กิ่ง เดอะสตาร์ ความมุ่งมั่นนำมาซึ่งความสำเร็จ

เวลาที่ได้เห็น กิ่ง เหมือนแพร พานะบุตร หรือ กิ่ง เดอะสตาร์ 5 ทีไร เรามักจะได้เห็นเธอในลุคที่สดใส น่ารัก และมีความสุขอยู่เสมอ นั่นก็เป็นเพราะว่า เธอกำลังมีความสุขอยู่กับสิ่งที่เธอทำ มีความสุขกับการได้ขับกล่อมเพลงเพราะๆ ให้ทุกคนได้ฟังกัน...ดังนั้น Sanook! Campus ก็เลยขอพาเพื่อนๆ ย้อนวันวาน เพื่อไปดูจุดเริ่มต้นของความรักที่กิ่ง เดอะสตาร์มีต่อเสียงเพลงและเสียงดนตรี....^^

จุดเริ่มต้นของความรักดนตรี...ตั้งแต่จำความได้ก็ดูเหมือนว่า กิ่ง เดอะสตาร์ จะได้ยินเสียงเพลงคอยขับกล่อมอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากคุณพ่อและคุณแม่เป็นคนที่มีดนตรีและเสียงเพลงอยู่ในหัวใจ และมักจะร้องเพลงร่วมกันอยู่เสมอ

"กิ่งเป็นคนที่ชอบฟังเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ คือคุณพ่อคุณแม่เป็นคนที่ชอบร้องคาราโอเกะมาก ก็จะร้องเพลงตลอดเวลา ส่วนกิ่งก็เริ่มจากการเป็นผู้ฟังก่อน จากนั้นก็เริ่มขยับมาเป็นเล่นดนตรีตอนอนุบาล คุณแม่ก็ส่งไปเรียนอิเล็คโทน ซึ่งพอได้ไปเรียนกิ่งก็ชอบมาก และรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้เล่นดนตรี ส่วนเรื่องร้องเพลงเริ่มชอบตอนเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ซึ่งเป็นช่วงที่พี่ ทาทา ยัง ออกอัลบั้ม กิ่งได้ยินเสียงพี่ทาทาแล้วรู้สึกรักเลย พี่ทาทาร้องเพลงได้ไพเราะมาก ทำให้กิ่งเกิดแรงบันดาลใจ อยากที่จะร้องเพลงได้เหมือนพี่ทาทา ซึ่งกิ่งถือว่าพี่ทาทาคือไอดอลของกิ่งเลยก็ว่าได้ จากนั้นกิ่งก็ฝึกร้องเพลงของพี่ทาทา จนร้องได้ทุกเพลง แล้วพอมีกิจกรรมประกวดร้องเพลงที่โรงเรียน กิ่งก็จะเข้าร่วมด้วยทุกครั้ง"

หลังจากที่เกิดแรงบันดาล อยากที่จะร้องเพลงได้เหมือนไอดอลคนดัง กิ่ง เดอะสตาีร์ ก็ไม่รอช้า เข้าไปขออนุญาตคุณแม่เพื่อไปเรียนร้องเพลง

"เวลาที่เรารักที่จะทำอะไรสักอย่าง เราก็อยากที่จะพัฒนามันไปให้ถึงที่สุดใช่ไหมคะ กิ่งก็เลยอยากพัฒนา อยากได้ทักษะทางด้านการร้องเพลงให้มากขึ้น ก็เลยขอคุณแม่ไปเรียนร้องเพลง ปรากฎว่า คุณแม่ไม่อนุญาต! คุณแม่บอกว่า กิ่งก็ร้องได้อยู่แล้วนี่ จะไปเรียนอีกทำไม กิ่งก็เลยฝึกร้องเพลงจากการฟังแล้วก็ร้องตาม พอขึ้นชั้นมัธยม กิ่งก็พยายามขอคุณแม่ไปเรียนร้องเพลง คุณแม่ก็ยังไม่ให้ไปเรียน จนกิ่งรู้ว่า กิ่งคงไม่ได้ไปเรียนร้องเพลงแล้ว ก็เลยทุ่มเทเวลาให้กับการฝึกร้องเพลงเอง แล้วก็เต็มที่กับการร่วมกิจกรรมประกวดร้องเพลงในโรงเรียนแทน จนกิ่งกับเพื่อนได้ตั้งวงดนตรีขึ้นมา ก็ไปแข่งวงดนตรีกับเพื่อน จนกระทั่งอยู่ ม.6 เพื่อนทั้งวงก็เตรียมตัวที่จะสอบเข้าดุริยางคศาสตร์ ที่ศิลปากร เขาก็มาชวนกิ่งไปสอบตรงที่ศิลปากรด้วยกัน ว่ากิ่งไปสอบด้วยกันไหม กิ่งจึงตัดสินใจไปสอบด้วย"

เมื่อตัดสินใจที่จะเดินตามความรักที่มีต่อเสียงเพลง กิ่ง เดอะสตาร์ จึงตัดสินใจไปสอบเข้าเรียนที่คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

"กิ่งไม่ได้บอกคุณพ่อคุณแม่ว่ากิ่งจะเรียนต่อที่ไหน หรือคณะอะไร แต่เดินเข้าไปขอค่าสมัครสอบกับคุณแม่ ซึ่งคุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ให้เงินมา 1500 บาท จากนั้นเราก็มุ่งหน้าเข้าไปสมัครสอบดุริยางคศาสตร์ ที่ศิลปากร ทั้งๆ ที่ไม่รู้ทฤษฎีดนตรีอะไรเลย รู้แค่ชอบฟังเพลงและร้องตามเท่านั้้นเอง ทีนี้พอกิ่งไปถึงสถานที่สมัคร ที่นี่เปิดสอน 3 สาขาวิชาให้เราได้เลือกเรียน ก็มี การแสดงดนตรี (Performance) ดนตรีแจ๊ส (Jazz Studies) และดนตรีเชิงพาณิชย์ (Commercial Music) กิ่งก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่เคยเรียนมาก่อน โชคดีที่คุณครูที่มหาวิทยาลัยให้โอกาสเรา เขาก็ให้ซีดีเพลงให้กิ่งลองไปฟัง ลองร้องเพลงตามซีดีนี้ พยายามทำความเข้าใจ แล้วลองมาเข้าสอบภาคปฏิบัติดู"

เมื่อได้ซีดีเพลงแจ๊สมาแล้ว กิ่ง เดอะสตาร์ ก็มุ่งมั่นฝึกฝนการร้องเพลงแจ๊ส เริ่มจากการฟัง ร้องตาม เลียนแบบ และค้นหาสไตล์การร้องของตนเอง จนในที่สุด กิ่ง เดอะสตาร์ ก็สามารถสอบภาคปฏิบัติผ่าน และด้วยความตั้งใจที่มีเต็มเปี่ยม กิ่ง เดอะสตาร์ จึงไปขอร้องให้รุ่นพี่ในมหาวิทยาลัย ช่วยติวภาคทฤษฎีให้ จนเธอสามารถเข้าเป็นนักศึกษาคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปกร เอก Voice Jazz ได้ในที่สุด

"พอสอบตรงได้แล้ว กิ่งก็ไปบอกกับที่บ้านว่า เนี่ยสอบติดแล้วนะที่ศิลปากร แต่เป็นคณะดนตรี แม่ก็งงๆ ว่าไปสอบตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่กิ่งก็ถือว่าโชคดีมากที่คุณแม่เข้าใจและเห็นความตั้งใจของกิ่ง แล้วท่านก็ดีใจกับกิ่งที่กิ่งสามารถสอบติดได้"

หลังจากพ้นช่วงมัธยมศึกษาก็เป็นช่วงที่ กิ่ง เดอะสตาร์ ได้ทำความเข้าใจกับสิ่งที่รักอย่าง ดนตรี แบบจริงจัง และในขณะที่เธอกำลังมุ่งมั่นอยู่กับการเรียน ก็มีเสียงเว้าวอนจากคุณแม่ที่ขอให้เธอเข้าประกวด เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว เพื่อแม่!!

"พอเริ่มเข้ามาเรียนร้องเพลงแล้ว กิ่งก็ตั้งใจมาก เพราะเหมือนเราต้องไปเรียนพื้นฐานใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ทฤษฎี ประวัติศาสตร์ ต้องไปเริ่มใหม่ มุ่งมั่นตั้งหน้าตั้งตาเรียน ตอนนั้นก็มีรายการเดอะสตาร์มา มีการประกวดกันมาเรื่อยๆ คุณแม่เนี่ย ชอบดูเดอะสตาร์มาก เรียกได้ว่า เป็นแฟนคลับ มีป้ายไฟ (หัวเราะ) เรียกได้ว่า แก้มร้องเมื่อไหร่ แม่ต้องชูป้ายไฟแก้ม มีอยู่วันหนึ่งแม่ก็บอกว่า กิ่งก็เรียนดนตรีแล้วนะ แม่ยอมให้กิ่งเรียนแล้ว ถ้าเกิดแม่จะขอให้กิ่งไปสมัครเดอะสตาร์ ทำให้แม่หน่อยได้ไหม ซึ่งตอนนั้นกิ่งห่างเวทีการประกวดมาก เพราะตั้งแต่เข้ามหาวิทยาัลัยได้ เราก็ทุ่้มเทกับการเรียน แล้วฝึกร้องเพลงตลอด จะขึ้นแต่เวทีบนผับ Jazz ที่ถนนพระอาทิตย์ของอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเวทีฝึกประสบการณ์ของเด็กศิลปากร แต่เพื่อคุณแม่ กิ่งก็เลยเข้ามาประกวดเดอะสตาร์ 5"

พอได้ยินคำขอจากคุณแม่ กิ่ง เดอะสตาร์ ก็เลยเดินเข้ามาประกวดในเวที เดอะ สตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 5 โดยไม่ได้คิดฝันมาก่อนว่า เธอจะได้เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายของเดอะสตาร์ ความรู้สึกที่เคยคิดว่า ทำเพื่อแม่ จึงแปลเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นที่จะเดินไปตามเส้นทางความฝันของการเป็นนักร้องเพื่อตัวของเธอเอง และเพื่อความภาคภูมิใจของแม่ด้วย นอกจากนี้ กิ่ง เดอะสตาร์ ยังได้นำเอาความรู้ที่ได้เรียน มาปรับใช้กับการประกวด โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง ซึ่งได้รับมาจากการได้ร่วมกิจกรรมของทางมหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความสามารถอยู่ตลอดเวลา

ถึงแม้ว่าการเดินทางของเธอ จะไปไม่ถึงฝั่งฝันของการคว้าชัยแห่งเวทีเดอะสตาร์ แต่ความมุ่งมั่นตั้งใจของเธอ ก็ทำให้เธอมีผลงานเพลงออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกันอยู่เสมอ จนในที่สุด ปี 2554 นี้ เธอก็มีอัลบั้มที่เป็นของเธอเองในชื่อว่า A Little big Thing...ที่มาจากสิ่งเล็กๆ คือการชอบร้องเพลงของเธอจนกลายมาเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และสร้างความภาคภูมิใจให้กับเธอ คือการได้มีงานเพลงและมีอัลบั้มเดี่ยวเป็นของตัวเอง

"อัลบั้มแรกในชีวิตของกิ่ง กิ่งรู้สึกปลื้มมาก นอกจากนี้กิ่งยังมีโอกาสได้ทำงานกับคนเก่ง ทำให้กิ่งได้เรียนรู้เทคนิค วิธีการ ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หลากหลาย และเกิดการพัฒนาตัวเองมากขึ้นด้วย ยังไงกิ่งก็ขอฝากอัลบั้มแรกในชีวิตของกิ่งด้วยนะคะ"

สำหรับเพื่อนๆ ที่มีความฝัน ขอเพียงมุ่งมั่น ตั้งใจ ฝึกฝน และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ เชื่อได้ว่าสักวันหนึ่งโอกาสต้องมาถึงอย่างแน่นอน...Sanook! Campus ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่มีความฝันค่ะ ^^

 

เรื่องโดย : Sanook! Campus
ภาพประกอบ : ทีมงาน sanook.com

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)