พิชญ์ C-Quint กับ 4 ปีในอเมริกา เผยเสี้ยวนาทีรูดการ์ดผิด ชีวิตเปลี่ยน

พิชญ์ C-Quint กับ 4 ปีในอเมริกา เผยเสี้ยวนาทีรูดการ์ดผิด ชีวิตเปลี่ยน

พิชญ์ C-Quint กับ 4 ปีในอเมริกา เผยเสี้ยวนาทีรูดการ์ดผิด ชีวิตเปลี่ยน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พิชญ์ C-Quint กับ 4 ปีในอเมริกา เผยเสี้ยวนาทีรูดการ์ดผิด ชีวิตเปลี่ยน

5 หนุ่มแห่งวง C-Quint โด่งดังจนสาวตามกรี๊ดกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ล่าสุดหนุ่มคนนี้มีข่าวกุ๊กกิ๊กอยู่กับสาวโฟร์ ค่ายเดียวกัน (แอบแซวเล็กน้อย) เดากันไม่ยากเลยใช่มั้ยว่าหนุ่มคนนี้คือ พิชญ์ นั่นเอง ชื่อเต็มเหมือนชื่อเล่นเลยค่ะ พิชญ์ กาไชย หนุ่มพิชญ์เข้ามาเป็นนักร้องได้จากการชักชวนโดยโมเดลลิ่ง หลังจากนั้นไม่นานชื่อของพิชญ์ได้แจ้งเกิดในฐานะนักร้องบอยแบนด์ฮอตในนาม C-Quint อย่างที่เจ้าตัวเคยแอบฝันไว้ว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้ยืนจับไมค์ร้องเพลงอยู่บนเวทีคอนเสิร์ต จะว่าเป็นความบังเอิญก็ได้นะครับ วันนั้นผมไปกินข้าวกับเพื่อน และเพื่อนของเพื่อนเขาชวนพิชญ์มาแคสติ้ง ประจวบเหมาะกับมีโปรเจกต์ C-Quint พอดี ผมออดิชั่นร้องเพลง เต้นให้พี่ ๆ ทีมงานดู ปรากฏว่าพี่เขามองเห็นว่าผมทำได้จึงให้โอกาสผมได้เข้ามาเป็นนักร้อง เพราะโดยส่วนตัวผมชอบทางด้านนี้มากอยู่แล้ว ดีใจครับ ที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก? เป็นนักดนตรีหัวใจเต้นเป็นจังหวะตัวโน้ต ?พิชญ์เรียนเปียโนมาตั้งแต่ป.1 ปัจจุบันยังเรียนอยู่เหมือนเดิมนะครับเพราะว่าผมเรียนเอกเปียโน ผมเริ่มเรียนเปียโนเพราะคุณแม่ส่งให้ไปเรียนครับ แล้วก็หยุดไปช่วงหนึ่ง หันไปเรียนกีตาร์แทน แต่รู้สึกเสียดายความรู้เรื่องเปียโนที่เรียนมาเพราะเริ่มจะลืม ๆ แล้วจึงหันกลับไปเรียนต่อ ส่วนกีตาร์พิชญ์คิดว่าเราฝึกฝนเล่นเองอยู่กับบ้านก็ได้ ประกอบกับตอนนั้นคอร์สเรียนกีตาร์เป็นตอนเช้าด้วย ผมขี้เกียจตื่นครับ (หัวเราะ)? นั่นเป็นเพียงบางเสี้ยวชีวิตของการเริ่มต้นบทบาทการเป็นนักร้อง แต่ก่อนหน้านั้นพิชญ์บอกว่าเขาเคยผ่านงานในวงการบันเทิงมาบ้างเล็กน้อย อาทิถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ถ่ายภาพนิ่ง ก่อนจะเหินฟ้าไปอเมริกา เรียนต่อไฮสคูล รวมแล้วกว่า 4 ปีในการใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน เรื่องราวในวันนั้นจะเป็นอย่างไร วันนี้พิชญ์มาถ่ายทอดให้รู้กัน พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า

พิชญ์ C-Quint กับ 4 ปีในอเมริกา เผยเสี้ยวนาทีรูดการ์ดผิด ชีวิตเปลี่ยน

หลังจากจบม.3 หนุ่มคนนี้เริ่มต้นผจญภัยเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้านการเรียนให้กับตัวเอง อะไรเป็นแรงผลักดันทำให้เด็กอายุ 14 ตัดสินใจไปใช้ชีวิตเป็นนักเรียนต่างแดน ต้องบอกว่าผมกับพี่ชายสนิทกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเพราะห่างกันแค่ 2 ปีเอง พอพี่ชายผมเรียนจบ ผมอยากออกมาด้วย (หัวเราะ) สุดท้ายผมไปขอคุณแม่ว่าขอไปเรียนม.4 ที่อเมริกาได้หรือเปล่า คุณพ่อคุณแม่ไม่ว่าอะไรครับ เมื่อลูกอยากเรียนท่านสนับสนุนและอีกอย่างเราจะได้พูดภาษาอังกฤษได้ด้วย? เมื่อทุกอย่างพร้อม เด็กชายพิชญ์ข้ามทวีปมายังเมือง Myrtle Beach, South Carolina, America และไม่รู้ว่าติดใจบรรยากาศใหม่หรือเปล่า ทำให้ 1 ปีแรก พิชญ์ไม่กลับเมืองไทยเลย แม้จะเป็นช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่เพื่อน ๆ ต่างชาติกลับบ้านเกิดกันหมด บรรยากาศในเมืองดีมากครับ สบาย ๆ ดี ดูแล้วไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ผมชอบนะครับ ตอนแรก ๆ ที่เพิ่งไปถึงรู้สึกว่ามันทรมานมากเลย ทั้งในเรื่องของภาษาและเรื่องการเป็นอยู่ที่แตกต่างมาก ปีแรกผมไม่ได้กลับบ้านเลยครับ ไม่ใช่เพราะติดใจบ้านเมืองเขานะครับ คือคุณแม่อยากให้ผมลองใช้ชีวิตแบบจริง ๆ ที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง ทำเองทุกอย่าง ท่านอยากให้ผมเอาตัวรอดให้ได้ด้วยตัวเอง อย่างที่ผมบอกว่ามันทรมาน คือผมนั่งมองเพื่อน ๆ เขากลับบ้านกันหมดในเทศกาลคริสต์มาส แต่ผมไม่ได้กลับ ซึ่งมันมีส่วนดีนะครับ ตรงที่เราได้เห็น ได้เรียนรู้ในแบบที่เมืองไทยเราไม่มีทางได้รู้สึกแบบนี้?

พิชญ์ C-Quint กับ 4 ปีในอเมริกา เผยเสี้ยวนาทีรูดการ์ดผิด ชีวิตเปลี่ยน

อีกหนึ่งสิ่งที่เด็กไทยทุกคนต้องเปลี่ยนแปลง นั่นคือเรื่องของการปรับตัว พิชญ์บอกว่าเขาค่อนข้างปรับตัวได้เร็วในเรื่องของการดำเนินชีวิต แต่เรื่องของภาษานั้นต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควร ผมต้องปรับตัวเรื่องภาษาเป็นอันดับแรกครับ คนส่วนใหญ่จะคิดว่าฟังง่ายกว่าพูด แต่จริง ๆ ในความรู้สึกผม คิดว่าพูดง่ายกว่านะครับ เพราะเราเป็นคนบังคับคำต่าง ๆ ได้เอง แต่การที่เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แล้วต้องไปฟังสำเนียงฝรั่งพูดซึ่งพูดเร็วมาก ผมว่าเป็นเรื่องลำบากเหมือนกัน กว่าที่ผมจะเข้าใจและสื่อสารได้ใช้เวลาหลายเดือนครับ ผมว่าภาษาอังกฤษเราต้องใช้บ่อย ๆ และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่คนพูดภาษาอังกฤษจึงจะทำให้เราพูดได้เร็วครับ? อีกเรื่องที่ต้องปรับตัว คือเรื่องวัฒนธรรม แต่ก่อนอยู่บ้านที่เมืองไทยเราทานข้าวใช้ช้อนกับส้อม แต่มาอยู่ที่นี่ผมใช้มีดกับส้อมทุกมื้อเลยครับ ปีแรกผมอยู่กับ Host ซึ่งเขาจะทานกันแบบนี้เกือบทุกมื้อ อยู่กับ Host ผมไม่ต้องซักผ้า ไม่ต้องเก็บกวาดห้อง แต่พอผมมาอยู่ปีที่ 2 ผมมาอยู่หอครับ คราวนี้ต้องซักผ้าเอง เก็บกวาดห้องเองทุกอย่าง เรียกว่า บรรยากาศแตกต่างกับที่อยู่กับ Host เลย (หัวเราะ) แต่อยู่กับเพื่อนผมทำทุกอย่าง มันเหนื่อยจริงครับ แต่สีสันมันต่างกัน นอกจากวิชาความรู้และภาษาอังกฤษที่ได้แล้ว การไปใช้ชีวิตในต่างประเทศทำให้หนุ่มคนนี้มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ และมีความรับผิดชอบมากขึ้น ผมรู้สึกว่าผมคิดไม่ผิดนะครับที่ตัดสินใจมาเรียนที่อเมริกา เพราะถ้าอยู่เมืองไทย ป่านนี้ผมยังทำอะไรเองไม่เป็นเลยมั้ง (หัวเราะ) เพราะที่บ้านเราไม่ต้องสนใจอะไรมาก หน้าที่คือเรียนอย่างเดียว เรื่องซักผ้า ทำกับข้าว มีคนทำให้ทุกอย่าง ผมว่าการมาเรียนต่อครั้งนี้ทำให้ผมโตขึ้น มีความคิดเป็นของตัวเองด้วย และที่สำคัญผมสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ปัจจุบันผมทำโน่นทำนี่ได้เอง ผิดกับเมื่อก่อนคุณแม่จะคอยทำให้ตลอด?

พิชญ์ C-Quint กับ 4 ปีในอเมริกา เผยเสี้ยวนาทีรูดการ์ดผิด ชีวิตเปลี่ยน

4 ปีในอเมริกาทั้งใน South Carolina และ New York เรียกว่าคุ้มค่ามากสำหรับพิชญ์ หลังจากจบไฮสคูลแล้ว แน่นอนว่าเส้นทางความรู้ของเขามุ่งหน้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นทำให้พิชญ์ต้องอกหักกลับมาเรียนต่อในเมืองไทย มีหลายคนถามผมเหมือนกันว่าทำไมผมไม่เรียนต่อที่อเมริกาเลย ซึ่งแพลนของผมคือเรียนต่อแน่นอนอยู่แล้ว แต่มันเกิดข้อผิดพลาด มีการเข้าใจผิดกันนิดหน่อย เป็นปัญหาเรื่องของการสื่อสาร คือผมจ่ายค่ามัดจำไปแล้วรวมทั้งค่าหอและค่าเล่าเรียน ปรากฏว่าตอนที่เจ้าหน้าที่เขารูดการ์ดบัตรเครดิต เขารูดแค่ค่าเรียนอย่างเดียว แต่เขาไม่ได้รูดค่าหอด้วย ซึ่งเมื่อผมมารู้ทีหลังตอนเมื่อหอทุกหอเต็มไปหมดแล้ว ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีจึงตัดสินใจกลับมาตั้งหลักที่เมืองไทยก่อนดีกว่าแล้วค่อยว่ากันใหม่ และตอนที่ผมกลับมาใหม่ ๆ อย่างที่ผมบอกว่าเพื่อนของเพื่อนเขาชวนให้ผมมาแคสติ้งที่อาร์เอส ปรากฏว่าผมได้เป็นนักร้อง ทำให้ผมยังไม่ได้กลับไปอเมริกา (หัวเราะ) ตอนนี้ของทุกอย่างยังอยู่ที่อเมริกาอยู่เลยครับ คงต้องบินกลับไปเอาของครับ เพราะเยอะมาก นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตเขาทันที ถามว่าเสียดายไหมกับการเป็นบัณฑิตจบจากเมืองนอก พิชญ์ตอบอย่างไม่ลังเลว่าเขาไม่เคยเสียดาย เรียนที่ไหนผมว่าเหมือนกันหมดครับ อยู่ที่ตัวเรามากกว่าที่จะตั้งใจเรียนหรือเปล่า ถ้าผมเรียนเมืองนอกแต่ผมไม่ตั้งใจเรียน เรียนไม่จบ มันก็เท่านั้นเสียดายเงินครับ สงสารคุณพ่อคุณแม่ด้วย แต่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าต้องเรียนต่อปริญญาโทแน่นอน คงจะได้กลับไปอเมริกาอีกครั้งครับ ปัจจุบันหนุ่มหล่อคนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะศิลปกรรมศาสตร์ วิชาเอกดนตรี (เปียโน) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ที่เลือกคณะนี้เพราะเขาชื่นชอบเสียงดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ส่วนเรื่องของการเรียนควบคู่ไปกับการทำงาน พิชญ์ย้ำว่าไม่มีผลกระทบต่อการเรียน มีบ้างครับ เรื่องเวลาเรียนที่โดนคิวงานเข้ามาเบียด แต่พิชญ์จะให้ตารางเรียนกับพี่ ๆ ที่ดูแลผมครับ จะได้ไม่ชนกับการเรียนมาก วันไหนที่ขาดเรียนไปผมจะมีจดหมายไปแสดงทุกครั้ง โดยรวมแล้วไม่ส่งผลกระทบอะไรครับ การมาเป็นนักร้องในขณะที่เรายังเรียนอยู่ต้องขยันเป็นเท่าตัว เพราะบางครั้งทำงานดึกตื่นเช้าต้องไปเรียน ความรับผิดชอบต้องทวีคูณ ที่สำคัญเราต้องมีเพื่อนที่ดีด้วยครับ เพื่อนจะช่วยเหลือพิชญ์ทุกอย่าง ต้องขอขอบคุณพวกเขาด้วย?

พิชญ์ C-Quint กับ 4 ปีในอเมริกา เผยเสี้ยวนาทีรูดการ์ดผิด ชีวิตเปลี่ยน

สุดท้ายเจ้าของเรื่องราวสนุกสนานในต่างแดนฝากบอกถึงน้อง ๆ ในเรื่องการเรียนและแนะนำคนที่กำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศด้วย การเรียนเป็นสิ่งสำคัญครับ อย่าทิ้งการเรียนเด็ดขาด ต่อให้ผมต้อง ดร็อปเรียนไปสักเทอมหนึ่ง และมันจะเป็นการหยุดเรียนเทอมเดียวเท่านั้น คำว่าการเรียนไม่มีจำกัดอายุ ขอให้เราเรียนจบ อย่างน้อยต้องปริญญาตรีครับ ปัจจุบันถ้าต่ำกว่าปริญญาตรีคงลำบากแล้ว และสำหรับเพื่อน ๆ หรือน้อง ๆ คนไหนที่คิดจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ ถ้ามีโอกาสไม่ควรปิดโอกาสตัวเอง แต่ผมจะบอกว่าอย่าเพิ่งคิดว่าทุกอย่างสวยหรู เพราะมันไม่ได้สนุกอย่างที่เราคิดไว้ครับ แรก ๆ หลาย ๆ คนอาจจะอยากกลับบ้านครับ เอ๊ะ! หรือเป็นเฉพาะพิชญ์คนเดียวก็ไม่รู้ (หัวเราะ) แต่เพื่อนๆ ของผมเป็นเหมือนกันนะ แต่อยู่ ๆ ไปทุกอย่างจะเริ่มโอ.เค. และลงตัว อยู่ที่เราจะปรับตัวได้เร็วขนาดไหนเท่านั้นเอง ครับ? ครบสูตรเด็กรุ่นใหม่ค่ะ หล่อ เรียนเก่ง เล่นดนตรี แถมเป็นนักเรียนนอกอีกต่างหาก มิน่าล่ะสาว ๆ ถึงได้อยากรู้จักนักหนา เป็นอันว่าได้รู้กันแล้วนะคะ ที่มา " เรียนรอบโลก " ผู้เขียน : oakky วิไลรัตน์ ต่ายประยูร ช่างภาพ : นายหรั่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook