7 เมษายน สำคัญอย่างไรกับประวัติศาสตร์ชาติไทย
07 เมษายน พ.ศ. 2310 : กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ครั้งที่ 2
7 เมษายน พ.ศ. 2310 กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า ครั้งที่ 2 ในรัชสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ หลังจากถูกพม่าล้อมกรุงอยู่ 1 ปี 2 เดือน ก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตก เจ้าเมืองตาก เห็นว่ากรุงศรีอยุธยาคงต้องเสียทีแก่พม่าเป็นแน่แท้ จึงได้รวบรวมไพร่พลราว 500 คนตีฝ่าวงล้อมข้าศึกออกไปตั้งมั่นที่เมืองจันทบุรี จากนั้นก็ได้รวบรวมไพร่พลยกกลับไปตีข้าศึกเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2310 และสามารถกอบกู้เอกราชยึดกรุงศรีอยุธยากลับคืนมาได้ แต่ทรงเห็นว่าหากจะตั้งบ้านเมืองขึ้นมาใหม่คงจะเป็นเรื่องยาก เพราะกรุงศรีอยุธยาถูกทำลายจนเสียหายยับเยิน อีกทั้งข้าศึกก็รู้จักพื้นที่ในกรุงศรีอยุธยาอย่างปรุโปร่งหมดแล้ว ดังนั้นพระองค์จึงมีพระราชดำริ ให้ย้ายเมืองหลวงจากกรุงศรีอยุธยามายังกรุงธนบุรี และทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2311 เป็นกษัตริย์พระองค์แรกและพระองค์เดียวแห่งแผ่นดินกรุงธนบุรี พระนามว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
07 เมษายน พ.ศ. 2440 : รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก
7 เมษายน พ.ศ. 2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรปเป็นครั้งแรก โดยเรือพระที่นั่งมหาจักรี เพื่อทอดพระเนตรการปกครองของอารยะประเทศ รวมเวลา 7 เดือน พระองค์ได้ทรงเห็นบ้านเมืองที่มีการพัฒนาแล้ว รวมไปถึงระบบการคมนาคมขนส่ง ถนนหนทางที่สวยงามสะดวกสะบาย หลังจากเสด็จกลับจากถึงสยาม จึงมีพระราชดำริที่จะพัฒนาบ้านเมืองให้ทันสมัยเทียมเท่าต่างประเทศ
ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพประกอบจาก guru.sanook.com
กด Like เพื่อติดตามเรื่องเด็ดๆ โดนๆ จากทีมงาน Sanook! Campus