HearthStone กับกติกาการแข่ง eSports ในเอเชี่ยนเกมส์

HearthStone กับกติกาการแข่ง eSports ในเอเชี่ยนเกมส์

HearthStone กับกติกาการแข่ง eSports ในเอเชี่ยนเกมส์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ข้อแตกต่างของการจัดเดคแข่งและการจัดเดคไต่แรงค์ใน HearthStone

เป้าหมายของผู้เล่น HearthStone ส่วนใหญ่ก็คือการเก็บเหรียญทองเพื่อเอาไปเล่นใน Arena เพื่อรับรางวัลที่ใหญ่กว่า หรือเอาไว้เปิดซองการ์ดหาการ์ดใหม่ๆ มาเสริมทัพให้แข็งแกร่งขึ้น แต่เป้าหมายของผู้เล่นที่ต้องการไปสู่ระดับสูงของเกมอยู่ที่การไต่แรงค์เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถไปอยู่ในระดับ Legend ได้หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ผู้เล่นต้องการก็คือ เดคที่เก่งพอให้พวกเขาสามารถไต่ไปจนถึงสุดทางได้ และหลายครั้งพวกเขาก็ต้องการมากกว่าหนึ่งเดคขึ้นไปด้วย

แต่ถ้าเป็นในการแข่งขันล่ะ? จะยังสามารถใช้สูตรนี้ได้อยู่หรือเปล่า อันที่จริงแล้วผู้เล่นส่วนหนึ่งก็มักจะลอกเดคของเหล่าโปรมาใช้งานและปรับปรุงกันเองอยู่แล้ว แต่ในการแข่งขันที่ส่วนใหญ่จะเป็น Conquest Format ที่ผู้เล่นจะได้โชว์ความหลากหลายและศักยภาพในการเล่นเดคแต่ละเดคอย่างชัดเจน และเปิดโอกาสให้ผู้แพ้มีสิทธิแก้มือได้ง่ายขึ้น และแน่นอนว่าวิธีคิดจะต่างกันออกไปในการจัดเดคเพื่อเอาชนะคู่แข่งที่เราได้เห็นหน้า รู้จักผลงานและฝีมือของเขาหรือเธอมาก่อนหน้านี้ ซึ่งต่างจากการเล่นกันกับผู้เล่นที่เราไม่เห็นหน้า (แต่แอบมีการ BM มาให้เราระคายใจบ้าง) ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียนและการบอกเล่าในกลุ่มผู้เล่นเกี่ยวกับเรื่องนี้มีอะไรบ้าง เราลองมาดูกันครับ

  1. เราสามารถวางแผนรับมือผู้เล่นที่จะเจอในงานแข่งที่กำลังจะมาถึงได้
    ในการเล่นไต่แรงค์ออนไลน์ตามปกติ เราจะไม่รู้ว่าเกมจะสุ่มให้เราไปเจอกับใครบ้าง และเราก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าฝ่ายตรงข้ามเอาเดคอะไรมาใช้หรือเล่นคลาสไหน บางครั้งบางทีไปเจอเดคที่เราเสียบเปรียบก็อาจจะทำให้เกิดอาการหัวร้อนขึ้นมาได้
    แต่ในการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์ หลายรายการเราสามารถตรวจสอบได้ว่าฝ่ายตรงข้ามที่ลงแข่งจะใช้เดคหรือคลาสอะไร หรือกระทั้งศึกษาแมตช์การเล่นของเขาที่ผ่านๆมาก็สามารถทำได้ถ้ามีข้อมูล จะจากผลการแข่งขันที่ผ่านมาหรือแหล่งอื่นๆ(เช่นการ Live Stream) เหล่านี้เป็นข้อมูลที่ช่วยต่อการตัดสินใจว่าเขาถนัดเล่นคลาสไหน เล่นเดค Aggro หรือ Control เป็นหลัก จะจัดเดคมาแก้ทางหรือระวังตัวกับสไตล์การเล่นมากขึ้น ในขณะที่ในการไต่แรงค์เราต้องคิดเผื่อหลายตลบมากกว่านั้น หรือจะมุ่งเน้นไปที่การทำให้เดคของเราทำงานได้ตามที่คิดไว้
  1. การจัดการรายละเอียดปลีกย่อยที่มากกว่า
    เสน่ห์ของเกมการ์ดไม่ว่าจะเกมไหนๆ ก็อยู่การจัดการรายละเอียดปลีกย่อยของการ์ดแต่ละเดคว่าจะมีอะไรแตกต่างจากคนอื่นๆบ้าง แม้จะเป็นเดคประเภทเดียวกัน แต่ผู้เล่นบางคนก็อาจจะใส่การ์ดที่ช่วยให้ตัวเองเล่นได้สะดวกขึ้น หรือในขณะที่ผู้เล่นคนหนึ่งจะใส่การ์ดที่ช่วยในการแก้ทางเดคหนึ่ง บางคนก็อาจจะเปลี่ยนเอาการ์ดใบอื่นที่เขาคิดว่าจะทำให้ตัวเองเล่นได้สะดวกขึ้นเข้าไปแทน และแน่นอนว่าในการแข่งขันเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลง Deck List ของเราเองได้หลังจากที่ลงทะเบียนไป ทำให้การคิดและพิจารณาเดคที่เอาไปใช้แข่งขันและรายละเอียดอื่นๆต้องคิดมากขึ้นตามไปด้วย

  1. เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้วางแผนแก้ทางมากขึ้น
    ด้วยระบบการแข่งขันแบบ Conquest ที่ผู้เล่นต้องใช้เดคทั้ง 3 เดคในคลาสที่แตกต่างกันเอาชนะผู้เล่นอีกคนหนึ่งให้ครบทั้งหมด ทำให้ผู้เล่นต้องใส่ใจเลือกเดคที่จะเอามาเล่นให้มากกว่าปกติ เพราะไม่สามารถใช้เดคเพียงเดคเดียวในการเอาชนะคู่แข่งได้ แม้ในรอบแรกๆของการแข่งขันบางรายการ อาจจะมีการแบนคลาสทึ้งก่อนหนึ่งคลาสเพื่อตัดตัวเลือกที่คู่แข่งคิดว่าเราจะเล่นได้ดีกว่าหรือตาม Meta ของเกมที่แข็งแกร่งในเวลานั้นออกไป เรียกว่าต้องวางแผนแก้เกมกันตั้งแต่ยังไม่เริ่มเล่นเลยทีเดียว
  1. ในการแข่งขัน เดคเดียวไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องเสมอไป และมีแตจจัยเปลี่ยนแปลงมากกว่า
    เกี่ยวเนื่องจากข้อแรกและข้อสอง โดยปกติการจัดเดคเพื่อไต่แรงค์จะมีรูปแบบที่ค่อนข้างแน่นอนและปรับเปลี่ยนได้ตามใจผู้เล่นทุกเวลา ซึ่งบางครั้งเราก็อาจจะโชคดีชนะติดๆกันได้เป็นสิบครั้ง ซึ่งนั้นก็อาจจะทำให้ผู้เล่นบางคนที่เคยไต่แรงค์ได้อันดับสูงๆมาตลอดพลาดได้ สร้างผลงานใน Tournament ได้ไม่ดี เพราะมันไม่ได้จบแค่การเล่นในเกมเดียวหรือเดคเดียวอย่างที่เราใช้ในการไต่แรงค์ มันยังมีปัจจัยร่วมอื่นๆอย่างเช่นเดคของคู่แข่งที่เจอ การสุ่ม RNG ของตานั้นๆ หรืออื่นๆที่ตามมา การคิดเผื่อถึงคำตอบอื่นๆและความเป็นไปได้ของเดคที่เราเล่นทุกเดค คือสิ่งทำให้การจัดเดคเพื่อแข่งขันมีรายละเอียดมากกว่านั้นเอง

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้นั้นไม่ได้หมายความว่า การจัดเดคเพื่อไต่แรงค์นั้นไม่สำคัญ เพราะแน่นอนว่ารางวัลที่ได้หลักจากจบ Season นั้นค่อนข้างมีค่าและคุ้มสำหรับคนที่ผ่านมันมาได้ แต่ในการแข่งขันจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งและมีวิธีคิดที่ต้องจัดการแตกต่างกัน และนักกีฬาที่จะไปสู่จุดสูงสุดของอาชีพก็ต้องมีการคิดเผื่อและวางแผนเอาไว้ล่วงหน้ามากๆเสมอ และนี่คือสิ่งที่คนที่จะเป็นโปรต้องศึกษาและทำความเข้าใจก่อนเข้าสวู่เกมการแข่งขันต่อไป ควบรวมไปกับการฝึกซ้อมด้วยครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook