เมื่อคอมพิวเตอร์เล่นงานคุณ

มองไปทางไหนก็เห็นมีแต่คนใช่คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะทำงาน เล่นอินเตอร์เน็ต หรือเล่นเกมส์ สารพัดกิจกรรมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีที่ใครต่อกันที่พาใช้ จนไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปจากชีวิตประจำวันได้

ยิ่งโดยเฉพาะคนที่ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยแล้ว ใช้น้อยก็คงไม่เป็นไร แต่บางคนที่ต้องนั่งหน้าจอนานถึงวันละ 8 - 10 ชม. ล่ะ...

บางคนอาจจะโดนคอมพิวเตอร์เจ้ากรรมเล่นงานเข้าให้แล้วก้ได้

เล่นงานที่ว่าไม่ใช่คอมพิวเตอร์ลุกขึ้นมาแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์พิฆาตทำลายล้างเหมือนในหนังนั่นหรอกนะ ! แต่เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ต่างหากล่ะ

Computer vision syndrome คือ อาการที่เป็นผลพวงมาจากการใช้คอมพิวเตอร์มาเป็นเวลานาน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ตาเมื่อยล้า ตาแห้ง อาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์มากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากว่า 40 ปี บางคนอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย ไม่บั่นทอนการทำงานมากนัก เพียงแค่พักเมื่อหรือพักสักสายตาแค่สักครู่ก้สามารถกลับไปทำงานได้ต่อ แต่บางคนอาจจะต้องพักวัยละหลาย ๆ รอบ หรือต้องหยุดพักหลายวัน จึงจะสามารถกลับมาทำงานได้ใหม่ และยังทุกข์ทรมานกับอาการปวดเรื้อรังต่าง ๆ อีกด้วย

เราลองมาดูที่สาเหตุ วิธีการป้องกัน และแก้ไขปัญหากันนะคะ

ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต่าง ๆ เช่น ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อทำงานมากเกินไป หรือระดับของโต๊ะที่วางคอมพิวเตอร์หรือเก้าอี้ไม่เหมาะสมกับรูปร่าง หรือขนาดของลำตัว

วิธีการป้องกันและแก้ไข เมื่อรู้สึกเมื่อย ควรเปลี่ยนท่าทางหรือลุกออกไปเดินเล่นซักครู่ หรือยืดเส้นยืดสายด้วยการก้มตัว หรือแอ่นหลังดัดตัวกับพนักเก้าอี้ที่เรานั่งหรือบิดลำตัว เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น
นอกจากนี้การจัดท่าทางการนั่งทำงานก็ควรทำให้เหมาะสมด้วย จัดโต๊ะทำงานให้จอมอนิเตอร์อยู่ระดับพอดีกับสายตา เก้าอี้ควรมีพนักพิงและสูงพอดี สามารถวางเท้าราบกับ โดยให้เข่าตั้ง 90 องศา คีย์บอร์ดควรอยู่สูงระดับที่เมื่อวางมือแล้วข้อศอกจะงอประมาณ 100 - 110 องศา และควรนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิงสามารถรองรับได้เต็มแผ่นหลัง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายของเราอยู่ในท่าที่พอดีไม่เกิดปัญหาสุขภาพได้

ตาเมื่อยล้า อาจะเกิดจากแสงสว่างไม่เพียงพอ หรืออาจะมีแสงเข้ามามากเกินไป ทำให้สะท้อนเขาตาเราจนเกิดตาล้าได้

วิธีแก้ วางจอให้อยู่ในที่ ๆ มีแสงสว่างเพียงพอนั่งห่างจากจอภาพไม่น้อยกว่า 30 ซม. ควรปรับคลื่นแสงที่หน้าจอให้อยู่ที่ระดับ 70-80 Hg จะทำให้จอภาพเต้นน้อยลง ดูแล้วสบายตาขึ้น

ตาแห้ง เวลาเรามีสมาธิในการทำงาน อัตราการกระพริบของเราจะลดลง (ยามปกติเรากระพริบตา 20 ครั้งต่อนาที) ทำให้น้ำตาไม่สามารถเกลี่ยคลุมดวงตาของเราให้ชุ่มชื้นได้ ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไปนาน ๆ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดต้อลมได้

วิธีแก้ ควรกระพริบตาให้บ่อยขึ้น หรือพักสายตาจากคอมพิวเตอร์ทุกๆ 10 นาที หลังใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน

รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกัน เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา ก่อนจะเสื่อมสภาพจนเกินเยียวยา