10 อันดับอาหารยอดฮิต

10 อันดับอาหารยอดฮิต

10 อันดับอาหารยอดฮิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้มาว่ากันด้วยเรื่องอาหารการกิน กับ10 อันดับอาหารยอดฮิต ไปดูกันสิว่าจะมีอาหารที่เพื่อนๆชอบกินกันหรืิอเปล่า

 



10 ข้าวแกงกะหรี่แบบไทย

อันดับที่ 10 ได้แก่ ข้าวแกงกะหรี่แบบไทย หากินได้ทั่วไปมีรสชาติถูกปากทุกคน

 

 



9 ไก่ Tandoori

อันดับที่ 9 ได้แก่ ไก่ Tandoori ร้านอาหารเอเชียมักจะมีอาหารจานนี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักและอร่อยมาก มักเสิร์ฟกับขนมปังแบบอินเดียที่เรียกว่า naan และผักดอง

 

 


8 KFC (Kentucky Fried Chicken)

อันดับที่ 8 ได้แก่ KFC (Kentucky Fried Chicken) สุดยอดอาหารที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักแน่ๆครับ ฟันธง!!

 

 



7 ไก่ Tikka Masala

อันดับที่ 7 ได้แก่ ไก่ Tikka Masala อาหารอินเดียที่สุดยอด ทานง่ายๆ และเครื่องเทศอินเดียที่ยอดเยี่ยม

 

 



6 ก๋วยเตี๋ยวหรือข้าว

อันดับที่ 6 ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวหรือข้าว อาหารสุดเบสิคในเมืองไทย หาทานได้ทั่วไปและเป็นที่นิยมเนื่องจากไม่ต้องรอนานอีกด้วย

 

 



5 เฟรนช์ฟราย

อันดับที่ 5 ได้แก่ เฟรนช์ฟราย เฟรนช์ฟราย หรือเรียกอีกอย่างว่า "มันฝรั่งทอด" (ทำมันฝรั่งหั่นเป็นเส้นๆและนำไปทอด)

 

 



4 เบอร์เกอร์

อันดับที่ 4 ได้แก่ เบอร์เกอร์ แม้เป็นที่ทราบกันดีว่าแฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารประเภทขยะ(ขออภัย) ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็เป็นอาหารยอดฮิตติดอันดับโลก ไม่ว่าไปเมืองไหนประเทศอะไรก็จะต้องเห็นแฮมเบอร์เกอร์วางให้ลูกค้าเข้าไปซื้อหาอยู่ในร้านแมคโดนัลด์ หรือเบอร์เกอร์คิงเกือบทุกแห่ง จะมีใครกี่คนทราบบ้างว่าต้นกำเนิดขนมปังประกบเนื้อวัวสับนี้เป็นมาอย่างไร นักวิชาการในยุโรปได้ทำการสืบเสาะหาที่มาที่ไป สรุปได้เป็นเสียงเดียวกันว่าแฮมเบอร์เกอร์เป็นเรื่องราวเร้นลับที่สุดเรื่องหนึ่งในบรรดาประวัติอาหารการกิน เพราะไม่มีผู้ใดทราบหลักฐานชัดเจนใครเป็นผู้ค้นคิดอาหารนี้ขึ้นเป็นเจ้าแรก และเหตุใดจึงเรียกชื่อตามชื่อเมืองฮัมบวร์ก Hamburg (ออกเสียงในภาษาอังกฤษ-แฮมบวร์ก) ทางตอนเหนือของเยอรมนี มีการตั้งสมมุติฐานกันหลากหลาย เช่น ชาวเยอรมันที่อพยพย้ายถิ่นฐานจากเมืองฮัมบวร์ก-เยอรมนีไปอยู่สหรัฐอเมริกาในอดีต จนถึงปัจจุบันต่างงงว่า พวกเขามีชื่อเรียกเป็นชาวแฮมเบอร์เกอร์ (หรือฮัมบวร์กเกอร์)แน่หรือ ซึ่งชื่อนี้ต่างกับชื่ออื่นๆในภาษาเยอรมันที่ขอยืมไปเรียกกันในภาษาอังกฤษและทราบที่มาที่ไปชัดเจน เช่นฮอตด๊อกชนิดหนึ่งในภาษาอังกฤษเรียก „แฟรงค์เฟิร์ตเตอร์" หรือ „เดรสเดนเนอร์" เครื่องพอร์เซเลนที่ทำในเมืองเดรสเดนของเยอรมนี ส่วนชื่อแฮมเบอร์เกอร์กลับมีคำถามชวนสงสับว่าทำไม เพราะเหตุใดจึงเรียกเช่นนี้ และใครเป็นผู้ค้นพบคนแรก

 

 

 

3 พิซซ่า

อันดับที่ 3 ได้แก่ พิซซ่า ประวัติของพิซซ่าเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 79 เมื่อภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิดขึ้นและทลายเมืองปอมเปอีทั้งเมือง หลังจากนั้นประมาณ ค.ศ. 640 แกตาโน ฟิโอเรลลี่ ได้ค้นพบเตาฟืนโบราณจำนวนมากมายในซากปรักหักพังของเมือง ที่ถูกลาวาถล่ม หนึ่งในจำนวนเตาทั้งหมดนั้นพบว่ามีเถ้าถ่านขนมปังติดอยู่ในเตาอยู่ถึง 7 กิโลกรัม ซึ่งเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าทหารโรมันในช่วงเวลาดังกล่าว (ก่อนเมืองปอมเปอีจะถูกถล่มด้วยลาวาและเถ้าภูเขาไฟ) ต่างกินขนมปังที่อบด้วยเตาฟืนโบราณนี้ ซึ่งสันนิษฐาน ได้ว่าชาวเมือง ในเมืองนาโปลีก็ทานขนมปังที่อบในเตาฟืนโบราณเช่นนี้มาประมาณ 700 ปีแล้ว ต่อมาในต้น ค.ศ. 1700 ชาวเมืองนาโปลีจึงได้เริ่มประยุกต์ใส่มะเขือเทศกับสมุนไพรบางอย่างลงในขนมปังแล้วนำไปอบในเตาฟืนโบราณ นี่เองคือจุดเริ่มต้นของมารีนาราพิซซ่า และร้านพิซเซอเรียร้านแรกในนาโปลี ได้เปิดขายในปี ค.ศ. 1830 โดยร้านดังกล่าวใช้วิธีการอบพิซซ่าในเตาที่ทำจากหินภูเขาไฟ อีกประมาณร้อยปีต่อมา (นับจาก ค.ศ. 1700) และชีสเริ่มเข้ามามีอิทธิพลในอาหาร แต่ชีสดังกล่าวไม่ใช่ชีสปกติธรรมดาทั่วไป เป็นชีสที่ทำจากน้ำนมควายพื้นเมืองที่ชื่อ ฟิออเร่ ดี บัฟฟาล่า ประมาณปี ค.ศ. 1850 จึงเกิดพิซซ่ามาเกอริต้าขึ้นโดย ราฟาเอล เอสโปสิโต แห่งเมืองเนเปิล ซึ่งได้ทำพิซซ่าถวายเมื่อคราวที่สมเด็จพระราชาธิบดีอุมแบร์โตที่ 1 และสมเด็จพระราชินีมาเกอริต้าได้เสด็จเยือนเมืองเนเปิล โดยใช้สีบนหน้าพิซซ่าแทนสัญลักษณ์ของธงชาติอิตาลี โดยใช้ใบเบซิลแทนสีเขียวใช้มอสซาเรลล่าชีสแทนสีขาวและมะเขือเทศแทนสีแดง และตั้งชื่อพิซซ่าเพื่อเป็นเกียรติแด่พระราชินีว่า มาเกอริต้า ซึ่งพระนางก็ได้ทรงพระอนุญาตให้ใช้ชื่อพระนางเป็นชื่อของพิซซ่าเมื่อปี ค.ศ. 1889 ซึ่งพิซซ่าดังกล่าวได้กลายเป็นมาตรฐาน ของพิซซ่าในปัจจุบัน ซึ่งพิซซ่าในปัจุบันโดยทั่วไปต่างก็ดัดแปลงหน้ามาจากพิซซ่า 2 ชนิดนี้ ซึ่งเป็นพิซซ่าดั้งเดิมของชาวนาโปลี คือมารีนาราพิซซ่าและมาเกอริต้าพิซซ่า

 

 




2 ช็อคโกแลต

อันดับที่ 2 ได้แก่ ช็อคโกแลต ช็อกโกแลตทำจากการหมัก คั่ว และบดอย่างละเอียดของเมล็ดโกโก้ซึ่งได้มาจากต้นโกโก้เขตร้อน (tropical cacao tree) ซึ่งมีต้นกำเนิดจากอเมริกากลางและเม็กซิโก ต้นโกโก้นั้นถูกค้นพบโดยชาวอินเดียนแดงและชาวอัซเตก (Aztecs) แต่ในปัจจุบันได้แพร่กระจายและปลูกไปทั่วเขตร้อน เมล็ดของต้นโกโก้นั้นมีรสฝาดที่เข้มข้นมาก ผลผลิตของเมล็ดโกโก้รู้จักกันในนาม "ช็อกโกแลต" หรือบางส่วนของโลกในนาม "โกโก้"

 

 

 

1 ไอศกรีม

อันดับที่ 1 ได้แก่ ไอศกรีม ไอศกรีม (อังกฤษ: ice cream) หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า ไอติม เป็นของหวานแช่แข็งชนิดหนึ่ง ได้จากการผสมส่วนผสม นำไปผ่านการฆ่าเชื้อ แล้วนั้นนำไปปั่นในที่เย็นจัด (freezing) เพื่อเติมอากาศเข้าไปพร้อม ๆ กับการลดอุณหภูมิ โดยอาศัยเครื่องปั่นไอศกรีม (freezer) ไอศกรีมตักโดยทั่วไปจะต้องผ่านขั้นตอนการแช่เยือกแข็งอีกครั้งก่อนนำมาขายหรือรับประทาน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Toptenthailand.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook