กรมควบคุมโรคแนะหลัก 5 ย ป้องกันสุนัขกัด

กรมควบคุมโรคแนะหลัก 5 ย ป้องกันสุนัขกัด

กรมควบคุมโรคแนะหลัก 5 ย ป้องกันสุนัขกัด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

กรมควบคุมโรค 1 ก.พ.- นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้โรคพิษสุนัขบ้าอาจจะระบาดหรือเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากภายหลังเกิดอุทกภัยพบว่ามีหมาพลัดหลง ทำให้จำนวนสุนัขจรจัดเพิ่มมากขึ้น จึงควรระวังในการเก็บสุนัขมาเลี้ยง เพราะสุนัขอาจจะไปรับเชื้อจากสุนัขที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมแนะนำประชาชนยึดหลัก 5 ย ป้องกันการถูกสุนัขกัด ได้แก่ "อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าแยก อย่าหยิบ อย่ายุ่ง" อย่าแหย่ให้สุนัขโมโห อย่าเหยียบสุนัข (หาง,ตัว,ขา) หรือทำให้สุนัขตกใจ อย่าแยกสุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า อย่าหยิบชามอาหารขณะสุนัขกำลังกิน และอย่ายุ่งกับสุนัขนอกบ้านหรือที่ไม่ทราบประวัติ

สำหรับสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในปี 2554 มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า จำนวน 7 รายแยกเป็นสัตว์มีเจ้าของ 5 ราย และไม่มีเจ้าของ 2 ราย ส่วนกลุ่มที่ถูกกัดมากที่สุด คือ กลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี และ อายุ 1-4 ปี ดังนั้น ผู้เลี้ยงสุนัขควรศึกษาวิธีการเลี้ยงอย่างถูกต้องและมีความรับผิดชอบเลี้ยงแล้วต้องพาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าครั้งแรกเมื่อสุนัขอายุ 2-4 เดือน หากถูกสุนัขกัดให้รีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง แล้วเช็ดให้แห้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น เบตาดีน รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจนครบตามที่แพทย์สั่ง จำสัตว์ที่กัดให้ได้เพื่อสืบหาเจ้าของและสอบถามประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าติดตามดูอาการสุนัข 10 วัน และถ้าพบสุนัขตายลง โดยก่อนตาย 10 วัน มีประวัติกัดคนหรือสัตว์อื่น ควรนำหัวส่งตรวจโดยประสานกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์พื้นที่ใกล้บ้าน.-สำนักข่าวไทย

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook