รีวิว Assassin's Creed Odyssey พาย้อนรอยตำนานนักฆ่าแห่งยุคกรีกโบราณ

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทาง Sanook! Game ขอต้อนรับการกลับมาของเกมซีรี่ย์นักฆ่า ในภาคล่าสุดที่มีชื่อว่า Assassin's Creed Odyssey ที่จะนำพาเหล่าบรรดาผู้เล่นไปพบกับปฐมบทแห่งนักฆ่าในยุคกรีกโบราณก่อนช่วงเวลาจากภาคที่แล้ว 400ปีหรือ BC431 (Assassin Creed : Origin) ในภาคนี้ผู้เล่นจะได้เลือกตัวละคร หญิง หรือ ชาย ในการเล่นระหว่าง Alexios และ Kassandra

แต่ตัวเกมไม่สามารถสลับสับเปลี่ยนตัวละครระหว่างเกมได้ โดยเรื่องราวในภาคนี้จะเกี่ยวข้องกับสงครามระหว่าง Spartan กับ Athens ที่ทำให้เหล่าผู้เล่นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามครั้งนี้ รวมไปถึงผู้เล่นจะได้รับรู้ถึงจุดเริ่มต้นของอาวุธหลักของตัวเกมที่มีในทุกภาคอย่าง Hidden blade และมีโอกาสจะได้พบกับสัตว์ในเทพนิยายกรีก เช่น เมดูซ่า เป็นต้น

Gameplay

เกมเพลย์ ในภาคนี้มีการอัพเกรดรูปแบบการเล่นจากตัวเกมภาคที่แล้ว (Assassin Creed : Origin) ภาคนี้ถึงแม้คุณจะได้เล่นเป็นนักฆ่าตามเดิม เหมือนภาคก่อนๆ แต่ผู้เล่นก็จะไม่ได้ใช้ Hidden blade เพื่อเสียบคอ กระซวกพุง หรือสังหารศัตรู อีกแล้ว เพราะว่าผู้เล่นจะได้ใช้อาวุธหลักคือ ปลายหอกของกษัตริย์ ลีโอไนดัส

ระบบสกิล ในเกม AC : Odyssey จะมีให้ผู้เล่นเลือกสายอาชีพให้อัพเกรด 3 สาย
1.Warrior เน้นไปที่สกิลโจมตี แบบปะฉะดะ ท่าสังหารสุดเท่
2.Assassin เน้นไปที่สกิลลอบฆ่า พรางตัว แบบนักฆ่าที่แท้ทรู
3.Hunter เน้นไปที่สกิลที่มี อาวุธธนูเป็นหลัก

ระบบอัพเกรดสกิล ในภาคนี้เป็นระบบปลดล็อคสกิลตามเลเวล ที่ไม่บังคับในการเลือกอัพเกรด แบบSkill Tree ของภาค Origin คือ ในเกมภาคนี้นั้น ตัวเกมจะให้อิสระกับผู้เล่นในการอัพเกรดสกิล
ที่ไม่ต้องอัพเกรดไล่ไปตั้งแต่ต้นเป็นระดับๆ

ระบบต่อสู้พื้นฐาน ในภาคนี้จะมีรูปแบบคล้ายดั้งเดิม แต่จะมีความแตกต่างจากภาค Origin คือภาคนี้ไม่มีโล่ให้ใช้ ทำให้ผู้เล่นต้องใช้ทักษะในการต่อสู้ ในการหลบหลีกการโจมตีของศัตรู ทั้งการโจมตีปกติ และการโจมตีจากธนู แต่ทั้งนี้ผู้เล่นก็ยังสามารถแครี่ หรือโต้กลับศัตรูตามปกติ

ระบบเกมเพลย์บนเรือ ที่มีอิสระในการเล่น ที่ผู้เล่นจำเป็นต้องใช้เรือในการเดินทาง (ในเกมมีพื้นที่เป็นน้ำมากกว่าครึ่ง) รวมถึงมีการต่อสู้บนเรือ ที่ผู้เล่นสามารถอัพเกรดเรือได้ เช่น ยิงลูกธนู ขว้างหอก ติดไฟได้
และเมื่อผู้เล่นโจมตีเรือฝั่งตรงข้ามจนพังไปต่อไม่ได้ ผู้เล่นสามารถที่จะใช้การโจมตีโดยการนำเรือพุ่งชนตรงๆ เพื่อให้เรื่อฝั่งตรงข้ามขาดเป็นสองท่อน หรือทำการปล้นเรือแทนการทำลาย

ระบบสงคราม เนื่องจากภายในเกมผู้เล่นรับบทเป็นนักรบรับจ้าง ที่ไม่ขึ้นกับฝ่ายใด ทั้ง Spartan หรือ Athens ทำให้มีความหลากหลายในการเล่น การทำภารกิจต่างๆ เช่น พื้นที่ในเกมที่ส่วนนึงเป็นฝ่าย Athens ยึดครองอยู่ ผู้เล่นก็สามารถเลือกได้ว่าจะช่วย Athens ป้องกันพื้นที่นั้น หรือ ช่วยสปาตันยึดพื้นที่นั้น แต่ของรางวัลจากการบุกยึดครองจะได้เยอะกว่าเลือกฝ่ายป้องกัน

ระบบศัตรู (ai) ตัวเกมในภาคนี้ทำให้ศัตรูภายในเกมทุกตัว เก่งขึ้นตามเลเวลของผู้เล่น ทำให้การต่อสู้นั้นมีความสนุกท้าทายมากขึ้น และมีรูปแบบการแสดงออกของการโจมตีที่ฉลาดขึ้น เช่น
ศัตรูประเภทธนู ต่อให้ผู้เล่นไปโจมตีในระยะประชิด แต่ศัตรูก็จะสามารถผลักตัวละครของผู้เล่นให้เสียจังหวะได้

ระบบชุดเกราะ มีความหลากหลายมากขึ้น ดีไซน์ออกมาได้สวยงาม (ทำให้นึกถึงการ์ตูนเซนต์ไซย่า) จากการแยกเป็นชิ้นในการสวมใส่ ทำให้มีความแตกต่างทั้งในด้านของ แฟชั่น และ ค่าสถานะจากชิ้นส่วนที่ผู้เล่นเลือกใช้ ตัวเกมยังให้ผู้เล่นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ชิ้นส่วนต่างๆจากการใส่รูนเพิ่มขึ้นได้ (Engrave)

 

ภาพกราฟิก + ดนตรีประกอบ

ภาพกราฟิกจัดอยู่ในระดับที่สวยที่สุดของซีรี่ย์ โดยมีความโดดเด่นที่สถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้างต่างๆ รูปปั้นเทพต่างๆ ที่ถ่ายทอดออกมาได้เข้ากับธีมของเกม

ดนตรีประกอบ ในภาพรวมถือว่าทำออกมาได้น่าประทับใจ ถ้าหากเทียบกับภาคก่อนหน้า ถือว่าภาคนี้ มีการพัฒนาพอสมควรมีดนตรีที่น่าจดจำ ไม่เหงาหูแบบภาค Origin

ความน่าประทับใจ

1. ระบบสกิล

• อาชีพ Warrior มีสกิลท่าถีบในตำนานจากภาพยนตร์ 300 อย่าง Spartan Kick
  
• อาชีพ Assassin มีสกิลท่าที่ผู้เล่นจะเหวี่ยงปลายหอกของลีโอไนดัส ที่สามารถทำคอมโบต่อเนื่องได้มากสุดถึง 4 ครั้ง
• อาชีพ Hunter มีสกิลท่าที่เป็น ห่าฝนลงจากฟ้า (Rain of destruction)

2. ดนตรีประกอบ ที่สร้างความฮึกเหิม ปลุกใจได้ดี เช่นฉากปลุกใจนักรบบนเรือ ก่อนทำการยึดเรือฝั่งตรงข้าม เป็นต้น

3. ระบบเกมเพลย์เรือ ที่ผู้เล่นสามารถแต่งตั้งแม่ทัพบนเรือได้มากถึง 4 คน ซึ่งมีความสามารถแตกต่างกัน โดยผู้เล่นสามารถจับศัตรูคนใดก็ได้มาเป็นลูกน้องของตัวเอง

4. ระบบเนื้อเรื่อง มีการเสริมต่อเนื้อเรื่องของตัวละครอย่าง Layla Hassan จากภาค Origin ที่ทำให้ความจริงบางอย่างถูกเปิดเผย ซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เขียนอย่างมากมาย

สรุปจากใจผู้เขียน

ในฐานะที่ผู้เขียนนั้นเป็นติ่งโดยแท้ของเกมซีรี่ย์ AC ตั้งแต่ภาคแรกในปี 2007 และเล่นเรื่อยมาจนถึงภาคล่าสุด ถึงแม้ว่าในภาคนี้จะถูกมองว่าย้อมแมวจากภาค Origin ก็ตาม แต่ด้วยความที่ภาคนี้นั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัว เสริมด้วยระบบต่างๆที่เพิ่มเข้ามา บวกกับเนื้อเรื่องที่มีการเล่าเรื่องได้น่าติดตาม รวมทั้งได้อารมณ์เหมือนภาพยนตร์ในตำนานอย่างเรื่อง 300 แต่ตัวเกมก็ยังมีจุดที่ขัดใจผู้เขียนอยู่บ้าง คือ เรื่องมุมกล้องที่ภาคนี้ถูกซูมออกไปไกล มากๆ ขณะวิ่ง ย่อง หรือปีนป่าย ทำให้ไม่สามารถมองรายละเอียดของตัวละครและพวกชุดเกราะ หรืออาวุธ ที่ตัวละครสวมใส่ได้ชัดเจน

สรุป คะแนน 9.5/10  ตัดคะแนนจากเรื่องมุมกล้อง และบัค

รีวิวโดย ลุงหนวด