3 นศ.สาขาภาษาฝรั่งเศส ม.รังสิต ได้รับทุนศึกษาต่อที่ประเทศเวียดนาม

3 นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาไทยและอาเซียน ประจำปี 2555 จากสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา เพื่อรวมโครงการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมที่มหาวิทยาลัย Can tho เมือง Can tho ประเทศเวียดนาม

นางสาวกมลวรรณ พุฒิรุ่งโรจน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนและเพื่อนๆ ทราบข่าวการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาไทยและอาเซียนจากอาจารย์ฐนวิชณ์ ไกรเพิ่ม รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและวิเทศสัมพันธ์ และหัวหน้าภาควิชาภาษาฝรั่งเศส คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต อาจารย์ได้แนะนำการสมัครและเรื่องของการเตรียมตัวกับการสอบสัมภาษณ์ โดยทางภาควิชาได้คัดเลือกนักศึกษาที่คุณสมบัติตรงตามที่ทางโครงการฯ กำหนดจำนวน 3 คน ที่มีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 จริงๆ แล้วทุนนี้เปิดรับนักศึกษาที่มีคุณสมบัติตรงจากทุกสาขาวิชา ทุกคณะ ซึ่งการคัดเลือกนักศึกษาเข้าร่วมโครงการนั้น ทางมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้คัดและส่งเพื่อเข้าการคัดเลือกรอบต่อไปคือระดับประเทศ และจากนั้นทางโครงการจะคัดเลือกอีกครั้งหนึ่งให้ได้ตัวแทนทั้งหมด 60 คนตามโควตา แต่ในปีนี้มีนักศึกษาผ่านการคัดเลือกเพียง 18 คนเท่านั้น

นางสาวณัชติการณ์ เส็งประเสริฐ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า การสอบคัดเลือกนั้นใช้วิธีสอบสัมภาษณ์จากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยสองท่าน โดยประเด็นคำถามเป็นปลายเปิด เช่น ทำไมถึงอยากได้ทุนนี้ ทำไมจึงเลือกประเทศเวียดนาม และหากไม่ได้ไปตามประเทศที่ตนหวังจะเป็นอะไรหรือเปล่า นอกจากนี้ยังมีสอบข้อเขียนด้วย จริงๆ แล้วนักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกสามารถเลือกประเทศที่สนใจได้อาเซียน แต่พวกเราทั้งสามคนเลือกประเทศเวียดนาม เพราะว่าประเทศเวียดนามเคยเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเรามีความสนใจตรงนี้อยู่จึงอยากไปเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม และภาษา โดยทางโครงการจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้เดือนละ 800 ดอลล่าร์ รวมทั้งค่าเรียน ค่าที่พัก ค่าอาหารให้นักศึกษาบริหารกันเอง

นางสาวศิรินภา เขียวรี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เล่าว่า พวกเราจะต้องเรียนรู้ภาษา และศึกษาวิถีชีวิตของคนที่นั่นก่อนที่จะเดินทางไป โดยได้เตรียมตัวเรียนภาษาฝรั่งเศสเพิ่มเติมและภาษาเวียดนามเพื่อที่จะใช้ติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน เพราะคนที่นั่นจะไม่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ตลอดระยะเวลา 4 เดือนข้างหน้านั้น พวกเราตั้งใจจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตให้ได้มากที่สุด เราไม่เคยคิดว่ามีโอกาสครั้งหนึ่งแล้วก็จะรอโอกาสครั้งต่อไปอีก แต่เราจะเต็มที่กับทุกๆ โอกาสที่ผ่านเข้ามา ตั้งใจ ทุ่มเท ถึงแม้มีโอกาสนั้นกลับมาอีกครั้ง อย่างน้อยเราจะไม่ต้องไปเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่ แต่เราจะสามารถพัฒนาและต่อยอดกับสิ่งที่เราทำให้เข้าใกล้ความสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น