คุณเป็นโรค ติดการพนัน หรือเปล่า?
ในช่วงที่ทั่วโลกกำลังตื่นเต้นกับการแข่งขันฟุตบอลโลก มีคนอีกกลุ่มหนึ่งตื่นเต้นกว่า เพราะการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นที่มาของรายได้จำนวนมหาศาล คนที่ใจจดจ่ออยู่กับผลการแข่งขันแพ้ชนะ แม้แต่จำนวนประตูที่ยิงได้ ก็มีความหมายมาก อาจกลายเป็นเงินมหาศาล การพนันบอลโลกไงครับ กิจกรรมนี้แพร่ระบาดซึมลึกในสังคมไทยมานานแล้ว และนับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ ลงไประบาดถึงในเด็กนักเรียนและวัยรุ่น ทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมาเช่น ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาครอบครัวและสังคม
การพนันบอลโลกมีมาตั้งแต่เมื่อใดไม่มีใครทราบ เข้าใจว่าน่าจะมีมานานพอๆกับการพนันอย่างอื่นๆ โดยเฉพาะเมืองไทย สามารถเล่นการพนันได้หลากหลายรูปแบบ แต่ในปีหลังๆการพนันบอลโลกเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากกว่าการพนันประเภทอื่นๆ อาจเป็นเพราะการแข่งขันมีความยิ่งใหญ่มาก มีผู้ชมมาก มีการถ่ายทอดสดให้คนทุกมุมโลกได้ดู การพนันในผลการแข่งขันจึงมีมากตามไปด้วย
คนที่ชอบการพนันมีหลายประเภท
บางคนชอบการพนันเป็นครั้งคราว ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมีรสชาติในชีวิต แบบนี้มักไม่ได้ใช้เงินทองมากมายอะไร ไม่ได้เป็นหนี้เป็นสิน ถ้าไม่มีเงินก็ไม่เล่น รู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเองได้ดี การพนันแบบนี้ไม่ใช่โรค ไม่ต้องรักษาก็ได้ แต่ถ้าจะเลิกเล่นเลยน่าจะดีกว่า
อาการ
คนที่เล่นการพนันจนถึงกับเป็นโรค ที่เรียกว่า โรคติดการพนัน (Pathological gambling) มีลักษณะคล้ายกับการติดสารเสพติด คือ จิตใจจดจ่ออยู่กับการพนันตลอดเวลา ไม่สามารถคิดหรือทำอย่างอื่น มีความอยากเล่นที่ยากจะควบคุม ในที่สุดก็จะเล่นการพนันโดยไม่มีการยั้งคิด เวลาเล่นได้ก็เกิดความโลภอยากได้มากขึ้น เวลาเสียก็จะรู้สึกเสียดายมากอยากได้คืน ก็จะเล่นเพื่อแก้ตัว ในที่สุดก็ลงเอยด้วยการสูญเสียจำนวนมาก น่าแปลกที่คนที่เล่นการพนันแล้วเสีย ไม่ค่อยตระหนักในความจริงที่ว่ามีคนที่ประสบผลสำเร็จจากการพนันน้อยมาก เขามักจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าเมื่อเสียแล้วน่าจะมีได้บ้าง การปลอบใจตัวเองแบบนี้ทำให้เขาไม่หยุดเมื่อเล่นเสีย การขาดสติควบคุมตัวเองเป็นอาการสำคัญประการหนึ่งของ โรคติดการพนัน
คนที่เป็นโรคติดการพนัน มักจะหาโอกาสเล่นการพนันเสมอ แม้ตัวเองจะไม่มีเงิน ก็อาจขโมยเงิน หรือทำทุกรูปแบบเพื่อให้ได้เงินมาเล่นการพนัน การเป็นหนี้สินไม่ได้ทำให้จิตใจเกิดการยั้งคิด แต่ในทางตรงกันข้าม เขาจะคิดว่าการพนันอาจทำให้เขามีโอกาสได้เงินมาใช้หนี้ได้บ้าง คนที่เป็นโรคนี้จึงมักคิดเข้าข้างตนเองตลอดเวลา เพื่อให้ได้เล่นการพนัน
สาเหตุ
มีคนเคยศึกษาพฤติกรรมคนที่เป็นโรคติดการพนัน และโรคอื่นๆที่มีปัญหาคล้ายๆกันในเรื่องการควบคุมตัวเอง พบว่าสมองบางส่วนมีการทำงานน้อย ทำให้เขาต้องพึ่งพากิจกรรมที่มีความตื่นเต้นสูงๆ จึงจะเกิดความสุขได้ ในสมองของมนุษย์มีบริเวณหนึ่งที่เรียกว่า อมิกดาลา (Amygdala) เป็นศูนย์กลางของความพึงพอใจ เมื่อเราเป็นเด็กทำความดีแล้วมีคนชื่นชม ความรู้สึกประทับใจนั้นจะเก็บสะสมไว้ที่อมิกดาลานี้ ทำให้อยากทำสิ่งนั้นอีก กลไกนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบแรงจูงใจของมนุษย์เรา ความพึงพอใจในชีวิตอาจมีหลายด้าน หลายกิจกรรม การมีกิจกรรมที่สร้างความรู้สึกดีๆเช่นนี้ทำให้เรามีวิธีสร้างความพึงพอใจส่วนตัว เรียกว่าวงจรของความพึงพอใจ (Pleasure circuit) บางคนมีวงจรเช่นนี้มาก บางคนมีน้อย ขึ้นอยู่กับพื้นอารมณ์ และประสบการณ์การเรียนรู้ในชีวิตที่ผ่านมา คนที่จะมีปัญหาได้ง่ายคือคนที่ขาดวงจรชีวิตที่มีความสุข เขาก็จะแสวงหาจากกิจกรรมอื่นที่ทำให้รู้สึกพอใจได้ง่าย เช่น การพนัน สารเสพติด เพศสัมพันธ์ ซึ่งล้วนแล้วแต่จะกระตุ้นความตื่นเต้น หรือความสุขช่วงสั้นๆ อย่างทันอกทันใจ คนพวกนี้มักอดทนรอคอยความสำเร็จหรือรางวัลไม่ได้นาน ทำให้หาวงจรความพึงพอใจได้ยากจากกิจกรรมทั่วๆไป
ถ้าวิเคราะห์จิตใจคนที่เล่นการพนัน เขาจะเป็นประเภทแสวงหาความตื่นเต้น ต้องการความสุขจากจินตนาการ เวลาเล่นการพนันประสบการณ์ที่หลายคนชอบมาก คือการได้ลุ้น ตรงนี้สร้างความสุข ความพึงพอใจได้มากๆ แม้ว่าการลุ้นนั้นได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่เขาจะจำได้แม่นเฉพาะตอนที่ประสบผลสำเร็จ
คนไข้คนหนึ่งของผมเป็นโรคติดการพนันที่ว่านี้ ภรรยาของเขาเป็นผู้พามาหาหมอทั้งที่เจ้าตัวเองไม่อยากจะมา ด้วยเหตุที่ตนเองไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด ภรรยาเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาอย่างขมขื่นว่า ขณะนี้เป็นหนี้ท่วมตัว พ่อเจ้าประคุณเอาไปเล่นการพนันหมด เล่นเสียแล้วก็ยังไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาเล่นต่ออีก ความเสียหายที่เกิดขื้นมากกว่าไฟไหม้บ้านซักสิบครั้ง ไฟไหม้บ้านยังมีโอกาสแก้ตัว แต่สามีติดการพนันนี้ไม่มีทางกลับ เพราะไม่มีทางเปลี่ยนนิสัยกันได้ เสียแล้วยังไม่เรียนรู้ ยังหาโอกาสเสียอีก คนในครอบครัวเดียวกันมักจะทนไม่ได้ ที่สำคัญคือเจ้าตัวไม่คิดว่าเป็นปัญหา ทำให้ไม่ร่วมมือในการแก้ใขเปลี่ยนแปลงตนเอง ซึ่งก็เป็นความจริง ในเวลาต่อมาคนไข้คนนี้ไม่หยุดเล่นการพนัน แต่ภรรยาทำใจได้ คอยกันไม่ให้สามีเอาเงินไปเล่นมากจนทางบ้านเดือดร้อน ประโยคสุดท้ายที่คนไข้พูดกับผมคือ " หมอรักษาผมไม่ได้หรอก ถ้าไม่เชื่อ พนันกันก็ได้"
การรักษาและป้องกัน
เนื่องจากการรักษาโรคติดการพนันไม่ค่อยได้ผล การป้องกันจึงสำคัญกว่าการรักษา ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่เด็กๆ พยายามเสริมให้เด็กมีกิจกรรมที่ดี ให้เกิดวงจรความพึงพอใจชีวิตด้วยตัวเอง ให้เด็กได้รับประสบการณ์ที่ดีกับกิจกรรมที่ถูกต้อง ใช้ความสามารถตนเองมากกว่าโชคหรือโอกาส ให้มีความสุขกับงานสร้างสรรค์ ให้รู้จักรอคอยความสำเร็จ ที่สำคัญผู้ใหญ่ต้องไม่เป็นตัวอย่างของการเล่นการพนันเสียเองในบ้านด้วย
ที่มา/ภาพประกอบ : สสส.