เอ้-นนทวัชร์ ขึ้นแท่นคณบดีนิเทศศาสตร์ ม.ปทุมธานี

เอ้-นนทวัชร์ ขึ้นแท่นคณบดีนิเทศศาสตร์ ม.ปทุมธานี

เอ้-นนทวัชร์ ขึ้นแท่นคณบดีนิเทศศาสตร์ ม.ปทุมธานี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใช้ประสบการณ์ปั้น "นักนิเทศศาสตร์มืออาชีพ

เป็นอีกหนึ่งคนข่าวที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในสายอาชีพสื่อสารมวลชน สำหรับ "คุณเอ้" นนทวัชร์ อนันท์พรจินดา ด้วยประสบการณ์บวกกับความสามารถที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม จึงได้ถูกทาบทามจากมหาวิทยาลัยปทุมธานี ให้เข้ามารับหน้าที่คณบดีคณะนิเทศศาสตร์คนปัจจุบัน ที่มีมุมมองในการผลักดันวิชาชีพสื่อสารมวลชนให้มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น แต่จะมีแนวทางอย่างไรนั้นต้องติดตาม

หลังจากเรียนจบปริญญาเอกแล้ว มีหลายๆสถาบันให้โอกาสผมทำงาน แต่ที่เลือกมารับหน้าที่เป็นคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี ก็เพราะว่าผมเรียนจบปริญญาโท (ด้านรัฐประศาสนศาสตร์) และปริญญาเอก (ด้านบริหารทรัพยากรมนุษย์) จากที่นี่ และด้วยความที่เป็นงานในสายอาชีพที่ผมทำอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจไม่ยากที่จะมารับหน้าที่นี้ ผมอยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมานานกว่า 20 ปี ได้มีโอกาสไปสอนหนังสือ ไปบรรยายพิเศษตามที่ต่างๆมากมาย พอมีโอกาสตรงนี้ผมจึงอยากที่จะใช้ศักยภาพที่เรามีอยู่ ถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวเข้าสู่วงการสื่อสารมวลชนในอนาคต

ปัจจุบันการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี ที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี มี 2 สาขา ด้วยกัน คือ "สาขาสื่อสารมวลชน" กับ "สื่อสารการตลาด" ซึ่งทั้ง 2 สาขานี้ เป็นสาขาที่ตรงกับงานที่ผมทำมาโดยตลอด อย่างสาขาสื่อสารมวลชนก็เป็นสายอาชีพที่ผมทำอยู่แล้ว ส่วนในสาขาสื่อสารการตลาดก็ตรงกับที่ผมทำบริษัทสมุนไพร ต้องทำการตลาดอยู่แล้ว ปัจจุบันผมยังเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษให้กับกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะผู้ประกอบการตัวอย่าง ในหัวข้อ "สื่อสารการตลาด" ด้วย นับว่าโชคดีมากที่การทำงานที่ผ่านมาของผมตรงกับตำแหน่งงานที่ผมเข้ามาดูแลในฐานะคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี พอดี

สำหรับการเตรียมตัวเข้ารับตำแหน่งนี้ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เพราะตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ผ่านมา ผมรับหน้าที่เป็นอาจารย์พิเศษ บรรยายพิเศษ หรือจัดอบรมพิเศษ มาตลอดอยู่แล้ว ถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมไปในตัว ผมเข้ามารับตำแหน่งคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 สิ่งแรกที่ผมทำคือ การทำความเข้าใจกับคนในคณะ เพื่อให้ทุกคนมีมุมมองในการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนั้นก็พัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น นั่นคือ การมีสถานีโทรทัศน์เป็นของตนเอง โดยการเปิด "PTU station" เป็นสถานีโทรทัศน์ของมหาวิทยาลัย ดูกันเองก่อนภายในมหาวิทยาลัย มีทั้งหมด 6 รายการ ได้แก่ รายการข่าว รายการสารคดีทั่วไป รายการบันเทิง รายการส่งเสริมความรู้ รายการปกิณกะวาไรตี้ และรายการส่งเสริมด้านคุณธรรม จริยธรรม โดยมีศาสนาเข้ามาเชื่อมโยงด้วย และในปีนี้จะมีการออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ตเพื่อเผยแพร่รายการออกสู่สาธารณชนต่อไป และภายในปีนี้เช่นกันจะมี การทำสถานีวิทยุเป็นของตัวเอง สร้างช่องทางให้นักศึกษาของเราได้มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานและโชว์ผลงานของตนออกสู่สาธารณชนในวงกว้าง

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยเอกชนจำนวนมาก แต่ในส่วนของ มหาวิทยาลัยปทุมธานีของเรามุ่งพัฒนาบัณฑิตให้มีความรู้ และสามารถปฏิบัติงานได้จริง เพื่อให้พร้อมรับกับการทำงานในอนาคต นอกจากรายการโทรทัศน์และรายการวิทยุแล้ว ทางคณะยังส่งเสริมให้นักศึกษาได้ทำวารสารของตัวเองด้วย เริ่มต้นด้วยการทำวารสารของคณะก่อน ปรากฏว่าผลตอบรับออกมาดีมาก และในต้นปี 2554 นี้ ทางคณะได้รับหน้าที่ให้ทำจุลสารของทางมหาวิทยาลัยด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นความภาคภูมิใจของตัวนักศึกษาเอง พวกเขาจะได้มีโอกาสร้างสรรค์ผลงาน ได้คิด ได้ทำ ได้เห็นผลของความสำเร็จ ทำให้พวกเขาอยากมาเรียนมากขึ้น อยากสร้างสรรค์ผลงานดีๆต่อไป และในเร็วๆนี้ทางคณะจะเปิดหลักสูตรปริญญาโท ใน "สาขาสื่อสารเพื่อการประชาสัมพันธ์" เพื่อรองรับคนในพื้นที่ที่เป็นคนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาเรียนเป็นหลัก ความรู้ตรงนี้จะช่วยไปเติมเต็มการทำงานของพวกเขาให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนที่ทำงานในหน้าที่นักสื่อสารประชาสัมพันธ์ขององค์กร ซึ่งในหลักสูตรนี้คนทั่วไปก็สามารถเข้ามาเรียนได้เช่นกัน
และเพื่อสร้างความพร้อมให้กับตัวนักศึกษาของเรามากขึ้น ผมจึงได้จัดทำโครงการ "นิเทศศาสตร์มืออาชีพ" ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบัณฑิตของเราให้มีคุณภาพตอบสนองต่อความต้องการของตลาดงานได้เป็นอย่างดี และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนามหาวิทยาลัยในอนาคตอีกด้วย โครงการนี้นอกจากจะพัฒนาทางด้านวิชาการแล้ว เรายังให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลิกภาพควบคู่ไปด้วย ในมุมมองของผมคนที่เป็นนักนิเทศศาสตร์ต้องมีบุคลิกภาพโดดเด่นใน 3 ด้าน คือ มีการแต่งตัวที่เป็นตัวของตัวเองและมีสไตล์ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความรู้ดี ด้วย

โดยจะกำหนดให้มีวันที่นักศึกษาทุกชั้นปีได้พบกับคณบดี เพื่อดูพัฒนาการหลังจากที่เข้าร่วมโครงการแล้ว ที่ผ่านมานักศึกษามีพัฒนาการที่ดีขึ้นในทุกๆด้านตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นจุดเด่นของคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี ก็ว่าได้ การที่เรามีบุคลิกภาพที่ดีย่อมสร้างความประทับใจแรกได้เป็นอย่างดี เมื่อเกิดความประทับใจแรกแล้ว หลังจากนั้นไม่ว่าคุณจะนำเสนออะไร เขาจะเปิดรับคุณมากขึ้น โอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จในการทำงานย่อมมีมากขึ้นตามไปด้วย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องมีทักษะวิชาชีพที่ดี ประกอบกับต้องมีทัศนคติที่ดีในวิชาชีพนิเทศศาสตร์ด้วย ถ้านักศึกษาคนใดผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้จะได้รับเข็ม "นักนิเทศศาสตร์มืออาชีพ" และสามารถนำเอาใบประกาศนียบัตรที่ได้รับจากโครงการนี้ไปสมัครงานในอนาคตได้อีกด้วย

ที่มา "การศึกษาวันนี้"
ผู้เขียน : ปิยะนุช zorau123@hotmail.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook