เปิดใจชีวิตนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่น่าจดจำ ณ ประเทศสวีเดน

กว่าจะได้มาซึ่งใบประกอบวิชาชีพพยาบาลนั้น นอกจากนักศึกษาพยาบาลจะต้องผ่านการเรียนในภาคทฤษฎีแล้วยังต้องออกไปฝึกปฏิบัติเพื่อหาประสบการณ์นอกห้องเรียน ซึ่งสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการฝึกงานของนักศึกษาแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน เช่นเดียวกับ 2 นักศึกษาจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ตัดสินใจค้นหาประสบการณ์ใหม่ในการฝึกงานโดยเข้าร่วมโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยน ณ ประเทศสวีเดน

นางสาวศุกลรัตน์ ชุ่มปิยะ (นุ่น) นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ทราบว่าทางคณะพยาบาลศาสตร์มีโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยนมานานแล้วและจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี จึงตัดสินใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ และมีการนัดสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกับคณะกรรมการชาวต่างชาติ โดยได้เตรียมตัวฝึกพูดมาก่อน ผลปรากฏว่าสอบผ่าน ก็รู้สึกดีใจมาก สำหรับการเตรียมตัวก่อนออกเดินทางนั้นได้สอบถามจากรุ่นพี่ที่เคยเข้าร่วมโครงการนี้ และฝึกงานที่โรงพยาบาล Central Lasarette Hospital ประเทศสวีเดน ระหว่างฝึกงานได้ทำงานหลายอย่าง ได้เห็นมุมมองความแตกต่างระหว่างโรงพยาบาลในประเทศไทยและโรงพยาบาลในต่างประเทศ อาทิ การรักษาผู้ป่วย การให้ความเป็นอิสระแก่ผู้ป่วยในเรื่องการเลือกรับประทานอาหาร หรือแม้แต่การเลือกวิธีการรักษา จากการเข้าร่วมโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ทำให้ได้รับประสบการณ์และความรู้มากมาย ทั้งด้านการพยาบาลแบบมาตรฐานสากล การใช้ชีวิตร่วมกับชาวต่างชาติ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมต่างชาติ จึงอยากฝากเพื่อนๆ ว่าถ้ามีโอกาสก็อยากให้ลองสมัครเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนดูแล้วจะรู้ว่าได้อะไรมากกว่าที่คิด

"ก่อนที่จะทำการสมัครเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนฯ ได้ปรึกษาผู้ปกครองและอาจารย์ที่คณะฯ เพราะการเข้าร่วมโครงการนี้จะต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงแต่ถ้าเทียบกับประสบการณ์ที่ได้รับหลังจากกลับมาแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามาก ถ้าไม่ได้ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ก็คงต้องเสียใจเพราะนอกจากประสบการณ์ในการฝึกงานที่โรงพยาบาลแล้ว ยังได้รับประสบการณ์ในเรื่องของการใช้ชีวิตในต่างแดนและด้านภาษาเพิ่มเติม สำหรับการฝึกงานที่โรงพยาบาลในประเทศสวีเดน นอกจากจะมีความแตกต่างระหว่างโรงพยาบาลของประเทศไทยในเรื่องการรักษาพยาบาลแล้ว อัตราส่วนระหว่างพยาบาลกับคนไข้ของโรงพยาบาลต่างประเทศกับโรงพยบาลของประเทศไทยก็ต่างกัน คือ โรงพยาบาลต่างประเทศจะมีพยาบาลมากกว่าคนไข้แต่โรงพยาบาลของประเทศไทยจะมีอัตราของคนไข้มากกว่าบุคลากรทางการพยาบาล นอกจากนี้ บรรยากาศของการทำงานที่โรงพยาบาลก็มีความเป็นกันเอง แม้ว่าบางครั้งภาษาอาจเป็นอุปสรรคในการสื่อสาร แต่ประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกงานทำให้รู้สึกถึงได้ความสำคัญของวิชาชีพพยาบาล เพราะได้นำความรู้ที่ได้เรียนมาช่วยเหลือผู้อื่นและสามารถถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ไปยังผู้อื่นได้อีกด้วย ท้ายนี้จึงอยากเชิญชวนให้เพื่อนๆ ที่เรียนพยาบาลสมัครเข้าร่วมโครงการนักศึกษาแลกเปลี่ยนเพื่อสัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้วิชาชีพพยาบาลในต่างประเทศและประสบการณ์ดีๆ อีกมากมาย" นางสาวณัฐวรา เชื้อหมอ (นุก) นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าว