ร้ายนักรักนี้...My destiny of love

ร้ายนักรักนี้...My destiny of love

ร้ายนักรักนี้...My destiny of love
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ชื่อหนังสือร้ายนักรักนี้...My destiny of love
เขียนโดยVanillasky
ISBN978-974-05-5600-8
จำนวน288 หน้า
ราคา

195 บาท

นี่มันเวรกรรมอะไรของฉันกันนะ ?
วันแรกของการเปิดเทอม...กลับกลายเป็นวันแรกของการมีศัตรู
ฉันน่ะ บีบี สาวน้อยผู้รักสงบ ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใครทั้งนั้นนะ
แล้วทำไม...กะอีแค่ฉันไปมีเรื่องกับ นายจัสติน นิดๆ หน่อยๆ
แค่ฉันไม่อยากพูดคำว่า ขอโทษ (ก็อยากมาว่าฉัน เห่ย ก่อนนี่นา)
แค่ฉันไม่รู้ว่านายจัสตินเป็นถึงปริ๊นซ์มหาวิทยาลัย(ก็ไม่รู้จริงๆ นี่นา)
แล้วทำไม...หมอนั่นถึงต้องไม่คืนบัตรประจำตัวนักศึกษาที่ฉันทำตกไว้ด้วย
แถมยังประกาศก้องต่อหน้าเพื่อนๆ ของฉันอีกว่า ถ้าอยากได้คืนล่ะก็...
เป็นเบ๊ฉันสามเดือนจนกว่าจะถึงวันสอบวันแรก!!
เฮ้ย!! จะบ้าเหรอ ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งนายด้วย
แต่แล้ว...คำตอบของฉันก็คือ ฉันยอมเป็นเบ๊ - -
และการตัดสินใจครั้งนั้น...ก็ทำให้ฉันต้องถูก เดย์
ผู้หญิงที่เคยควงกับนายจัสตินตามรังควานได้ไม่หยุดหย่อน
และด้วยความรำคาญยัยเดย์...และหมั่นไส้นายจัสตินสุดๆ
ฉันจึงเผลอหลุดปากพูดออกไปบ้างว่า...
จะโค่นยัยเดย์จากตำแหน่งปริ๊นเซสมหาลัยให้ได้
เอ่อ...แล้วยัยเฉิ่ม เปิ่น โก๊ะ อย่างฉันจะเอาอะไรไปสู้กับเค้าเนี่ย
ความซวยมาเยือนแล้วสิ...ยัยบีบีเอ๊ย!!

ตัวอย่างตอนที่1

1

"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"
เสียงความดัง 800 เดซิเบลดังไปลั่นบ้าน ทำเอายัยน้องสาวตัวดีของฉันสำลักนมที่เพิ่งจะกินเข้าไป และสิ่งที่ตามมาจากเสียงกรี๊ดของฉันคือ
"ไอ้เจ๊ จะกรี๊ดหาพระแสงอะไร ใครเหยียบหาง!"
นั่นแหละปากน้องสาวฉัน ยัยบุ๋ม มันชอบด่าฉันรับอรุณเสมอ
"โหย....พูดจาผู้หญิงสุดๆ ไอ้ตัวแสบ ปลุกป่าป๊าไปสนามบินได้ แล้วทำไมไม่ปลุกเจ๊เนี่ย เจ๊ไม่อยากสายตั้งแต่วันแรกนะเฟ้ย น้ำใจน่ะมีมั้ย สะกดเป็นป่ะ" ฉันเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการด่าน้องสาวฉันประเดิมเหมือนทุกๆ วัน ก็ดูปากมันสิ จะให้ชมหรือไง ทั้งที่วันนี้เพิ่งเปิดเทอมแท้ๆ ทำไมไม่มีใครปลุกฉันเลยล่ะ ฉันไม่อยากไปสายตั้งแต่วันแรกนะ TT^TT ฮือๆๆๆๆๆ
แล้วระหว่างที่ฉันกำลังด่าน้องอย่างเมามัน อะไรบางอย่างก็ลอยมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
โป๊ก..!!
เสียงมะเหงกพิฆาตของหม่าม้าประเคนมาบนหัวฉัน เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปสามบ้านแปดบ้าน แต่ที่หนักที่สุดคือตอนนี้ฉันเจ็บจนแทบจะลืมไปเลยว่าตัวเองชื่ออะไร อยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรอยู่
"เจ็บนะหม่าม้า มาเขกหัวบีทำไม" ฉันหันไปมองหน้าแม่ แล้วก็พบกับหน้าอันสวยสยอง แยกเขี้ยวยืนอยู่ด้านหลัง แง้...อย่ากินหนูนะ
"เจ็บสิดี รู้มั้ยว่าม้าปลุกเรา 3 รอบแล้ว"
"บุ๋มก็ปลุกแล้ว 5 รอบ แถมโดนถีบกลับด้วย"
ได้ทีเอาเชียวนะ ยัยน้องตัวดี ใครขอความคิดเห็นของแกเนี่ย!!!
"โม้ป่าว ทำไมบีไม่ตื่นเลยอ่ะ" จริงๆ นะ ฉันไม่รู้สึกเลยว่ามีใครปลุก
"ก็ขี้เซาซะขนาดนี้น่ะสิ ถ้าให้เราเฝ้าบ้านนะ ขโมยขึ้นบ้านยังไม่รู้เรื่องเลยมั้ง"
"เว่อร์ไปป่าวม้า"


"พูดมากแล้วเจ๊ เรียนกี่โมงเนี่ย เอาแต่ยืนฝอยอยู่ได้ ไปสายอย่ามาโทษเค้าละกัน ม้า...บุ๋มไปแล้วนะ ขี้เกียจฟังเจ๊บ่น" พูดจบยัยน้องสาวตัวดีก็เดินย่ำออกจากบ้านไปอย่างสบายอารมณ์
ใช่สิ วันนี้นักเรียนผู้ชายที่โรงเรียนไปเรียนร.ด. เลยไปสายได้ ไม่มาเรียนมหาวิทยาลัยบ้างให้มันรู้ไป ไว้แกมาเรียนข้ามจังหวัดอย่างฉันเมื่อไหร่นะ ฉันจะคอยดูว่าแกจะเป็นแบบฉันมั้ย ฮึ่ม....
"บี ไปอาบน้ำ เดี๋ยวม้าทำขนมปังให้ นี่ 7 โมงครึ่งแล้วนะ เรียน 9 โมงใช่มั้ย เร็วๆ หน่อย"
เสียงแม่ดังมาปลุกสติสตังฉันให้รู้ตัวว่าไม่ควรยืนบื้อเป็นสากกะเบืออยู่ตรงนี้ เพราะสายมากแล้ว
"ค่าาาาาาาาาาาาาาา" ฉันขานรับพร้อมใส่เกียร์ ทำทุกอย่าง อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัว ด้วยเวลาสถิติใหม่ที่โลกต้องจารึก 15 นาที (แกใช่ผู้หญิงป่าวเนี่ย!!)
ใครมาเห็นสภาพฉันตอนนี้คนมองว่ายัยบ้านี่หลุดมาจากไหน ผู้หญิงที่ดูไม่เฉียดความเป็นผู้หญิงเอาซะเลย ในเสื้อนักศึกษาพอดีตัว กระโปรงยาวครึ่งแข้ง หัวกระเซิง ใส่รองเท้าผ้าใบโทรมๆ และกระเป๋าสไตล์ติสท์ๆ ขนาดยัดคนเข้าไปได้ทั้งคน เหอๆๆๆ นี่แหละชุดเก่งของฉัน บีบี นางสาวมินทิรา อนนท์ศิริพร นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ปี 2


"หม่าม้า ขนมปังบีล่ะ เร็วๆ หน่อยสิคะ บีสายแล้วนะ"
แม่หันกลับมาหยิบขนมปังให้ฉัน สายตาแม่ที่มองฉันทำให้ฉันเข้าใจถ่องแท้ในคำว่า 'เอือมระอา'
"บี เมื่อไหร่จะทำตัวเป็นผู้หญิงกะเค้าสักทีเนี่ย ดูแต่งตัว เรียนมหาวิทยาลัยออกจะดี ทำไมทำตัวเป็นเด็กเพิ่งผ่านสงครามมาแบบนี้ล่ะ"
"ม้าไปว่าไอ้บุ๋มเหอะ ดูมันดิ ทำตัวยังกะทอมไม่เห็นว่า" ฉันพูดขณะยัดขนมปังเข้าปาก ก็จริงๆ นี่นา น้องฉันมันเป็นผู้หญิงแต่ตัวก็จริง แต่ใจมันนี่แมนเกินร้อยเลย
"น้องเรามันแต่งตัวดี ทำตัวดูดี แล้วเราน่ะ ทำตัวดูได้ที่ไหน"
"ไม่เอาล่ะ บีสายแล้ว ไปเรียนแล้วนะ ไม่อยากฟังหม่าม้าเทศน์รับขวัญแต่เช้า"
"เอ๊ะ ยัยบี...."
แล้วฉันก็ใส่ตีนผี 8x400 เมตรวิ่งออกจากบ้านมา... อย่าให้แม่ฉันบ่นนะ เริ่มบ่นที บ่นจนลูกโตเลยล่ะ

ฉันวิ่งไปที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ข้างหน้าบ้าน พระเจ้าช่วยกล้วยทอด....รถติดวิบัติเลยแฮะ ท่านนายกขา เมื่อไหร่จะแก้ปัญหาซะทีเนี่ย งั้นขึ้นรถไปทางด่วนดีกว่า รถมาพอดีเลย ฮิๆ พระเจ้าเข้าข้างฉันเสมอแหละ และแล้วด้วยเวลา 20 นาที ฉันก็มาถึงท่ารถตู้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล มีเวลาอีก 50 นาที สบายๆ นั่งรถตู้แค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงมหาวิทยาลัยแล้ว
"รถเต็มพอดี รออีกประมาณครึ่งชั่วโมงนะ"
"ตุบ...O-o..OoO.T^T" นี่แหละหน้าฉัน พระเจ้าขา หนูเพิ่งขอบคุณท่านไปเมื่อกี้ ท่านตอบแทนคำขอบคุณของหนูแบบนี้ได้ไง


ฉันรีบคว้ากระเป๋าที่ทำตกเพราะความช็อคขึ้นมาก่อน ทำไงดีๆๆๆ ฉันไม่อยากไปสายตั้งแต่คาบแรกนะ เดี๋ยวอาจารย์มองว่าไม่มีความรับผิดชอบพอดี ฮือๆๆๆๆๆ คะแนนจิตพิสัยก็จะอด คิดดิ ทำไงดี
และแล้วความคิดอันชั่วร้ายของฉันก็บังเกิด เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ฉันมองหาคนผู้โชคร้าย และใช้อำนาจความเป็นรุ่นพี่ (ก็ฉันเรียนปี 2 นี่นา)
อืม........เจอแล้ว หนุ่มผู้โชคร้าย นั่งหน้าซะด้วย ยิ่งสบายใหญ่ โทษทีนะน้อง
แกร๊ก... !!
"เอ่อ น้องคะ น้องเรียนกี่โมงคะ" น้องคนนี้ท่าทางน่ารักแฮะ ผิวขาว ผมสีน้ำตาลโค้ก ถ้าไม่ติดว่าไม่มีเวลานะ แม่จะขอเบอร์เลย
น้องเค้าทำหน้างง จะงงทำไม พี่ถามภาษาคนนะคะ
"10.30 ครับ"
"งั้นพี่ขอไปก่อนนะ พี่เรียน 9 โมง" พรึ่บ..!! ฉันกระชากน้องเค้าลงทันที
"เฮ้ย @&%$^&(*)(&)^^(*_))+&$ "
จะด่าอะไรด่าไปเถอะ ไม่สน ฉันจ่ายตังค์แล้วปิดประตูล็อกทันที
"ลุงออกรถเลยค่ะ"
"เอางั้นก็ได้ แต่มีเรื่องไปเคลียร์เองนะ ยัยบีบี ลุงไม่เกี่ยว"
"โห...ลุง มือระดับนี้ เรื่องไม่เกิดหรอกค่ะ"
แล้วลุงขับรถที่แสนดีก็ออกรถให้ทันที เหอๆๆๆ สนิทกะคนขับย่อมได้เปรียบ อืม....เสียดายฉันไม่ได้มองหน้าน้องเค้าชัดๆ ท่าทางน่ารักดีซะด้วย แต่ก็ดีแล้วแหละ จะได้จำหน้าไม่ได้ ฉันยิ่งออกจะบอบบาง(ซะที่ไหน) แต่ท่าทางเค้าจะโมโหน่าดูเหมือนกันนะ แต่...ช่างมัน ทำไงได้อ่ะ ฉันรีบนี่นา ว่าแล้วฉันก็เอากระเป๋าขึ้นมาดูห้องที่ต้องเรียน OoO กรรมแล้วไง....กระเป๋าไม่ได้รูดซิป หวังว่าคงไม่มีอะไรหล่นหายไปหรอกนะ

รถตู้มาถึงมหาวิทยาลัยภายในครึ่งชั่วโมง ฉันรีบใส่ตีนสุนัขทันที เรียนตั้งชั้น 4 ไม่รีบไม่ทันแน่ๆ โกยสิโยม อุตส่าห์ยอมทำเรื่องเลวร้ายมาแล้ว จะรอให้เข้าห้องสายทำไม คอยอยู่ไย...ไปโลด
"ไอ้บี ไปไหน"
เสียงใครมาเรียนฉันเอาเวลานี้นะ ไม่เห็นหรือไงว่าคนกำลังรีบ ฉันหันกลับไปมองและเตรียมอ้าปากด่า แต่คนที่เรียกฉันคือ...
"อ้าว มิ้นท์ ต่าย เฟิร์น ทุกคน โห.....อยู่กันครบเลย ไม่ไปเรียนเหรอ ได้เวลาแล้วนะ เดี๋ยวอาจารย์เช็คชื่อก็โดนเช็คเข้าสายหรอก" นี่มันบรรดาเพื่อนกลุ่มฉันที่เรียนห้องเดียวกันนี่นา ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ
"อ้อ อาจารย์ยกเลิกคาบเรียนน่ะ พอดีติดปัญหาทางทะเบียนนิดหน่อย" เสียงยัยมิ้นท์ เพื่อนซี้สุดกวน
ของฉันตอบอย่างร่าเริง
ยกเลิกคาบ ? แล้วที่ฉันรีบนี่เพื่ออะไรเนี่ย
"แล้วทำไมพวกแกไม่โทร.บอกฉัน"
"ลืมน่ะ ^-^"
"เหรอ แกรู้มั้ยว่าเพราะแก ฉันเลยสร้างศัตรูตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียน
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนะ ขอแนะนำเพื่อนๆ ในกลุ่มของฉันก่อนแล้วกัน คนแรก ยัยมิ้นท์ ผู้ที่ครองตำแหน่ง ยัยเตี้ยประจำกลุ่ม ด้วยความสูงที่สุทธิแล้วแค่ 150 ซ.ม.หรือน้อยกว่านั้น ยัยนี่ตามจองล้างจองผลาญฉันมาตั้งแต่ ม.ปลาย จนมามหาวิทยาลัย มันก็ยังตามฉันมาอยู่ดี คล้ายๆ ยัยกระต่ายและใบเฟิร์น แต่ยัยพวกนี้อยู่นานกว่านั้นอีก ตามกันมาตั้งแต่ประถมโน่นแน่ะ แต่เฟิร์นแยกกันตอนมัธยม ส่วนต่ายเข้าที่เดียวกันแต่ไม่เคยได้อยู่ห้องเดียวกันเลย สุดท้ายก็มาเจอกันในมหาวิทยาลัยนี่แหละ
เฟิร์นเป็นสาวเรียบๆ ร่าเริง แต่มีเสน่ห์มากๆ หนุ่มชอบตรึม แต่คุณเธอเรียบร้อยอย่างกับผ้าพับไว้ เฮ้อ...ในตู้เสื้อผ้ายัยนี่นะ หาสิ่งที่เรียกว่ามินิสเกิร์ตกับเสื้อสายเดี่ยว แขนกุดไม่เจอเลย มีแต่กระโปรงยาว เปรี้ยวสุดๆ ก็แขนสั้น ที่เหลือเหรอแขนยาวค่ะ อากาศเมืองไทยร้อนเหงื่อตกขนาดไหน คุณเธอก็ขอใส่แขนยาวไว้ก่อน
ผิดกับยัยกระต่าย สาวตัวป้อมๆ แต่น่ารักมีนิสัยที่แสนจะแก่นแก้ว ร่าเริงได้ทุกเวลาและสถานการณ์ แต่ยัยนี่น่ะ เพื่อเพื่อนทำได้เสมอ และอย่าให้ใครเห็นสองคนนี้โมโหนะ บอกได้คำเดียว...นรก -_-"
ส่วนฟองทราย คนนี้เอ๋อสุดๆ เปิ่นตลอดเวลา แต่ด้วยรูปร่างที่สูงโปร่ง หน้าตาที่มักจะเป็นฝ่ายเลือกมากกว่าฝ่ายถูกเลือก จึงทำให้ใครๆ ว่าอะไรไม่ลง ถึงเธอจะเซ่อร์ เหวิ่ง เอ๋อ ขนาดไหเลยนะว่าไปทำเรื่องอะไรมาอีก เพิ่งเปิดเทอมก็ประเดิมเลยนะ ถ้าแกไม่ได้มีเรื่องนี่นอนไม่หลับใช่มั้ย แม่แกให้แกเกิดมาถูกเพศรึเปล่าเนี่ย"
แดกดันเก่งแบบนี้ ยกให้เอ็กซ์มันเลย
"ก็ไม่มีไรมาก แต่ฉันกระชากคนที่เรียน 10 โมงลงจากรถแล้วฉันก็ขึ้นรถมาแทน แค่นั้นแหละ"
"OoO.-O- -_-a"
"ไหง...ทำหน้างั้นอ่ะ" แกจะตกใจอะไร น่าจะชินได้แล้วนะ
"เอ่อ.......บีบี"
"มีไร ทราย เรียกทำไม กลัวลืมชื่อหรอ"
"ป่าว แต่คนที่แกกระชากลงจากรถน่ะ เป็นผู้ชายใช่มั้ย"
" แกรู้ได้ไง"
"ย้อมผมสีน้ำตาลโค้กด้วยใช่มั้ย"
"เห็นแวบๆ น่าจะใช่มั้ง"
"ผิวขาวๆ ใช่มั้ย"
"ใช่ แกรู้ได้ไง ไปเรียนดูหมอมาเหรอไง" ฉันถามอึ้งๆ
"จะไม่รู้ได้ไง ก็..........."
"ก็ไรของแก อ้ำอึ้งอยู่ได้"
"เพราะฉันยืนอยู่ข้างหลังเธอไง ยัยตัวแสบ! "

ตอนที่2

2

เฮือก...!!
เสียงลือเสียงเล่าอ้างของผู้ใดดังมาจากข้างหลังฉัน ซวยแล้วไง อย่าบอกนะว่า.....
"เอ่อ คุณมินทิราครับ กรุณาหันมามองหน้าคนที่คุณเรียกว่า น้อง แล้วถือวิสาวะกระชากลงจากรถได้มั้ยครับ พอดีอยากจะแก้ไขอะไรเล็กน้อยน่ะครับ"
แม่เจ้า ลางสังหรณ์ฉันแม่นสุดๆ ไอ้น้องคนนั้นมันมามหาวิทยาลัยเร็วขนาดนี้ได้ไงเนี่ย ฉันค่อยๆ รวบรวมความกล้าหันไป และสิ่งที่ฉันพบ......พระเจ้า ผู้ชายอะไรเนี่ย หล่อลากดิน หล่อแบบเกินคน ขาว ตี๋ คิ้วเข้ม ผมซอยมาแบบทรงดาราเกาหลีสีน้ำตาลโค้กเลย สูงซัก 185 ได้มั้งเนี่ย มายืนประจันหน้ากันแบบนี้ ฉันที่สูง 158 กลายเป็นยัยเตี้ยไปเลย
"นี่ ยัยเห่ย คนที่เธอเรียกว่าน้องน่ะ เค้าแก่กว่าเธอรู้มั้ย ฉันเรียนปี 3 แล้วเธอกล้าดียังไงมาทำแบบนี้กับฉัน"
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก ปากหรือนั่น ยัยเห่ย งั้นเหรอ หยาบคายที่สุด
"แล้วไง ก็ฉันรีบนี่ แค่นี้นายมีสิทธิ์มาว่าฉันขนาดนี้ด้วยหรือไง เกินไปรึเปล่า เอ๊ะ!!! เดี๋ยวก่อน แล้วนายรู้ชื่อและปีที่ฉันเรียนได้ไง"
"อ้อ พอดีฉันเก็บอะไรดีๆ ได้บนพื้นที่ท่ารถตู้น่ะ"
นายนั่นโชว์บัตรอะไรสักอย่างขึ้นมา คุ้นๆ นะ เอ๊...เฮ้ย!! นั่นมันบัตรประจำตัวนักศึกษาของฉันนี่นา
"มันตกอยู่เหรอ สงสัยตอนฉันทำกระเป๋าตกมั้ง ขอบใจนะที่เอามาคืน -_-^" ฉันฉีกยิ้มเต็มที่แล้วยื่นมือไปคว้าทันที ถึงมันจะดูหน้าด้านก็เถอะ
พรึ่บ...!! โห....ไวปานวอก ตานั่นเก็บเข้ากระเป๋าไปเฉยเลย
"นี่นาย เอาคืนมานะ นายจะเอาไปทำไม"
"ง่ายไปมั้ง เธอทำกับฉันแบบนั้นแล้วจะให้ฉันคืนง่ายๆ เหรอ ฝันไปรึเปล่า ยัยเพี้ยน"
"แล้วนายจะเอายังไง คนมันรีบนี่นา"
"รีบแล้วมายืนทำอะไรที่นี่"
"อาจารย์ยกเลิกคลาส แล้วทำไม นายจะมีเรื่องใช่มั้ย ฉันสู้คนนะ อย่าคิดว่าจะรังแกได้ง่ายๆ" ฉันตั้งการ์ดทันที อย่านะ ฉันสู้นะเฟ้ย ฉันเคยเป็นนักกีฬาเทควันโด้นะ แค่นายไม่ครณามือฉันหรอก
"ขอโทษฉันซะ ขอโทษดีๆ ง่ายๆ แล้วฉันจะยกโทษให้"
"ไม่มีทาง นายเสียมารยาทกับฉัน ว่าฉันเห่ย นายยังไม่ขอโทษฉันเลย"
"ฉันพูดตามความจริง"
"นาย....ก็ได้ ฉันไม่เอาก็ได้ ทำใหม่ก็สิ้นเรื่อง" ใครจะง้อ ทำบัตรใหม่แค่ร้อยเดียว ฉันยอมเสียเงินดีกว่าเสียศักดิ์ศรีเฟ้ย
"เอ่อ บีบี...."
"อะไรต่าย คนกำลังเครียด" ยัยนี่ไม่รู้เวล่ำเวลาเอาซะเลย
"เปิดเทอม เค้ายังไม่ให้ทำหรอกนะ เพราะเค้าต้องทำของบัตรประจำตัวน้องปี 1 น่ะ แล้วทำใหม่ก็ 2 เดือนกว่าเลยนะกว่าจะได้ แต่เราต้องสอบกันอีก 3 เดือนข้างหน้า เธออาจจะไม่มีบัตรประจำตัวเข้าสอบนะ"
จริงดิ ฉันลืมได้ไงเนี่ย ไม่มีบัตรประจำตัวเข้าสอบ เสียวิชาละ 1,000 บาท 6 วิชา 6,000 บาท ตายๆๆๆ ตายแน่ๆ ทำไงดี ฉันไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นนะ แต่ให้ขอโทษอีตาขี้เก๊กนี่ก็เสียฟอร์มหมด ทำไงดีๆๆๆๆ ฮือๆๆๆๆ
"เธอจะเอายังไง"
"ฉัน......."
"เธอไม่ต้องขอโทษก็ได้นะ เพราะท่าทางคนอย่างเธอจะปากหนักพอดูเลยแหละ"
"แล้วนายจะคืนให้ฉันหรอ ขอบใจ นายนี่เป็นคนดีกว่าที่คิดนะเนี่ย"
" 3 เดือน จนกว่าจะถึงวันสอบวันแรก"
"อะไรของนายน่ะ ฉันไม่เข้าใจ"
"เป็นเบ๊ฉันสามเดือนจนกว่าจะถึงวันสอบวันแรก"
" ไม่มีทาง นายเป็นใครเนี่ย มีสิทธิ์อะไรมาสั่งคนอื่นแบบนี้น่ะ หา...!"
"นี่เธอไม่รู้จักฉันหรือไง"
"แล้วทำไมฉันถึงต้องรู้จักนาย"
"ถ้าเธอพูดจาแบบนี้อีกทีนะ ฉันจะหักบัตรประจำตัวของเธอทิ้ง"
หนอย...ไอ้บ้า คิดว่าแค่นี้จะขู่ฉันได้เหรอ คิดว่าคนอย่างบีบีจะยอมหรือไง
"เอ่อ...แล้วพี่จะเอายังไงไม่ทราบค่ะ" (แน่มากเลยนะ...หล่อนน่ะ)
"อย่างที่บอก ฉันต้องไปเรียนแล้ว มาเจอฉันที่หน้าตึกใหญ่ตอนเที่ยง ถ้าสายเธอมีเรื่องแน่ แต่ถ้าเธอไม่มา ก็เตรียมเงินไปทำเรื่องเข้าสอบแล้วกัน" หมอนั่นหันหลังเดินกลับไป และหันหลังมาใหม่พร้อมกับพูดด้วยเสียงที่เบากว่าประกาศด้วยไมโครโฟนนิดเดียวว่า "นี่...พวกน้องเป็นเพื่อนยัยนี่ใช่มั้ย พายัยนี่ไปจัดการสารรูปด้วยนะ ถ้ายังมาสภาพเดิม ฉันจะขว้างบัตรประจำตัวเธอทิ้งทันที ฉันไม่อยากมีเบ๊ทุเรศแบบนี้"
ไอ้บ้าเอ๊ยยยยย!! ไม่อยากมีก็ไม่ต้องสั่งสิวะ ทำเป็นวางอำนาจ
แต่...ทำไงดีล่ะ เบ๊ 3 เดือน กับเงิน 6,000 บาท
"บีบี แกจะเอาไง"
"ฉันตัดสินใจแล้วล่ะ เป็นเบ๊คนแบบนั้น กับเงินแค่ 6,000 บาท"
"ใจเด็ดมาก แกยอมเสียเงินใช่มั้ย" ตาเอ็กซ์ทำหน้าตาตื่นที่สุด
"บีบี สุดยอดมาก ทรายนับถือเลย"
เอ่อ...คือ
"เปล่า ฉันยอมเป็นเบ๊"
ทำไมแค่ฉันตอบแค่นี้ต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย เงินตั้ง 6,000 บ้านฉันไม่ได้พิมพ์แบงค์นะ
"ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นเลย พวกแกจะช่วยฉันมั้ย"
"ช่วยอะไรล่ะ" เฟิร์นถามขึ้นมาหลังจากปิดปากเงียบเป็นหอยกาบอยู่นาน
"ก็....จัดการสารรูปฉันไง ไม่รู้จะจัดการอะไรเหมือนกัน มีอะไรให้จัดการไม่รู้"
"แต่พวกฉันรู้"
โอ้โห.....ประสานเสียงเซอร์ราวนด์เลยนะ ไอ้เพื่อนรักทั้งหลาย
"ว่าแต่....บีบี แกไม่รู้จริงๆ เหรอ ว่าพี่เค้าเป็นใคร" ยัยต่ายถามขึ้นมา
"ไม่รู้ แล้วอีตาบ้านั่นเป็นใครล่ะ"
"ไอ้บ้า เค้าชื่อพี่ จัสท์ หรือ จัสติน ปริ๊นซ์มหาวิทยาลัย 2 ปีซ้อน แถมการเรียนติดอันดับต้นๆ ของมหาวิทยาลัยแทบทุกเทอมเลยนะ แกนี่เคยสนใจอะไรมั้ยเนี่ย"
"สนไปแล้วได้ตังค์มั้ยล่ะ"
"ช่างเถอะ พี่เค้านัดเที่ยงตรง เรามีเวลาแค่ชั่วโมงครึ่งนะ ไปหอของฟองทรายเถอะ จะได้จัดการสารรูปแกไง ท่าทางจะนานนะ" มิ้นท์ทำหน้าระรื่นบอกมา
นานยังไง ถามจริง...สภาพฉันมันดูไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรือไง พวกแกเลยต้องทำหน้าดีใจขนาดนั้นที่จะได้เปลี่ยนสารรูปฉันเนี่ย
"แล้วแกจะทำยังไงล่ะ" ฉันถามด้วยความงง
"เดี๋ยวทรายไปขอยืมกระโปรงเข้ารูปของรุ่นพี่มาให้นะ"
"กระโปรงเข้ารูป อี๋.....ไม่เอาง่ะ จะเดินจะนั่งลำบากจะตาย"
"ใครขอความเห็นแก นี่มันหน้าที่พวกเรานะ" ไอ้ต่ายว่า
"เดี๋ยวมิ้นท์ขอเป็นคนแต่งหน้าให้เอง"
"ต่ายขอทำผมนะ"
"เดี๋ยวเฟิร์นไปหารองเท้ากับกระเป๋าให้ เฟิร์นมีเพื่อนที่แต่งตัวเก่งๆ แล้วอยู่หอหลายคน"
"งั้นเดี๋ยวไปหาพวกตุ้มหู สร้อย กำไลมาให้นะ แถวมหาลัยมีขายแน่นอน ฉันยอมทุ่ม ถ้ายัยนี่คิดจะแต่งตัวเหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้าสักที"
"โอ้ยๆๆๆๆ...พอได้แล้ว พวกแกจะบ้ารึเปล่า ฉันไปเป็นเบ๊นะ ไม่ได้ไปประกวดนางงาม แกจะทุ่มทุนสร้างไปถึงไหน
"หุบปาก!"

แล้วไอ้เพื่อนฉันก็ไม่พูดเปล่า ทุกคนกระจายไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้วมาเจอกันที่หอยัยทราย ยัยนี่น่ะบ้านไกล เลยอยู่หอ แถมเป็นหอรวมนอกมหาวิทยาลัยอีก
"บีบีไปอาบน้ำสระผมก่อนนะ จะได้ทำผม แต่งหน้าง่ายๆ" ยัยทรายออกคำสั่งทันที
"ได้ กำลังร้อนพอดีเลย"
15 นาทีต่อมา ฉันก็ออกมาจากห้องน้ำ โห......เครื่องแต่งตัวครบออพชั่นเลย ทั้งตุ้มหู สร้อย กำไลที่เข้าเซ็ทกัน รองเท้า(ส้นไม่สูงมาก) สีชมพู กระโปรงเข้ารูปที่...สั้นไปรึเปล่า ยาทาเล็บและอีกสารพัด
"บีบี นั่งลง" ยัยกระต่ายสั่งทันทีที่เห็นฉันทำหน้าแหย
"นี่ บีว่านะ บีไม่อยากยืมของจากคนอื่นอ่ะ ไม่ต้องแต่งขนาดนี้ก็ได้มั้ง"
"ไม่ต้องห่วง พวกเราไปยืมของจากคนที่บีรู้จักมาน่ะ แค่เฟิร์นกับทรายบอกว่าจะแปลงโฉมบีบีเท่านั้นแหละ ก็บอกว่ายกให้เลย แต่ต้องแปลงโฉมบีบีให้ได้เท่านั้นเอง เค้าบอกไม่ต้องสวยเลิศ แค่เหมือนให้คนก็พอ"
ให้เหมือนคนก็พอ... ใครพูดเนี่ย สภาพฉันแย่ขนาดไม่เหมือนคนเลยหรือไง
และแล้ว...ความสนุกสนานของพวกเพื่อนตัวแสบแต่เป็นนรกของฉันก็บังเกิดขึ้น ยัยต่ายจัดการเป่าผมฉันให้แห้งและดัดมันจนเป็นลอนแบบที่กำลังนิยม ทรายจัดการทาเล็บให้ฉัน สีชมพูอ่อนหวานแหวว แต่ฉันว่ามันหวานจนแหวะมากกว่า มิ้นท์มาแต่งหน้าให้ด้วยลงรองพื้นบางๆ เขียนขอบตา ทาปาก ปัดแก้ม บอกตามตรง..น่ารำคาญสุดๆ พวกผู้หญิงทำไมชอบทำอะไรยุ่งยากนะ(แล้วแกเป็นผู้ชายหรือไง!!) หลังจากนั้น ที่คาดผมรูปมงกุฎติดเพชรสีชมพู และตุ้มหู สร้อยคอ กำไล ก็ถูกใส่ลงมาบนตัวฉัน
"อืม.......เยี่ยม"
ทุกคนทำหน้าพึงพอใจ แต่ฉัน...ไม่เลย สภาพฉันที่มีแต่เครื่องประดับสีชมพูหวานแหววบนตัวจนฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมือนลูกกวาดเดินได้ แถมกระโปรงก็เหนือเข่ามาครึ่งคีบ อี๋...เดินก็ลำบาก รองเท้าก็นะ สภาพฉันตอนนี้มันเป็นยังไงเนี่ย กระจก...กระจกอยู่ไหน
"เห็นมั้ย ฉันว่าแล้ว ม้าดีดกะโหลกแปลงร่างได้จริงๆ ด้วย" เอ็กซ์พูดขึ้นมา
ฉันหันไปมองตัวเองในกระจก โอ้...สวรรค์เป็นพยาน นี่ฉันจริงๆ เหรอเนี่ย!! ผู้หญิงในกระจกมันคนละคนกับฉันชัดๆ ผู้หญิงคนนั้นมีรูปร่างที่สมส่วน ไม่ผอม ไม่อ้วน ถูกแต่งด้วยเครื่องสำอางบางๆ ตกแต่งด้วยเครื่องประดับสีชมพู ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ อย่างกับเพื่อนฉันเป็นนางฟ้าเสกให้ฉันกลายเป็นซินเดอเรล่าอย่างงั้นแหละ เกิดมา 20 ปีเพิ่งจะรู้สึกว่าตัวเองดูดีก็วันนี้เอง
"นี่... บีบี จะเที่ยงแล้วนะ รีบไปเถอะ เจอกันที่ห้องนะ" เฟิร์นเตือนสติฉันที่กำลังตะลึงกับภาพตัวเอง
"บีต้องไปจริงๆ เหรอ"
"ถ้าแกไม่ไปแกก็ต้องเสียตังคตามลำพัง เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ฉันเดินไปที่หน้าตึกใหญ่ทันที ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เปิดเทอมนะ พระเจ้า....เล่นตลกอะไรกับลูกคะเนี่ย

พอฉันเดินไปถึง ก็เห็นอีตาพี่จัสท์นั่งรออยู่พอดี อะไรจะตรงเวลาขนาดนั้น
"เอ่อ......" จะทักว่าอะไรดี ถ้าทักไม่เข้าหู แล้วพี่แกขว้างบัตรประจำตัวฉันทิ้ง ฉันจะทำไง
"มีธุระอะไรกับผมรึเปล่าครับ"
อีตานั่นพูดแล้วยิ้มชนิดผู้หญิงเห็นแล้วอยากละลาย แต่ฉันอยากถีบให้กระเด็น แกจำฉันไม่ได้หรือไง ไอ้ขี้เก็ก!!
"นายเป็นคนนัดฉันมาเองนะ ทำเป็นจำไม่ได้ แก่แล้วก็งี้แหละ ความจำสั้น"
เธอ.....ยัยเห่ยที่ชื่อบาบ้า อะไรนั่น น่ะนะ"
"ฉันชื่อบีบี อีตาบ้า อย่ามาเปลี่ยนชื่อฉันนะ"
"แม่เจ้า......แก้วหน้าม้าถอดรูปได้จริงๆ แฮะ"
"แล้วนายจะเอายังไงอีกล่ะ ให้เปลี่ยนสารรูปก็เปลี่ยนแล้วไง"
"เรียกฉันว่า พี่จัสท์ หรือ พี่จัสติน ด้วย เพราะฉันแก่กว่าเธอ เธอจะมาเรียกฉันว่านายไม่ได้"
พี่จัสติน...แหวะ ให้เรียกพี่จัสตีนได้มั้ย เหมาะกว่าเยอะเลย
"เออ พี่จัสท์ พอใจมั้ย"
"พูดลงท้ายด้วยคะ ขา ด้วย พูดกับรุ่นพี่ไม่เพราะ เดี๋ยวฉันอารมณ์เสีย โยนอะไรทิ้งไม่รู้นะ"
"ค่ะ (ไอ้) พี่จัสท์ " ฉันกัดฟันพูดเต็มที่
"ดีมาก ทำหน้าดีๆ หน่อย วันนี้เลิกเรียนกี่โมง"
"บ่าย 3 ครึ่ง ค่ะ"
"อยู่หอรึเปล่า"
"เปล่าค่ะ"
"พรุ่งนี้เลิกเรียนกี่โมง"
"เที่ยงค่ะ" จะถามไปแทงหวยหรือไงเนี่ย ถามมากชะมัด
"งั้นพรุ่งนี้พี่ไม่มีเรียน ไปทำความสะอาดห้องพี่ซะ พี่อยู่หอคอมเพส เจอกันเที่ยงครึ่ง แล้วถ้าไปสายคงรู้นะว่าจะเกิดอะไร อย่าลืมเอาตารางเรียนมาให้พี่ด้วย จะได้ตามตัวถูก ไปได้แล้ว มีเรียนใช่มั้ย"
"ค่ะ" เอาตารางเรียนไปให้จะได้ตามตัวถูก นี่กะจะใช้ให้คุ้มเลยใช่มั้ย ฉันรีบเดินไปทันที ถ้าอยู่นานกว่านี้ ขันติกลายเป็นขันแตกแน่
"เดี๋ยวก่อน"
"อะไรอีกล่ะ"
"เอาเบอร์เธอมาด้วย จะได้ตามตัวสะดวก"
"ไม่ให้ได้มั้ย บีไม่ชอบให้เบอร์ใครที่ไม่ใช่เพื่อน"
"แล้วใครว่าพี่เป็นเพื่อนเธอ พี่เป็นเจ้านายเธอต่างหาก อย่าลีลา เอามาซะดีๆ"
ว่าแล้วอีตานั่นก็โยนมือถือรุ่น.....กรี๊ด..ด..ด..ด นี่มันมือถือรุ่น D351 IFX ที่นำเข้ามาแค่ไม่กี่เครื่อง แถมราคาเหยียบ 2 หมื่น พระเจ้าไม่ยุติธรมเอาซะเลย คนหน้าตาดี เป็นถึงปริ๊นซ์มหาวิทยาลัย บ้านรวย หัวก็ดี มีดีพร้อม แล้วทำไมไม่ให้ฉันเกิดมาดีแบบนี้มั่งนะ พระเจ้าไม่ยุติธรรม ฮือๆๆๆๆ
"นี่ เอาแต่มองเบอร์มันจะขึ้นมั้ย เร็วๆ ถึงเวลาเรียนแล้ว"
"ค่ะๆๆๆๆ"
ฉันรีบกดเบอร์ทันที ไม่ได้กลัวนะ แค่จะไปเรียนเหมือนกัน ป่านนี้เพื่อนฉันถึงห้องเรียนเป็นชาติแล้วมั้ง
"นี่ค่ะ" ฉันยื่นมือถือให้
"ดี พรุ่งนี้เจอกัน มีอะไรโทร.มาเบอร์พี่นะ ยิงไปแล้ว แล้วอย่าคิดเอาเบอร์พี่ไปขายคนอื่นนะ ถ้ารู้เธอเจอดีแน่"
ดันรู้ทันอีกนะคนเรา ถ้าเอาไปขายนะ ขอโทษ...อย่าว่าแต่ค่าเข้าสอบเลย ฉันว่าฉันได้กำไรหลายพัน
แน่ เบอร์ปริ๊นซ์มหาวิทยาลัย เหอๆๆ
แล้วฉันกับอีตารุ่นพี่บ้าก็แยกกัน เพื่อนจ๋า ...รอรับฟังคำบ่นฉันด้วยนะ
"โอ๊ย...แค่วันแรกก็สั่งซะขนาดนี้ ทำความสะอาดเนี่ยนะ ให้ตายเถอะ บ้านฉันยังไม่ค่อยจะทำเลย แล้วนี่ฉันต้องไปทำให้ใครก็ไม่รู้ แฟนก็ไม่ใช่ จะบ้าตาย ฮือๆๆๆๆ ใครก็ได้ช่วยที คนเกือบสวยแย่แล้ว" ฉันบ่นตลอดทางที่เดินไปกับเพื่อน จนเพื่อนๆ แทบจะเดินหนีด้วยความอาย ขอบใจมากนะเพื่อนรัก T^T

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook