Dawson's Yogurt & Fudge Works ความเหนื่อยที่เต็มใจทำ
ส่วนรัฐที่ตองเลือกไปคือรัฐฟลอริด้าค่ะเพราะเป็นรัฐที่มีชื่อเสียงติดทะเล และมีเมืองท่องเที่ยวมากมาย
ก้าวเข้าปลายปีอย่างนี้หลายคนที่วางแผนเข้าร่วมโครงการ Work & Travel ในปี 2011 นั้นคงกำลังเฟ้นหาเอเจนซี้ที่ถูกใจกันยกใหญ่ หรือหลายคนอาจกำลังเตรียมพร้อมที่จะก้าวเข้าร่วมโครงการแล้ว ถ้ายังไม่พร้อม น้องตอง ต้องใจ เวชอนุรักษ์ รุ่นพี่ที่เคยเข้าร่วมโครงการจะมาเล่าถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาร่วมทั่งเทคนิคและข้อแนะนำที่ทุกคนควรรู้ก่อนเข้าประเทศ
" จุดเริ่มต้นแรกที่ทำให้ตองเข้าร่วมโครงการคือ Work & Travel เป็นโครงการที่น่าสนใจมากค่ะ เพราะได้ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาถึงสามเดือน แล้วปีที่ผ่านมาก็มีเพื่อนไปมาได้ประสบการณ์ดีๆ มากมาย ถึงแม้ว่าจะขาดทุนแต่สิ่งที่ได้กลับมามีค่ามากกว่าตัวเงิน แล้วอีกอย่างคือตองเป็นคนชอบภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ชอบดูหนัง ชอบฟังเพลงต่างประเทศทำให้พอรู้วัฒนธรรมของอเมริกาอยู่บ้าง ก็เลยตัดสินใจที่จะไปโครงการนี้ โดย ตอง เลือกใช้บริการกับบริษัท IEE Thailand ค่ะต้องบอกก่อนว่าเลือกตามเพื่อนค่ะเพราะเราไปสมัครทีหลัง เพื่อนไปสมัครมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เมื่อถามจากเพื่อนถึงการเลือกบริษัท เพื่อนบอกว่าเพราะเจ้าหน้าที่คุยดีและดูแลเราทั่วถึง จำเราได้ทุกคนนะค่ะเพื่อนก็เลยวางใจไปกับบริษัทนี้
ส่วนรัฐที่ตองเลือกไปคือรัฐฟลอริด้าค่ะเพราะเป็นรัฐที่มีชื่อเสียงติดทะเล และมีเมืองท่องเที่ยวมากมาย ดังนั้น ร้านอาหารหรือโรงแรมที่เราจะไปทำงานก็ค่อนข้างจะมีเยอะค่ะ ซึ่งตอนแรกก็เลือกทำงานเป็น Housekeeping ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน เมือง Seaside รัฐ Florida เมืองนี้เป็นเมืองใหม่ขนานเล็กถัดจาก Panama City Beach ติดทะเลที่สวยมากเลยค่ะ แต่บังเอิญว่าตอนนั้นเดินทางไปถึงเร็วมาก เป็นกลุ่มแรกทำให้ยังไม่ได้ทำงานตามที่เลือกไว้ เพราะทางรีสอร์ทยังไม่ต้องการคนในขณะนั้น ทางเอเจนซี่เลยพาไปทำงานร้านอาหารในละแวกเดียวกับโรงแรม ซึ่งเจ้าของร้านมีกิจการทั้งหมด 4 ร้านใกล้ๆ กันตองเลยได้ทำงานที่ร้านไอศกรีม Dawson's Yogurt & Fudge Works แทนค่ะเป็นไอศกรีมประเภท Soft Serve มีเมนูหลากหลายมาก เช่น Sundae, Banana Split, Parfait และอื่นๆ
การทำงานในสัปดาห์แรกๆ รู้สึกเครียดเนื่องจากเป็นงานที่ค่อนข้างยากมากค่ะ เพราะเราต้องอยู่ทั้งหน้าร้านและหลังร้าน สื่อสารกับลูกค้าตั้งแต่วันแรกที่ทำงานจริงๆ เรื่องการฟังเราไม่มีปัญหา แต่เรื่องการพูดยากทีเดียวค่ะ เพราะบางทีพูดกับลูกค้าแล้วไม่เข้าใจ ต้องอธิบายอยู่นานกว่าจะเข้าใจที่เราพูด แถมเมนูไอศกรีมก็เยอะมากๆ ด้วย กว่าจะจำได้หมดก็ใช้เวลาค่อนข้างนานทีเดียว มีปัญหาอะไรเราก็ค่อย ๆ แก้ไขปัญหาที่ละเรื่องประมาณสองสามอาทิตย์ก็เริ่มเข้าที่ข้างทางทำเป็นทุกอย่างค่ะ
ค่าตอบแทนสำหรับการทำงานร้านไอศกรีมที่ชายทะเลมีแค่ช่วงสั้นๆ ค่ะ คือช่วง Spring Break และช่วง Summer Break ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก ซึ่งตอนนั้นจะได้ทำงานเต็มชั่วโมงและก็ได้ Overtime ด้วยเป็นอย่างนี้ประมาณเดือนครึ่งค่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าสู่ช่วงหมดเทศกาลเราจะโดนลดชั่วโมงลงและได้ทิปน้อยลงด้วย แต่ว่าก็ไม่ได้เสียใจเพราะมีความสุขกับงานที่ทำค่ะได้ฝึกภาษาได้พบกับคนมากหน้าหลายตา แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มแล้วค่ะ
สำหรับปัญหาที่ยากบอกเพื่อนๆ ให้ระวังไว้คือเรื่อง Social Security Card สำคัญมากค่ะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการหางานที่สองทำ เนื่องจากตอนเข้าประเทศเจ้าหน้าที่ ตม.หรือเจ้าหน้าที่รัฐใส่ข้อมูลวันเกิดผิดโดนลดอายุไป 10 ปี ตอนทำบัตรโซเชียลซึ่งงานทุกอย่างจำเป็นต้องใช้เลขโซเชียลในการหางานที่สองรองจากงานแรก ทำให้พลาดงานไปหลายงานสุดท้ายก็ได้ที่ Seaside Store โดยบอกว่าจะบอกเลขโซเชียลในภายหลังทางร้านก็โอเคค่ะ
จากการออกเดินทางไปต่างประเทศในครั้งนี้ ตองได้ประสบการณ์ทั้งการใช้ชีวิตการทำงาน และโดยเฉพาะเพื่อนที่พักด้วยกันเป็นสิ่งล้ำค่าที่ได้กลับมาจากการเดินทางทริปนี้ จากคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่กลับสนิทกันมากในเวลาแค่ 3 เดือน เพราะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ทำงานใกล้ๆ กัน แล้วก็ไปเที่ยวด้วยกัน ทำให้เราได้เพื่อนดีๆ กลับมาหลายคนเลยค่ะ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังจะออกเดินทาง Work and Travel 2010 นี้ ตองยากให้ให้ทุกคนแค่เตรียมใจไปก็พอ แต่ว่าก็ต้องศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวไปเยอะๆ ก็ดีค่ะ เพราะเราอาจต้องรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดอะไรหลายๆ อย่างที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ พอถึงตอนนั้นแล้วถ้าเรามีข้อมูลเยอะๆ ก็อาจช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย และอีกอย่างหนึ่งคืออย่าคาดหวังเพราะมันอาจไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดไว้ แต่ก็คุ้มที่จะเสี่ยงค่ะ
ที่มา "การศึกษาวันนี้"
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ