Top 10 เคล็ดลับกระตุ้นสมองให้ปลอดโปร่ง

Top 10 เคล็ดลับกระตุ้นสมองให้ปลอดโปร่ง

Top 10 เคล็ดลับกระตุ้นสมองให้ปลอดโปร่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สุขภาพของสมองนั้นมีความสำคัญไม่แพ้สุขภาพทางกายเลย ยิ่งหากจะทำงานให้เปี่ยมประสิทธิภาพด้วยแล้วต้องกระตุ้นสมองให้ปลอดโปร่งเป็นอันดับแรก และเราก็มี 10 เคล็ดลับกระตุ้นสมองให้ปลอดโปร่งโล่งสบายมาฝากกันดังนี้

1. อย่างดมื้อเช้า สิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มพลังงานให้กับสมองคืออาหาร ซึ่งเราควรรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ และ ที่สำคัญอย่างมากเลยคืออาหารมื้อ เช้าค่ะ เนื่องจากอาหารเช้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับคนเราได้ รวมทั้งยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย

2. จิบน้ำบ่อยๆ ทั้งนี้เป็นเพราะสมองของคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 85% เราจึงต้องดื่มน้ำให้เพียงพอคือ 8-10 แก้วต่อวัน โดยอาจจะไม่ต้องดื่มทีละแก้วแต่ปรับเปลี่ยนมาเป็นการจิบบ่อยๆ แทนค่ะ นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยล่าสุดจากโรงเรียนแพทย์แวนเดอร์บิลท์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกาว่า คนที่ดื่มน้ำผักผลไม้สดเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ โรคความจำเสื่อม ได้มากถึง 79%

3. ฝึกหายใจลึกๆ ทั้งนี้เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองได้อย่างพอเพียง และการฝึกหายใจลึกๆ เพื่อเอาออกซิเจนเข้าไปในปอดเพิ่มขึ้นก็จะช่วยให้มีออกซิเจนส่งต่อไปยังสมองได้มากขึ้น

4. หาเวลาไปเมาท์กับเพื่อนบ้าง มีการวิจัยพบว่าความเครียดที่เกิดจากความเหงาจะก่อให้เกิดภาวะคอร์ติซอลมากเกิน ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง ดังนั้นนักวิจัยจึงแนะนำให้คนเราคลายเครียดด้วยการหันไปพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับเพื่อนร่วมงาน หรือไม่ก็อาจจะไปนั่งเมาท์ช่วงมื้อเที่ยงกับเพื่อนบ้างเพื่อช่วยให้บรรเทาความเครียด นอกจากนี้ระหว่างที่เราพูดคุยอาจมีเรื่องให้หัวเราะและยิ้มได้ ซึ่งการหัวเราะและยิ้มบ่อยๆ นี้จะช่วยให้คนเราคลายเครียดได้

5. ดาร์กช็อกโกแลต ช่วยกระตุ้นสมองได้ล่าสุดมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยนอตติงแฮมออกมาว่า สารประกอบหลักในดาร์ก ช็อกโกแลตคือ ฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ในการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของสมองได้ดีขึ้น ดังนั้นใครที่ชอบกินช็อกโกแลตอยู่แล้วก็กินต่อไปได้อย่างสบายใจเลยค่ะ เพียงแต่ให้เลือกทานดาร์กช็อกโกแลตแทนช็อกโกแลตนม และนอกจากสารฟลาโวนอยด์จะมีอยู่ในดาร์ก ช็อกโกแลตแล้ว ยังพบได้ในชาเขียว บลูเบอร์รี่ และไวน์แดงด้วย

6. ฝึกสมาธิ ทั้งนี้คุณๆ อาจทำได้โดยการนั่งสมาธิตอนเช้าหรือก่อนนอนวันละประมาณ 15 นาที เพื่อให้สมองผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง ส่วนอีกวิธีหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์แนะนำคือ ให้เดินเท้าเปล่าบนพื้นผิวที่ขรุขระเพื่อเสริมสมาธิ อย่างเช่นเดินบนพื้นกรวด ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้ระบบหูชั้นในทำงานดีขึ้น เมื่อระบบดังกล่าวทำงานดีแล้วจะช่วยทำให้สมดุลของร่างกายดีตามไปด้วย

7. กินมันบดช่วยเสริมความจำ ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะว่าเจ้ามันฝรั่งบดจะช่วยเสริมความจำได้ แต่ก็เป็นไปแล้วล่ะค่ะเพราะมีการวิจัยพบว่า ในมันฝรั่งนั้นมีกลูโคสที่จะไปช่วยเสริมการสร้างแอซิติลโคลีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยกระตุ้นและยับยั้งระบบประสาทของคนเรา ถ้าเมื่อใดที่แอซิติลโคลีนลดลงก็จะทำให้ความจำและสมาธิลดน้อยลงไปด้วย

8. กินอาหารที่มีประโยชน์และอาหารเสริม การกินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบหมู่นอกจากจะช่วยรักษาสุขภาพทางร่างกายแล้วยังช่วยให้สุขภาพสมองดีตามไปด้วยค่ะ ส่วนการกินไขมันดีอย่างเช่น น้ำมันปลา ปลาแซลมอน ถั่วเหลือง น้ำมันพริมโรส นั้นจะทำให้ร่างกายได้รับไขมันดีไปทดแทนไขมันที่สึกหรอในสมอง

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยในวารสารแลนเซตที่รายงานว่า หากคนเรากินกรดโฟลิกให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย คือประมาณวันละ 400 ไมโครกรัม กรดโฟลิกจะช่วยชะลอการเสื่อมถอยของสมองได้ ส่วนธาตุเหล็กจะมีผลต่อความสามารถในการเรียนรู้และจดจำ ดังนั้นผู้ที่ร่างกายขาดสารอาหารเหล่านี้ การกินอาหารเสริมสามารถช่วยได้

9. รู้จักปล่อยวางและให้อภัย การปล่อยวางกับเรื่องราวบางอย่าง และการให้อภัยนั้นจะช่วยให้สมองของเราลดภาระในการจดจำค่ะ เพราะระหว่างที่เราเฝ้าครุ่นคิดกับเรื่องบางเรื่องก็จะก่อให้เกิดความเครียดขึ้นได้ ในขณะที่เมื่อเราโกรธตัวเองหรือโกรธคนอื่น สมองก็จะต้องทำงานอย่างหนัก ดังนั้นเรามาฝึกปล่อยวางและให้อภัยกันทุกวันดีกว่า

10. ท่องบทกลอนหรือบทสวดมนต์เป็นประจำ ทั้งนี้เป็นเพราะมีการวิจัยพบว่า หากคนเราได้อ่านข้อความและท่องซ้ำๆ จะเป็นการช่วยกระตุ้นการจดจำได้ สิ่งที่เราควรทำคือท่องกลอนหรือท่องบทสวดมนต์สัปดาห์ละบท พอผ่านไป 1 สัปดาห์ก็ลองกลับมาทบทวนดูว่า ที่ท่องไปนั้นจดจำได้มากน้อยแค่ไหน

เคล็ดลับดีๆ ที่นำมาฝากกันนี้ คิดว่าคงจะช่วยให้คุณผู้อ่านสามารถนำไปใช้ดูแลสมองให้แข็งแรง ปลอดโปร่ง และเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในการที่จะคิดสร้างสรรค์งานของคุณให้มีความโดดเด่นยิ่งๆ ขึ้นไป


ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยคอมเมอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook