม่ตัดสินใจไป ผมคงไม่ได้สิ่งเหล่านี้กลับมา? นี่แหละมหานครลอนดอน มหาวิทยาลัยชีวิตของหนุ่มโบ ที่มา " เรียนรอบโลก " ผู้เขียน : oakky วิไลรัตน์ ต่ายประยูร ช่างภาพ : พี่ดอน
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ