![หอการค้าไทย, มหาวิทยาลัย, ทุน, ทุนการศึกษา, การเรียน, เรียนต่อ](//s.isanook.com/ca/0/ud/182/911859/b_05028_002.jpg)
ประกาศการรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ
ระดับปริญญาโทควบเอกและปริญญาเอก ประจำปีการศึกษา 2551
เพื่อเป็นการสนับสนุนให้อาจารย์ประจำและบุคคลภายนอกได้เพิ่มพูนความรู้ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจึงพิจารณาให้ทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ ประจำปีการศึกษา 2551 ทั้งในระดับปริญญาโทควบเอกและปริญญาเอก จำนวน 10 ทุน ดังนี้
![](//s.isanook.com/ca/0/ud/182/911859/b_05028_003.jpg)
1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัครสอบ
มีอายุไม่เกิน 40 ปี นับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร (วันที่ 20 มีนาคม 2551)
ถ้าเป็นอาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยต้องมีอายุงานไม่ต่ำกว่า 1 ปี
มีคะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL ไม่ต่ำกว่า 213 (ComputerBased) / 79 (Internet-Based) หรือ คะแนน IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.5 หรือ คะแนน GMAT ไม่ต่ำกว่า 550 โดยผลการสอบต้องไม่เกิน 2 ปี (นับถึงวันที่สมัครสอบ)
ผู้สมัครศึกษาต่อระดับปริญญาโทควบเอก
ต้องเป็นผู้ได้รับวุฒิปริญญาตรีหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาตรี และมีผลการศึกษาเฉลี่ยตลอดหลักสูตรการศึกษาไม่ต่ำกว่า 3.00 หรือเทียบเท่า
ผู้สมัครศึกษาต่อระดับปริญญาเอก
ต้องเป็นผู้ได้รับวุฒิปริญญาโทหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาโท และมีผลการศึกษาเฉลี่ยตลอดหลักสูตรการศึกษาไม่ต่ำกว่า 3.25 หรือเทียบเท่า
บุคคลที่สำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ต้องมีผลการศึกษาในระดับ Pass ไม่เกิน 40% ของรายวิชาทั้งหมดที่เรียนในระดับปริญญาโท
ต้องไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างการรับทุนจากสถาบันหรือองค์กรใด หรือหากเคยได้รับทุนจากสถาบันหรือองค์กรใดไปศึกษา ณ ต่างประเทศมาแล้ว ต้องเป็นผู้ซึ่งหมดภาระผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุนตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับสถาบันหรือองค์กรนั้น ๆ แล้ว
เป็นผู้ที่ไม่เคยและไม่อยู่ในระหว่างการถูกฟ้องคดีแพ่งหรือคดีอาญา
2. กำหนดการรับสมัคร
เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม - 20 มีนาคม 2552
การยื่นใบสมัครผู้สมัครสามารถยื่นใบสมัครด้วยตนเองหรือจะให้ผู้อื่นมายื่นแทนก็ได้ที่ฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (อาคาร 10 ชั้น 5) ตั้งแต่เวลา 9.00 16.00 น. (หยุดวันเสาร์ อาทิตย์และวัน นักขัตฤกษ์)
3. กำหนดการสอบ
![](//s.isanook.com/ca/0/ud/182/911859/b_05028_004.jpg)
มหาวิทยาลัยจะประกาศรายชื่อเฉพาะผู้มีสิทธิ์ได้รับทุน หากผู้มีสิทธิ์ได้รับทุนสละสิทธิ์การรับทุนหรือถูกเพิกถอนการให้ทุน หรือขาดคุณสมบัติที่จะรับทุน มหาวิทยาลัยจะพิจารณาให้ผู้ที่ได้คะแนนในลำดับถัดไปของทุนของคณะนั้น และยังมิได้รับทุนใดๆ ในการสอบครั้งเดียวกันนี้เป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับทุนแทน ทั้งนี้ ต้องภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับทุน
4. เอกสารหลักฐานที่จะต้องยื่นพร้อมใบสมัคร
สำเนาคะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL ไม่ต่ำกว่า 213 (ComputerBased) / 79 (Internet-Based) หรือ คะแนน IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.5 คะแนน GMAT ไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน จำนวน 1 ชุด โดยผลการสอบต้องไม่เกิน 2 ปี (นับถึงวันที่สมัครสอบ)
สำเนาใบปริญญาบัตรพร้อมสำเนาใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) ระดับปริญญาตรี จำนวน 1 ชุด (วันที่สำเร็จการศึกษา ภายในวันที่ 20 มีนาคม 2552)
สำเนาใบปริญญาบัตรพร้อมสำเนาใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) ระดับปริญญาโท จำนวน 1 ชุด (วันที่สำเร็จการศึกษา ภายในวันที่ 20 มีนาคม 2552)
หนังสือรับรองที่ออกโดยผู้บังคับบัญชา/อาจารย์ที่เคยสอน และ/หรือ เพื่อนร่วมงาน จำนวน 3 ฉบับ
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด
หมายเหตุ
มหาวิทยาลัยฯจะยกเว้นการแสดงผลคะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL หรือ IELTS เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติในกรณีใดกรณีหนึ่งหรือทั้งสองกรณี ดังต่อไปนี้
- สำเร็จการศึกษาระดับปรญาตรีและปริญญาโทในต่างประเทศ (ทั้งสองระดับการศึกษา)
- ได้รับการตอบรับเข้าศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศอย่างไม่มีเงื่อนไข
ผู้สมัครมีสิทธิ์สมัครสอบทุนได้คนละ 1 สาขาวิชา เมื่อสมัครแล้วจะขอถอนหรือขอเปลี่ยนสาขาวิชาที่สมัครสอบไว้อีกไม่ได้
ในการสมัครสอบ ผู้สมัครจะต้องตรวจสอบและรับรองตนเองว่ามีคุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัครจริง หากคณะกรรมการได้ตรวจสอบคุณสมบัติจากเอกสารและหลักฐานแล้วปรากฏภายหลังว่าผู้ใดมีคุณสมบัติไม่ตรงตามประกาศรับสมัคร จะถือว่าผู้นั้นเป็นผู้ขาดคุณสมบัติทันที
ผู้สมัครจะต้องกรอกรายละเอียดในใบสมัครให้ชัดเจน ครบถ้วนและถูกต้อง สำเนาหลักฐานทุกฉบับของผู้สมัครต้องเขียนรับรองว่า สำเนาถูกต้อง และลงชื่อ-นามสกุลและวันที่กำกับไว้ด้วย ทั้งนี้มหาวิทยาลัยจะพิจารณาเฉพาะผู้สมัครที่ยื่นเอกสารครบถ้วนตามประกาศนี้เท่านั้น และขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับเอกสารเพิ่มเติมใดๆ หลังจากที่ผู้สมัครยื่นเอกสารแล้วหรือวันที่มหาวิทยาลัยปิดรับสมัครแล้ว
5. การสอบและเกณฑ์การตัดสิน
คณะกรรมการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนศึกษาต่อต่างประเทศ จะพิจารณาความเหมาะสมของผู้สมัคร ดังนี้
พิจารณาใบสมัคร จากประวัติส่วนตัวและประวัติการศึกษาของผู้สมัครเป็นเบื้องต้น
คัดเลือกผู้ผ่านการประเมินขั้นต้นเข้าสอบข้อเขียน วิชาเชาว์ปัญญาและความสามารถในการวิเคราะห์ (Aptitude Test)
พิจารณาผลการสอบข้อเขียนและคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ารับการสอบสัมภาษณ์
การคัดเลือกผู้รับทุนจะพิจารณาจากผลสอบข้อเขียนและความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการไปศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น พื้นความรู้ที่จำเป็นสำหรับการไปศึกษาต่อในสาขาวิชาที่สมัคร ความสามารถทางภาษาอังกฤษ ความตั้งใจจริง ทัศนคติต่อการรับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ และการกลับมาเป็นอาจารย์ ประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ การปรับตัวเข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อม เชาวน์ปัญญา และบุคลิกภาพ อื่น ๆ เป็นต้น
6. การตรวจสุขภาพกายและสุขภาพจิต
ผู้รับทุนต้องไปรับการตรวจสุขภาพร่างกาย ณ โรงพยาบาลของรัฐหรือเอกชนที่มหาวิทยาลัยกำหนดและผู้รับทุนต้องส่งผลการตรวจมายังฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ส่วนการตรวจสุขภาพจิต ผู้รับทุนต้องไปรับการตรวจ ณ โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาเท่านั้น โดยมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้นัดหมายวัน เวลา ให้แก่ผู้รับทุนเข้ารับการตรวจ ทั้งนี้โรงพยาบาลจะส่งผลการตรวจมายังมหาวิทยาลัยโดยตรง
7. การสมัครสถานศึกษาและการเดินทาง
ผู้ได้รับทุนจะต้องสมัครเข้าเรียนในสถานศึกษาตามแผนการศึกษาที่มหาวิทยาลัยได้กำหนดไว้ การติดต่อสถานศึกษาของผู้ได้รับทุน ต้องดำเนินการให้ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของต่างประเทศภายในเวลา 18 เดือน นับจากวันที่สภามหาวิทยาลัยอนุมัติ และต้องเป็นสถานศึกษาที่มหาวิทยาลัยพิจารณาเห็นชอบหรืออยู่ในรายชื่อที่มหาวิทยาลัยกำหนด สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการติดต่อสถานศึกษา การทดสอบทางวิชาการ เอกสาร และอื่น ๆ ตามเกณฑ์ของสถานศึกษาเป็นภาระของผู้รับทุนเองทั้งสิ้น เมื่อสถานศึกษาตอบรับและมหาวิทยาลัยอนุมัติแล้ว จึงจะให้ผู้ได้รับทุนเดินทางไปยังสถานศึกษานั้นๆ
8. การทำสัญญาและข้อผูกพันในการรับทุน
เมื่อผู้ได้รับทุนได้รับอนุมัติสถานศึกษาจากมหาวิทยาลัยให้ไปศึกษาแล้วจะต้องมาทำสัญญาการรับทุน และสัญญาค้ำประกันกับมหาวิทยาลัยให้เสร็จเรียบร้อยตามระเบียบของมหาวิทยาลัย หากไม่มาทำสัญญาในเวลาที่มหาวิทยาลัยนด ถือว่าสละสิทธิ์
ถ้าผู้รับทุนเป็นบุคคลภายนอกจะต้องมาปฏิบัติหน้าที่เป็นอาจารย์ประจำที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนจะเดินทางไปศึกษา ณ สถาบันที่มหาวิทยาลัยอนุมัติ
มหาวิทยาลัยทำสัญญาผูกพันผู้ได้รับทุนให้กลับมาปฏิบัติงานเป็นอาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน
กรณีที่ผู้รับทุนไม่ปฏิบัติตามสัญญา ต้องชดใช้เงินให้แก่มหาวิทยาลัยเป็นจำนวน 2 เท่าของเงินทุนที่มหาวิทยาลัยได้จ่ายไปเพื่อการศึกษาของบุคคลผู้รับทุนนั้น
ในกรณีที่ผู้รับทุนกลับมาปฏิบัติงานไม่ครบจำนวนตามสัญญา ให้ลดเงินที่จะต้องชดใช้ลงตามส่วน
9. การเพิกถอนการให้ทุน
มหาวิทยาลัยจะพิจารณาเพิกถอนการให้ทุนแก่ผู้ได้รับทุน หากเข้ากรณีใดกรณีหนึ่ง ดังนี้
ไม่ผ่านการตรวจสุขภาพกายและสุขภาพจิต
หลีกเลี่ยง ละเลยการรายงานตัว การอบรม และการทำสัญญาตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
มีเหตุอันควรเชื่อว่าไม่เหมาะสมแก่การเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงกำหนดการเดินทางไปศึกษาต่อ ภายหลังจากที่มหาวิทยาลัยอนุมัติสถานศึกษาแล้ว
กรณีไม่ได้รับการตอบรับเข้าศึกษาจากสถานศึกษาที่จะไปศึกษาต่อ ภายในระยะเวลา 18 เดือน นับแต่วันประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับทุน
กรณีเดินทางกลับมาประเทศไทย โดยไม่ได้รับอนุมัติจากหัวหน้าหน่วยงานและอธิการบดี
กรณีที่ผู้ได้รับทุนขาดการติดต่อกับคณะวิชาต้นสังกัดเกิน 1 ปี
*** ผู้สมัครที่ผ่านการสอบคัดเลือกในครั้งนี้ จะเป็นผู้มีสิทธิ์สอบคัดเลือกเพื่อรับทุนโครงการ Fulbright-UTCC University Staff Development Program ด้วย ดังนั้น หากผู้ใดมีความประสงค์จะสมัครรับทุนในโครงการดังกล่าว ขอให้เตรียมผลสอบ TOEFL ให้พร้อม เพื่อเป็นเอกสารประกอบการสมัครในเดือนพฤษภาคม 2552 ***
10. ข้อตกลงในการรับสมัคร
ผู้สมัครจะต้องกรอกรายละเอียด (โดยการพิมพ์เท่านั้น) ในใบสมัครให้ชัดเจน ครบถ้วนและถูกต้อง
สำเนาหลักฐานทุกฉบับของผู้สมัครต้องเขียนรับรองว่า สำเนาถูกต้อง และลงชื่อ-นามสกุลและวันที่กำกับไว้ด้วย มหาวิทยาลัยจะพิจารณาเฉพาะผู้สมัครที่ยื่นเอกสารครบถ้วนตามประกาศนี้เท่านั้น
มหาวิทยาลัยขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับเอกสารเพิ่มเติมใดๆ หลังจากที่ผู้สมัครยื่นเอกสารแล้วหรือวันที่มหาวิทยาลัยปิดรับสมัครแล้ว
ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม หรือดาวโหลดใบสมัครได้ที่ : www.utcc.ac.th