ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก "ห้ามขี้เกียจ" ทั้งเรียนทั้งงานผ่านฉลุย

สาวน้อยหน้าใสวัย 18 ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ผ่านผลงานการแสดงมาหลายเรื่อง ทั้งภาพยนตร์ หนังโฆษณา นางเอกมิวสิก ล่าสุดกับการรับบท "น้ำ" ในภาพยนตร์เรื่อง "สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก" ภาพยนตร์ชวนอมยิ้มที่จะพาคุณย้อนอดีตไปถึงวัยรักครั้งแรกของคนเคยชอบ เคยรัก แต่ไม่เคยบอก แต่ก่อนที่อดีตของทุกคนจะมาวิ่งวุ่นในปัจจุบัน เราขอชวนคุณไปทำความรู้จักกับนางเอกหนังเรื่องนี้ น้องใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ว่าแล้วก็ล้อมวงเข้ามานั่งคุยกับเธอกันเลยดีกว่า

แนะนำตัว
สวัสดีค่ะ ชื่อใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ค่ะ อายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้นม.6 โรงเรียนนวมินทร์ฯ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้าค่ะ

รับบทเป็นน้ำในภาพยนตร์เรื่องนี้
ที่จริงจะบอกว่ารับบทเป็นตัวเองก็ได้ค่ะ เพราะน้ำกับเฟิร์นมีคาแรคเตอร์คล้าย ๆ กัน ตอนที่เฟิร์นมาแคส ผู้กำกับบอกว่าเฟิร์นเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง ชอบเขิน ๆ ทั้งเปิ่น ทั้งโก๊ะ ซึ่งคาแรคเตอร์ของเฟิร์นมันไปซ้ำกับน้ำในเรื่อง ที่เป็นเด็กโก๊ะ เปิ่น ๆ เป็นเด็กม.ต้นที่หน้าตาแย่มาก หลงรักรุ่นพี่ทุกลมหายใจ ถึงขนาดลงทุนซื้อคู่มือมัดใจ และปฏิบัติตามคู่มือนั้นแบบทุกกระเบียดนิ้ว ตอนนั้นที่มาแคสพี่เขาก็ถามเรื่องรักครั้งแรกของเฟิร์น เฟิร์นคงเขินจนเก็บอาการไม่อยู่มั้งคะ พี่เขาก็เลยเลือกเฟิร์น บางทีมากองพี่เขายังล้อเฟิร์นเรื่องรักครั้งแรกอยู่เลย

ผลงานที่ผ่านมา
มีหลายอย่างนะคะ ถ้าโฆษณาก็จะเป็นรองเท้าป๊อปทีน โฆษณาเอ็มเค มิวสิกวิดีโอของพี่เสก โลโซ ก็มี 14 อีกครั้ง แล้วล่าสุดก็มีเพลง ๆ นี้ ของพี่สิงโต เดอะสตาร์ ถ้าเป็นภาพยนตร์ก็จะเป็น 5 หัวใจฮีโร่ อนึ่งคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง เชือดก่อนชิม แล้วก็ยังมีหนังแอ็คชั่น "โคตรโส" ที่เพิ่งปิดกล้องไปค่ะ

ประสบการณ์ดี ๆ ที่อยู่ในวงการบันเทิง
มันเป็นการเปิดโลกทัศน์ของเฟิร์นเลยค่ะ รู้สึกว่าตัวเองได้กำไรกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ อยู่โรงเรียนก็มีเพื่อนที่โรงเรียน พอมาอยู่กองถ่ายก็มีพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่กองถ่าย มีประสบการณ์ใหม่ ๆ มาให้เราทำความรู้จักทุกวัน ทำให้รู้สึกว่าเราเข้าไปเจออะไรก่อนคนอื่น พี่ ๆ ที่กองก็น่ารัก เหมือนตอนถ่ายหนังเรื่องนี้ ตอนแรกเฟิร์นกดดันมากเพราะเรายังใหม่ แล้วพี่ ๆ เขาก็อยู่ในวงการมานาน ต้องทำการบ้านเยอะมาก แล้วก็คุยกับผู้กำกับเยอะ ๆ แต่พอได้มาคุย ได้มาทำงานร่วมกัน พี่เขาเป็นกันเองมากค่ะ สอนเทคนิคการแสดงบ้าง บางทีกล้องไม่เห็น เขาก็ยังอยู่ช่วยเฟิร์นเลย อย่างพี่โอ้เขาก็จะคอยบอกตลอดเวลา ไปงานแถลงข่าวด้วยกันเฟิร์นก็จะตื่นเต้น พี่เขาจะคอยบอกอยู่ข้างหลังว่าใจเย็น ๆ มันทำให้เรามั่นใจมากขึ้นค่ะ

เรียนกับงานต้องรู้จักบริหารเวลา
เป็นความโชคดีค่ะที่หนังเรื่องนี้ส่วนใหญ่ถ่ายเสาร์-อาทิตย์ บางทีก็ถ่ายติดวันศุกร์บ้าง วันจันทร์บ้าง ก็เลยไม่กระทบไปถึงเรื่องเรียนเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นช่วงไหนที่งานเยอะ ๆ เฟิร์นก็ต้องทำงานส่งอาจารย์มากกว่าคนอื่น เพราะว่าคะแนนเก็บเราก็ไม่อยากให้หาย พยายามตามงาน อ่านหนังสือตามเพื่อน บางอย่างเพื่อนก็จะช่วยเก็บเอกสารไว้ให้ งานนี้พึ่งเพื่อนแบบเต็ม ๆ แต่เพื่อนก็ใจดี บางทีเราไม่เข้าใจ เขาก็จะมาช่วยติวให้

เทคนิคเรียนดี
เฟิร์นจะบอกตัวเองทุกครั้ง ห้ามขี้เกียจ อย่าเอางานมาอ้าง ว่าฉันทำงานนะ ฉันเหนื่อย ฉันไม่อ่านหนังสือ ไม่เรียนมันทำให้เราไม่มีความพยายามที่จะทำอะไร งานมันเหนื่อยก็จริงแต่เรามีโอกาสได้ทำงานเราก็ต้องไม่เสียการเรียน อีกอย่างไม่อยากให้พ่อกับแม่ผิดหวัง ทำงานแล้วก็เรียนแย่ เขาก็คงไม่ภูมิใจ เขาห่วงเพราะกลัวว่าถ้าเข้าวงการ การเรียนจะเป็นยังไง

แผนที่ชีวิตที่วางไว้
เฟิร์นคิดว่าจะเข้าเรียนที่มศวค่ะ อยากเรียนการแสดงและกำกับการแสดง อยากมาทำงานด้านนี้ เอาให้รู้กันไปเลย ซึ่งพ่อกับแม่ก็สนับสนุน และท่านก็จะคอยบอกเฟิร์นอยู่เสมอว่าให้เรียนให้ทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะถ้าเลือกอะไรที่เราไม่ชอบเราจะไม่รักมัน และเราก็จะทำได้ไม่ดี มีช่วงหนึ่งคิดว่าจะเลือกเรียนรัฐศาสตร์ แต่เฟิร์นรู้สึกว่าชอบรัฐศาสตร์น้อยกว่าก็เลยตั้งใจว่าจะเรียนคณะนี้แหละค่ะ

ทุกคนที่มีความฝัน
การเข้ามาในวงการทุกวันนี้มันไม่ยาก แค่เรามีความสามารถ มีความมั่นใจ และถ้ามันเป็นสิ่งที่เรารัก เฟิร์นเชื่อว่าใครก็สามารถเข้ามาในวงการได้ค่ะ เพียงแต่ถ้ามันมีอุปสรรคอย่าเพิ่งท้อ อดทนผ่านจุดนั้นไปให้ได้ เมื่อไหร่ที่ผ่านอุปสรรคไปได้เราก็จะได้เรียนรู้มากขึ้น ได้พัฒนาตัวเอง แต่ถ้าเราเข้ามาได้แล้ว การรักษาไว้มันยาก พี่ ๆ หลาย ๆ คนก็สอนเฟิร์นเรื่องการวางตัว บอกว่าเฟิร์นต้องเป็นคนเดิมนะ นิสัยต้องไม่เปลี่ยน ถ้ามีการบ้านก็ต้องทำการบ้านเยอะ ๆ เราจะได้พัฒนาฝีมือเราไปด้วย ตรงต่อเวลา มีระเบียบวินัย เราจะได้ไม่ทำให้ใครเสียงาน เรารับผิดชอบตัวเองได้ก็เท่ากับเราได้รับผิดชอบคนอื่นด้วย

ชวนทุกคนไปอมยิ้มพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์
12 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ อยากให้ทุกคนมาดูหนังเรื่องนี้ รับรองว่าถูกใจแน่นอนค่ะ เพราะว่าหนังเรื่องนี้ จะพาทุกคนไปสัมผัสช่วงเวลาที่เราเคยรัก ความรู้สึกของการได้รักใคร ช่วงเวลาที่สุขสุด ๆ ได้ทำอะไรเพื่อคนที่เรารักสุด ๆแล้วหนังเรื่องนี้ยังแฝงข้อคิดมุมมองของความรักในแง่มุมต่าง ๆ ไว้อีกมากมาย อย่าลืมชวนคนที่คุณรักไปดูหนังเรื่องนี้นะคะ ที่สำคัญเป็นวันแม่ด้วย ชวนคุณแม่ไปดูก็ดีนะคะ เพราะความรักแรกที่เราได้สัมผัสก็น่าจะเป็นรักจากแม่นี้แหละค่ะ