แถบสี 7 สีในโทรทัศน์มีไว้ทำไม
เรื่องของเรื่องเริ่มจากภาพที่เราเห็นทางทีวีนั้น เกิดจากกระบวนการเปลี่ยนภาพที่ถ่ายเป็นสัญญาณไฟฟ้า แล้วแพร่สัญญาณไปกับคลื่นวิทยุด้วยความเร็วของแสง
สีที่เกิดบนจอโทรทัศน์เกิดจากการผสมแสงสีต่างๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างกัน สีของแสงไม่ได้ผสมกลมกลืนเหมือนในถาดผสมสีแบบที่เราระบายรูป แต่เป็นการผสมของสีสองสีที่ต้องแสงสีขาวเน้นความเข้มอ่อนเป็นเฉดสีต่างๆ ได้เกือบทุกสี
แม่สีสำหรับโทรทัศน์คือ แดง เขียว และน้ำเงิน
เมื่อแสงสีแดงผสมเขียวจะได้สีเหลือง เมื่อน้ำเงินผสมกับแดงจะได้สีแดงม่วง และเมื่อเขียวผสมฟ้าก็จะได้สีน้ำเงินเขียว สีของแสงทั้งหมดที่พูด คือ แดง เขียว ฟ้า เหลือง แดงม่วง น้ำเงินเขียว และขาว ก็คือ สี 7 สี ที่ปรากฏเป็นแถบทางจอทีวี โดยเฉพาะเวลาที่ปิดสถานีเราก็จะเห็นแถบสีนี้ขึ้นมา
ว่าแล้วก็เล่าต่อซะหน่อยเรื่องกระบวนการส่ง-รับสัญญาณภาพสี ในหนังสือ"รู้รอบ ตอบได้" ของรีดเดอร์ส ไดเจสท์ ระบุว่า เมื่อกล้องโทรทัศน์กำลังจับภาพใดอยู่นั้น ก็จะแยกแสงจากภาพนั้นออกเป็นแม่สีทั้งสาม จากนั้นจึงส่งแต่ละสีไปยังหลอดสีต่างๆ ในกล้อง โดยผ่านทางจานแก้วที่เรียกว่า จานสัญญาณ ด้านหลังของจานสัญญาณมีเป้ารับที่นำไฟฟ้า เมื่อโดนแสงกระทบ แสงที่ผ่านชั้นสารดังกล่าวนั้นยิ่งสว่างมากขึ้นเท่าใด ปริมาณไฟฟ้าก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แสงทำให้เกิดลวดลายของประจุไฟฟ้า พื้นที่ซึ่งมีแสงสว่างที่สุดก็คือพื้นที่ซึ่งมีประจุไฟฟ้ามากที่สุด
ตัดตอนมาที่เครื่องรับภาพ หรือตัวทีวีในบ้านเรา หลอดภาพของทีวีจะทำงานคล้ายกล้องถ่ายภาพโทรทัศน์ที่ย้อนขั้นตอน มันจะเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นลวดลายของสีต่างๆ ปลายข้างหนึ่งเป็นเครื่องยิงอิเล็กตรอน อีกปลายหนึ่งคือจอภาพ เครื่องยิงอิเล็กตรอนนี้ ประกอบด้วยหลอดยิงลำแสงอิเล็กตรอน 3 หลอด ด้านหลังของจอเคลือบด้วยวัสดุวาวแสงเป็นแถบในแนวตั้ง เรียกว่าฟอสเฟอร์ มีสีแดง เขียว และฟ้าสลับกัน ส่วนด้านหลังของจอมีตะแกรงรับแสง ทำเป็นช่องในแนวตั้งเรียงตรงกัน แถบนี้จะทำให้ลำแสงแม่สีแต่ละลำพุ่งไปถูกสารเรืองแสงของสีที่ตรงกัน พลังลำแสงของอิเล็กตรอนจะเปลี่ยนแปลงไปตามสัญญาณภาพ ลำแสงที่กระทบจอตามจุดต่างๆ ด้วยความสว่างต่างๆ กันไป ทำให้เกิดลวดลายแสงเหมือนที่กล้องจับได้ ต้นทางเป็นอย่างไร ปลายทางก็เป็นอย่างนั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : 108ซองคำถาม