3 หนุ่ม ROOKIE BB ความรับผิดชอบทำให้เราทำทุกอย่างได้สำเร็จ

เป็นกลุ่มศิลปินน้องใหม่ที่ค่ายใหญ่ฝั่งลาดพร้าวภูมิใจนำเสนอ หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ ติดตามผลงานของพวกเขาผ่าน Face book แล้วก็ Twitter มาซะนานในฐานะว่าที่ศิลปินของอาร์เอส กับโครงการ Rookie BB โปรเจ็ค ที่อาร์เอสจัดทำขึ้นเพื่อเฟ้นหาศิลปินหน้าใหม่มาประดับวงการ และจากโครงการนี้ก็ทำให้เราได้วงบอยแบรนด์น้องใหม่ใสกิ๊ก มีชื่อวงตามชื่อโปรเจ็คว่า ROOKIE BB อยากรู้จักพวกเขากันแล้วใช่มั้ย ถ้าอย่างนั้นอย่ารอช้าไปทำความรู้จักพวกเขากันเลย

แนะนำตัวกันก่อน
สวัสดีครับ ป๊อป ศุภสิทธิ์ ชินวินิจกุล ตอนนี้เรียนอยู่ ปี 1 คณะ MBA Marketing มหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ดครับ
สวัสดีครับ เอี๊ยง สิทธา สภานุชาติ ตอนนี้เรียนอยู่ ปี 3 คณะพาณิชยการและการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ครับ
สวัสดีครับ อาร์ม วีรยุทธ จันทร์สุข เรียนอยู่ ปี 1 คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงและกำกับการแสดง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตรครับ

การรวมตัวของ Rookie BB
คือทางอาร์เอส เขามีโปรเจ็คค้นหาศิลปินหน้าใหม่ ชื่อโปรเจ็คว่า ROOKIE BB ซึ่ง Rookie แปลว่าหน้าใหม่ไฟแรง ส่วน BB มาจาก BOY BAND รวมกันแล้วแปลว่า กลุ่มบอยแบรนด์หน้าใหม่ไฟแรง ตอนนั้นเรายังไม่มีซิงเกิ้ลในการโปรโมต แต่เขาโปรโมตเราผ่านกิจกรรมต่างๆ อย่างเวลาเราเข้ามาซ้อมร้องซ้อมเต้นที่อาร์เอส พี่ๆ ทีมงานเขาก็จะคอยถ่ายวิดีโอแล้วเอาไปอัพโหลดลงเฟสบุ๊คให้เพื่อนๆ ได้ติดตาม เป็นการแนะนำตัวไปก่อนว่า เราสามคนกำลังจะมาเป็นนักร้องที่อาร์เอสนะ ให้แฟนๆ ให้มาดูพัฒนาการของพวกเราว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วพอมาระยะหนึ่ง ถึงเวลาที่เราพร้อมจะมาเป็นศิลปินจริงๆ ก็เลยให้แฟนคลับช่วยตั้งชื่อวง ทุกคนรู้จักเราในนาม ROOKIE BB มาตั้งแต่แรก ก็เลยกลายเป็นว่าส่วนใหญ่แล้วเอาชื่อนี่ เราก็เห็นว่ามันก็ดีเหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจใช้ชื่อนี่เป็นชื่อวง

ความรู้สึกของศิลปินหน้าใหม่
เอี๊ยง ถามว่าดีใจมั้ย ก็คงตอบว่าดีใจมากครับ เพราะเมื่อก่อนเราก็เป็นแค่เด็กไทยคนหนึ่ง ทำเพลงร้องเพลงหรือฟังเพลงที่เป็นไอดอลของเรา วันหนึ่งก้าวเขามาเป็นศิลปิน ก็ดีใจ แต่ในความดีใจมันก็มีความกดดันแฝงอยู่ เพราะเรามายืน ณ จุดที่ มีหลายคนจับตามองเราอยู่ บางคนเขาอาจจะมองเราเป็นไอดอล เพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำตัวเองให้ดี พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ถ้ามีคนเอาเราเป็นแบบอย่างเขาก็จะได้ทำในสิ่งดีๆ
ป๊อบ ส่วนของป๊อบจะมองเป็นเรื่องของความรับผิดชอบ มันทำให้เราต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ทั้งการเรียนทั้งการทำงาน ทุกอย่างมันคือการแบ่งเวลา ถ้าเราแบ่งเวลาได้ถูก ได้ดี และรับผิดชอบได้ทั้งสองอย่าง ก็เท่ากับว่าเป็นชีวิตที่ประสบความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งครับ
อาร์ม ความรู้สึกของอาร์มมันเหมือนเกมส์ของชีวิต (เพื่อนร้องแซว) ไม่ใช่เวอร์ชั่นธรรมดา เป็นเวอร์ชั่นขั้นแอดวานซ์ คนอื่นเขาอาจจะอยู่กับครอบครัวแล้วก็เรียน แต่ของเราอยู่กับครอบครัวด้วย เรียนด้วย แล้วก็ทำงานด้วย และงานของเรามันไม่ได้เป็นงานที่ต้องรับผิดชอบแค่ตัวเอง แต่เราต้องรับผิดชอบสังคมด้วย เพราะทุกๆอย่างที่เราทำไป ไม่ใช่แค่เรารู้ว่าเราทำ แต่ว่ามีสังคมที่จับจ้องเราอยู่ เราต้องระมัดระวังในการวางตัว และมันก็เป็นเรื่องที่ดี ที่เราจะได้ฝึกฝนตัวเราด้วย

ผลงานที่ผ่านมาเปรียบเทียบกับงานเพลง
ป๊อบ ป๊อบเคยเป็นนักแสดงมาก่อน จากภาพยนตร์เรื่อง ม.3 ปี 4 เรารักนาย ซึ่งพอเทียบกับนักร้องสำหรับป๊อบมันต่างกันมาก อย่างหนึ่งคือ นักแสดงเราเล่นกับกล้อง เล่นกับนักแสดงไม่กี่คน เราสามารถทำอะไรก็ได้ เพราะว่ามันมีการคัต เทคเอาใหม่ได้ แต่การเป็นนักร้องที่มากกว่านักแสดงคือการเล่นคอนเสิร์ต คือเราต้องเอาคนดูให้อยู่ เราต้องเล่นอะไรสด อีกอย่างคือการแก้ปัญหาเฉพาะต้องใช้เยอะมาก มีอะไรเกิดขึ้นตลอดเวลา เราต้องแก้ไขตลอด ป๊อบว่ามันต่างกันตรงนี้

อาร์ม ที่ผ่านมาก็จะมีแค่โฆษณาแล้วก็ถ่ายแบบตามนิตยสารทั่วไป แล้วก็งานพิธีกร สำหรับงานพิธีกรเปรียบเทียบกับนักร้อง ถามว่าต่างมั้ย ที่จริงก็ไม่มากครับ ก็เป็นการสื่อสารเหมือนกัน แค่ว่าคนละแบบ แต่ว่าสิ่งที่ได้จากการเป็นพิธีกรมันช่วยเสริมในเรื่องการเป็นนักร้อง เราพูดจาฉะฉานขึ้น ต้องคิดก่อนพูด คือเราเป็นนักร้องมันต้องเน้นการสื่อสารเยอะ ถึงแม้ว่าตอนอยู่บนเวทีเราจะสื่อสารกับคนดูแบบว่าพูดจาไม่ได้ เราต้องใช้ภาษาเป็น Body Language หรืออาจจะเป็นสายตาก็ได้ ซึ่งอาร์มคิดว่ามันมาช่วยส่งเสริมกันมากกว่าเวลาที่เราสื่อสารกับคนดูมันจะได้ง่ายขึ้น คล่องตัวมากขึ้น
เอี๊ยง ผลงานที่ผ่านมาก็คือจะมีเอ็มวี แล้วก็ (ทำท่าคิดนึดนึง) คือมีเท่านั้นแหละครับ (หัวเราะ) เอาเป็นว่าเปรียบเทียบจากความเป็นเด็กธรรมดาดีกว่า จากวันหนึ่งที่เราเคยนั่งรถตู้ จากธรรมศาสตร์ รังสิต มาลงลาดพร้าว เดินมาทำงานที่อาร์เอส และเมื่อเร็วนี้ๆ มีเด็กจาก ม.กรุงเทพ ทักผมบนรถตู้ว่าพี่เอี๊ยง Rookie BB หรือเปล่าครับ ผมก็พยักหน้าตอบว่าใช่ แล้วน้องเขาก็บอกว่าผมชอบพี่มากเลยครับ เราก็เลยมาคิดว่านี่ขนาดเราเพิ่งเป็นศิลปินคนยังรู้จักเราขนาดนี้ แล้วเขาเป็นหนึ่งคนที่เขากล้ามาทักเรา มีคนอีกเป็นล้านคนที่รู้จักเรา คือหนึ่งผมจะบอกว่าทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมแล้ว เราต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆ เพราะบางคนมีเราเป็นไอดอล และเขาอาจจะทำตามเรา นี่ครับคือความแตกต่างในมุมของผม

เรียนและงานสองอย่างที่ต้องทำควบ
ป๊อบ ตอนนี้ป๊อบเพิ่งเข้าไปเรียนปีหนึ่งที่ ที่แสตมป์ฟร์อดความรู้สึกตื่นมาก เพราะมันเป็นอินเตอร์ ป๊อบเคยเรียนมัธยมฯ ที่เป็นภาคไทยมาก่อนเรียนที่สวนกุหลาบ เข้าไปเรียน BBA Marketing เพราะตัวเองชอบ เพราะพื้นฐานเป็นคนชอบคิดคิดอะไรไกลๆ หลายๆ ทอด หลายๆ ชั้น เหมือนว่าเป็นคนชอบมองแล้วก็คิดตาม เราก็เลยคิดว่าสาขาวิชานี้แหละที่เหมาะกับเรามากที่สุด เพราะต้องเอามาวางแผนการตลาด
เอี๊ยง ผมก็จบโรงเรียนเดียวกับป๊อบครับ จบสวนกุหลาบ แล้วก็สอบเข้าบัญชีที่ธรรมศาสตร์ ถามว่าชอบบัญชีมั้ย ก็จริงๆผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมชอบอะไร (หัวเราะ) แต่แม่อยากให้เรียนอะไรเกี่ยวกับตัวเลข และก็คณะบัญชีธรรมศาสตร์เนี่ยเข้ายากด้วย เรามีโอกาสสอบเข้าไปได้ ก็เลยเรียน ตอนนี้เรียนอยู่ปีสามรู้สึกว่ามันห่างไกลความเป็นตัวเองออกไปทุกที (หัวเราะ) ความจริงมันไม่ได้ยากอะไรหรอกครับ แต่เราต้องมีความรับผิดชอบ ถามว่าโอเคกับมันมั้ยก็โอเคนะ
อาร์ม ผมเลือกเรียนการแสดง และเลือกที่ มศว. ตอนเข้ามาปีหนึ่งก็ตื่นเต้นเหมือนกันครับ ตอนนี้อยู่ปีสองแล้วความตื่นเต้นก็ไม่ได้ลดลง คือมันเป็นคณะที่เราตั้งใจมากว่าจะเข้า แล้วเราก็ไม่ได้สอบแอดมิดชั่นด้วย เราสอบตรงเข้ามาเลือกที่นี่ที่แรก แล้วก็ติดเลยก็ดีใจครับ ที่เลือกสาขานี่เพราะคิดว่าสามารถเอาประยุกต์ใช้กับความเป็นศิลปินได้ มันเป็นการเรียนที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงานครับ

ฝากผลงาน
ฝาก Rookie BB ด้วยครับ ตอนนี้มีสามซิงเกิ้ล เพลงแรกก็ Follow you Follow me เพลงที่สองก็ ยิ่งใกล้ยิ่งไกล แล้วเพลงที่สาม ก็โทรมาในฐานะเพื่อน ก็อยากจะฝากทั้งสามซิ้งเกิล แล้วก็มีซิงเกิ้ลใหม่ที่จะตามออกมา เป็นการเริ่มต้นของพวกเราสามคน จะไปได้ดี หรือว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับทุกคนว่าจะอยู่เคียงข้างพวกเราแค่ไหน งานนี้พวกเราตั้งใจทำกันมาก ก็อยากฝากเพื่อนๆ ทุกคนช่วยติดตามพวกเราด้วยนะครับ

ที่มา "การศึกษาวันนี้"