"อาโปว์" พราวพร เกียรติดำเนินงาม
เด็กอัจฉริยะสอบติดการทูต ม.อันดับ 1 ของจีน เรียนต่อระดับปริญญาตรีที่คณะรัฐศาสตร์การทูต Chinese Foreign Affair University (CFAU) มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของจีน
เรื่องราวของเด็กอัจฉริยะและเป็นเด็กไทยคนแรกที่ไปสร้างชื่อเสียงในประเทศจีน ด้วยการพิชิตที่นั่งเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่คณะรัฐศาสตร์การทูต Chinese Foreign Affair University (CFAU) มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของจีน "น้องอาโปว์" น.ส.พราวพร เกียรติดำเนินงาม สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนสตรีวิทยา 2 สายศิลป์-ภาษาจีน กำลังเตรียมตัวเดินทางไปศึกษาต่อด้านการทูตที่ประเทศจีนปลายปีนี้ ฉบับนี้น้องอาโปว์จะมาเปิดเผยทุกเรื่องราวของเธอ พร้อมทั้งฝากคำแนะนำดี ๆ มาถึงเพื่อน ๆ ทุกคนด้วย
น้องอาโปว์ เล่าให้ฟังว่า มหาวิทยาลัย CFAU เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศจีน โดดเด่นด้านรัฐศาสตร์การเมืองการปกครองมาก ผู้มีชื่อเสียงหลาย ๆ คนของประเทศจีนสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ การสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ประเทศจีนจะเหมือนกับการสอบตรงของบ้านเรา เด็กต่างชาติร่วมสอบได้ แต่ต้องมีผลวัดระดับภาษาจีน (HSK) ระดับ 5 หรือ 6 โดยคะแนนด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 60 คะแนน จึงจะมีสิทธิ์สมัครสอบ การสอบข้อเขียนของทางมหาวิทยาลัยต้องสอบทั้งหมด 2 วิชา (เป็นภาษาจีน) คือ วิชาภาษาจีน และความรู้ทั่วไป เช่น สถานการณ์โลกปัจจุบัน เหตุการณ์การเมืองในประเทศต่าง ๆ ฯลฯ หลังจากผ่านการสอบข้อเขียนแล้ว ทีนี้ก็เข้าสู่การสอบสัมภาษณ์ แล้วก็รอฟังการประกาศผล โปว์วางแผนเอาไว้ว่าจะเข้าทำงานในสถานทูตหรือกระทรวงการต่างประเทศ หรือไม่ก็อาจจะเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจค่ะ
ถ้าเพื่อน ๆ อยากเก่งภาษาจีน โปว์แนะนำว่าอันดับแรกต้องทำใจให้ชอบภาษาจีนให้ได้ก่อน เพราะถ้าเราชอบแล้ว เวลาที่เรียนเราจะรู้สึกสนุก ไม่น่าเบื่อ ช่วยให้เข้าใจและจดจำภาษาจีนได้ง่ายขึ้น เคล็ดลับการเรียนภาษาจีนของโปว์คือ เน้นหลักการใช้และหาโอกาสในการใช้อยู่เสมอ ฝึกพูด ฝึกเขียนบ่อย ๆ เพราะเมื่อเราใช้บ่อย ๆ มันจะเกิดความเคยชินและชำนาญไปเอง ที่ผ่านมาโปว์เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของโครงการ AYC โปว์รู้จักกับโครงการ AYC ผ่านทางโรงเรียนสตรีวิทยา 2 คือทางโรงเรียนประกาศว่าโครงการ AYC เปิดรับสมัครนักเรียนที่สนใจจะเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในต่างประเทศ โปว์เลยตัดสินใจไปสมัครสอบค่ะ ซึ่งโปว์ตั้งใจสมัครเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศจีนตั้งแต่แรก เพราะชอบภาษาจีนและอยากจะพัฒนาทักษะด้านนี้ให้ดีขึ้น คิดว่าถ้าเราได้ไปอยู่ที่ต้นกำเนิดของภาษาจีนเลย น่าจะช่วยให้โปว์พัฒนาภาษาจีนได้เร็วขึ้น
การสมัครสอบทางโครงการ AYC จะให้เราเลือกก่อนเลยว่า อยากจะไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศอะไร จากนั้นก็ต้องสอบข้อเขียนภาษาอังกฤษ และเมื่อผ่านการสอบข้อเขียนแล้วจะเป็นการสอบสัมภาษณ์โดยใช้ภาษาของประเทศที่เราเลือกไป ของโปว์สอบเป็นภาษาจีนกลาง การสัมภาษณ์จะเป็นการสนทนาทั่วไป เมื่อผ่านขั้นตอนการคัดเลือกแล้ว ทางโครงการจะให้เราเลือกเมืองที่อยากจะไปเรียนต่อ ส่วนเรื่องโรงเรียนทางโครงการจะเป็นผู้จัดหาให้เราเอง สำหรับครอบครัวอุปถัมภ์ (host family) ทางโครงการจะให้เราระบุว่าอยากได้ครอบครัวแบบไหน เช่น มีลูกเล็ก เด็ก สัตว์เลี้ยง และรายละเอียดอื่นๆ ในขณะที่เขาเองก็จะเลือกเราเหมือนกัน เมื่อทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันก็เตรียมตัวเดินทางได้เลยค่ะ
ที่โปว์มาถึงจุดนี้ได้ ปัจจัยหนึ่งน่าจะมาจากการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของโครงการ AYC เพราะโครงการ AYC ให้โอกาสโปว์ไปเรียนรู้และพัฒนาภาษาจีนโดยตรง โปว์ได้เรียนในโรงเรียนที่ดี ครูผู้สอนมีประสบการณ์การสอน การเป็นเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนทำให้โปว์เรียนรู้ได้เร็ว และครอบครัวอุปถัมภ์ที่เมืองจีนก็อบอุ่นมาก ดูแลเอาใจใส่โปว์เป็นอย่างดี คอยให้กำลังใจ สอนวัฒนธรรมและการใช้ภาษาจีนให้โปว์อย่างเต็มที่ ถ้าไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ในการเลือกโรงเรียน และครอบครัวอุปถัมภ์ของโครงการ AYC ดูแลโปว์เป็นอย่างดี โปว์คงไม่ได้รับประสบการณ์ดีๆเหล่านี้ และคงไม่พัฒนามาจนถึงจุดนี้แน่นอนค่ะ
สำหรับเพื่อนๆน้องๆที่ต้องการเข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนของ AYC บ้าง โปว์คิดว่าอันดับแรกเราต้องถามตัวเองให้ได้ก่อนว่า ชอบภาษาอะไร ศึกษาวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาแล้วถามตัวเองว่า ชอบจริงหรือเปล่า เพราะนักเรียนบางคนชอบภาษาแต่ไม่เคยศึกษาวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ทำให้ปรับตัวไม่ได้และอาจมีปัญหาเกิดขึ้นตามมาภายหลัง ถ้าเรามั่นใจว่าเราชอบภาษานั้นและสามารถปรับตัวอยู่ในประเทศนั้น ๆ ได้ ก็อย่ารอช้า สมัครเข้าร่วมโครงการเลย ที่ต้องเตรียมพร้อมคือภาษาอังกฤษ เพราะการคัดเลือกผู้สมัครด่านแรกจะเป็นการสอบข้อเขียนภาษาอังกฤษ จากนั้นก็ฝึกใช้ภาษาที่เราต้องการจะไปเรียน รักษาสุขภาพและเตรียมใจให้พร้อมรับกับสิ่งใหม่ ๆ ที่รอเราอยู่ข้างหน้าค่ะ
สุดท้ายนี้โปว์อยากฝากถึงเพื่อน ๆ ที่อยากเรียนอยากเก่งภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาใดก็ตาม ให้ตั้งใจศึกษาหลักการใช้ รวมทั้งหมั่นฝึกฝนหรือหาโอกาสใช้บ่อย ๆ และถ้าเพื่อน ๆ มั่นใจว่าชอบและรับวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ได้ ลองพยายามหาโอกาสไปศึกษาที่แหล่งกำเนิดของภาษาโดยตรง เพราะจะช่วยให้เราพัฒนาได้มากจริง ๆ รวมทั้งเพื่อน ๆ จะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตและได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ในชีวิตมากมายเลยค่ะ
ที่มา "การศึกษาวันนี้"
ผู้เขียน : ปิยะนุช zorau123@hotmail.com