มหกรรมการศึกษาต่อต่างประเทศ งานใหญ่ ก.พ. สานฝันนักเรียนไทย
โดย เชตวัน เตือประโคน
ได้ยินคำว่า "ก.พ." หลายต่อหลายคนที่เคยเดินผ่านระบบการศึกษา หรือยังอยู่ในระบบการศึกษา ย่อมต้องคิดถึงเรื่อง "ทุนการศึกษา"
เพราะเป็นหนึ่งในอำนาจหน้าที่ ซึ่ง ก.พ. หรือชื่อเต็มว่า "สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน" รับผิดชอบ ไม่ว่าจะทุนเล่าเรียนหลวง หรือทุนของรัฐบาล ก.พ.จะทำการดำเนินการเกี่ยวกับทุนเหล่านี้ตามระเบียบที่มีกำหนด แต่ในความเป็นจริงแล้ว บทบาทขององค์กรนี้มีมากกว่านั้น เป็นต้นว่า การบริหารทรัพยากรบุคคลในราชการพลเรือน ส่งเสริมการพัฒนาข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและการทำงานที่ดี รวมถึงพัฒนาระบบการบริหารกำลังคนในราชการให้เกิดกลไกการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
อาจพูดได้ว่า อะไรที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรข้าราชการพลเรือน จะอยู่ในความดูแลขององค์กรนี้
แต่ไหนๆ เมื่อเริ่มรู้จักกับสำนักงาน ก.พ ด้วยเรื่อง "ทุนการศึกษา" แล้ว มีหรือที่จะละเลยไม่สอบถามเกี่ยวกับงาน "มหกรรมการศึกษาต่อต่างประเทศ" หรือ "OCSC International Education EXPO 2009" ที่ ก.พ.จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-วันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 นี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
ดังนั้น ใครที่กำลังมองหา "แหล่งทุน" กำลังมองหา "สถานศึกษาต่อต่างประเทศ" พลาดไม่ได้
งานนี้มีสถาบันการศึกษา 204 แห่ง จาก 29 ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย จีน สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) 16 ประเทศ เช่น อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่สำนักงาน ก.พ.รับรอง เดินทางมาให้คำปรึกษา ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์และถูกต้องที่สุด แก่นิสิตนักศึกษา ผู้ปกครอง และผู้สนใจทั่วไป และที่สำคัญ แต่ละสถาบันที่เดินทางมาในครั้งนี้ บางสาขาวิชามีทุนจากสำนักงาน ก.พ. หรือทุนจากรัฐบาลของไทยให้ด้วย หรือถ้าใครอยากใช้ทุนส่วนตัว งานนี้ก็รับรองได้ว่าแต่ละสถาบันที่ลูกหลานเดินทางไปศึกษามีมาตรฐานอย่างแน่นอน
เบญจวรรณ สร่างนิทร
เบญจวรรณ สร่างนิทร เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เล่าให้ฟังเกี่ยวกับงานในครั้งนี้ว่า งานมหกรรมการศึกษาต่อต่างประเทศ เป็นงานบริการเพื่อสาธารณะที่สำนักงาน ก.พ.จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2547 ในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 6 แล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางการให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากตัวแทนสถานศึกษาเกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศ แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่สนใจ เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความรู้ ความชำนาญด้านการแนะแนวการศึกษาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลนักเรียนไทยในต่างประเทศ เป็นแหล่งข้อมูลทางด้านทุนการศึกษา เพื่อไปศึกษาในต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้าง ส่งเสริม และประสานงานกับภาคเอกชนและหน่วยงานในประเทศที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในต่างประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์บทบาทภารกิจของสำนักงาน ก.พ. ทางด้านการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรบุคคลภาครัฐ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศ
"ที่สำคัญคือ เพื่อเป็นศูนย์กลางของสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก ที่จะได้มาร่วมพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการศึกษา และส่งเสริมให้ระบบการศึกษาของสถาบันการศึกษาไทยได้มีเครือข่ายเพื่อการพัฒนาต่อไป" เบญจวรรณกล่าว
นอกจากการเปิดบู๊ธให้คำปรึกษาแล้ว กิจกรรมภายในงานก็น่าสนใจไม่น้อย
เลขาธิการของสำนัก ก.พ.เล่าให้ฟังว่า รูปแบบของงานนอกจากจะมีการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากสถานศึกษาแต่ละแห่งแล้ว ยังมีการจัดสัมมนาโดยวิทยากรผู้มีเชี่ยวชาญ และมีความรู้ในเรื่องของการศึกษาต่อต่างประเทศในหัวข้อเกี่ยวกับ ระบบการศึกษาประเทศต่างๆ การเลือกมหาวิทยาลัย การสอบเพื่อเตรียมตัวไปต่างประเทศ ประสบการณ์ในต่างแดน การรับรองสถาบันการศึกษา รวมไปถึง การจัดสรรทุนรัฐบาลไทย
สำหรับระดับการศึกษาที่เปิดรับก็มีหลายระดับ ตั้งแต่ประกาศนียบัตร อนุปริญญา ปริญญาตรี โท และเอก โดยครอบคลุมในหลากหลายสาขา เป็นต้นว่า การออกแบบเครื่องประดับ แฟชั่น ตกแต่ง สถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การบริหารจัดการ เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย ไอที ฯลฯ
เบญจวรรณบอกอีกว่า หากใครที่สนใจจะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศด้วยเงินทุนของตัวเอง ก็จะมีการจัดให้พบกับสถาบันการเงิน เพื่อปรึกษาการวางแผนด้านการเงินในการศึกษาต่อต่างประเทศ และสำหรับผู้ที่อยากทดสอบตัวเองก่อนตัดสินใจก็ยังมีกิจกรรมทดสอบภาษาอังกฤษฟรีๆ ในงานนี้ด้วย
"คาดว่าปีนี้จะได้รับความสนใจเป็นอย่างดีเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมงานล้วนแล้วแต่มีมาตรฐาน นักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และผู้ปกครองที่เข้าเยี่ยมชมงานได้รับข้อมูลการศึกษาต่อต่างประเทศที่ถูกต้อง ชัดเจน จากสถานศึกษาที่มาร่วมงาน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกประเทศที่จะไปศึกษาต่อ"
เรียกว่าไปครั้งเดียวได้ข้อมูลอย่างครบครัน นอกจากเรื่องเรียนยังจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการขอวีซ่าของประเทศต่างๆ จากเจ้าหน้าที่สถานทูตประเทศต่างๆ โดยตรงอีกด้วย
ที่ผ่านมา มีนักเรียน นักศึกษา ที่ได้รับทุน ก.พ.เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศสำเร็จการศึกษาไปแล้วหลายรุ่น
ในความเป็นห่วงเรื่องการมอบทุนสูญเปล่า กรณีผู้รับทุนไม่สำเร็จการศึกษาตามเวลาที่กำหนด และการใช้ทุนคืนตามที่กำหนด ทางสำนัก ก.พ.ก็มีวิธีการแก้ไขปัญหา เช่น หากศึกษาไม่สำเร็จ มีหลายแนวทางในการดำเนินการ อาทิ กลับมาศึกษาต่อในประเทศ ถ้าศึกษาระดับปริญญาตรี ก็ไม่ปิดโอกาสในการศึกษาต่อปริญญาโท รวมทั้งมีมาตรการในการติดตาม ฟ้องร้อง และการให้ชดใช้ทุน ส่วนเรื่องการใช้ทุนคืน สำนักงาน ก.พ.มีแนวทางในการใช้ทุนคืนให้กับผู้ที่จบการศึกษา โดยให้ผู้เข้ารับราชการชดใช้ทุน 1 เท่า นักเรียนทั่วไปชดใช้ทุน 2 เท่า
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นบทบาทสำคัญเกี่ยวกับโอกาสสำคัญทางการศึกษา ที่ผู้คนรู้จัก สำนักงาน ก.พ.
สำหรับนักเรียน นักศึกษาที่กำลังมองหาแหล่งทุน และสถานศึกษาสำหรับการเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ โอกาสดีมาถึงแล้ว อย่าปล่อยให้หลุดลอยไปโดยไม่คิดแม้แต่จะเอื้อมมือออกไปคว้าไว้
หลักเกณฑ์พิจารณามอบทุนการศึกษาของ สำนักงาน ก.พ.
1.เป็นทุนที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของส่วนราชการ และ/หรือ ยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับภารกิจและการวางแผนกำลังคนของส่วนราชการ
2.เป็นสาขาวิชาใหม่ๆ ที่ไม่มีการเรียนการสอนในประเทศไทย หรือระบบการศึกษาของไทยยังเข้มแข็งสู้ต่างประเทศไม่ได้ เช่น พลังงานทดแทน FTA ฯลฯ และไม่สนับสนุนสาขาวิชาที่มีการสอน ฝึกอบรมในประเทศไทยมากแล้ว เช่น Management Information System (MIS) /Information Technology / Management / Database/ ภาษาต่างๆ เป็นต้น
3. เน้นทุนระยะสั้น เช่น ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท/ ทุนฝึกอบรม สำหรับทุนปริญญาเอกจะพิจารณาให้เฉพาะที่มีเหตุผลชัดเจนถึงความจำเป็นต้องใช้คุณวุฒิระดับปริญญาเอก
4. อาจพิจารณาหลักสูตรการศึกษา/ฝึกอบรมในประเทศที่มีศักยภาพอื่นๆ ด้วย เช่น สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สหพันธรัฐรัสเซีย สาธารณรัฐฝรั่งเศส เป็นต้น
5. มีแผนงาน โครงการ และภารกิจ ที่ชัดเจนที่จะมอบหมายให้นักเรียนทุนรัฐบาลปฏิบัติภายหลังสำเร็จการศึกษา
6. มีการเตรียมและกำหนดแผนการที่ชัดเจนในการดูแล ใช้ประโยชน์นักเรียนทุนรัฐบาล
7. เป็นหลักสูตรฝึกอบรมที่มีการจัดอบรมจริง มีระยะเวลาอบรมต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3 สัปดาห์ และไม่มากกว่า 3 เดือน
8. เป็นทุนที่มีเอกสารประกอบการพิจารณาครบถ้วน
9.จำนวนทุนต้องอยู่ในกรอบโควตาที่กำหนด