Review: Kingdom Hearts 3 ความสนุกที่คุ้มค่าสมกับที่รอคอยมาถึง 14 ปี

Review: Kingdom Hearts 3 ความสนุกที่คุ้มค่าสมกับที่รอคอยมาถึง 14 ปี

Review: Kingdom Hearts 3 ความสนุกที่คุ้มค่าสมกับที่รอคอยมาถึง 14 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สวัสดีครับ วันนี้เราจะมารีวิวเกมที่ใครหลายๆ คนรอคอยภาคต่อกันมากว่า 14 ปี นั่นคือเกม Kingdom Hearts III นั่นเอง ซึ่งแนวเกมยังคงคอนเซปต์ในการเล่นไว้แบบเดิม คือ Action RPG และได้นำระบบจากภาคเก่าๆ อย่าง Birth by Sleep และ Dream Drop Distance มาต่อยอดอีกด้วย

เนื้อเรื่อง

ในส่วนของเนื้อเรื่องภาคนี้จะเป็นไทม์ไลน์ล่าสุดของซีรี่ส์นี้ และเป็นภาคต่อของภาค Dream Drop Distance โดยมีตัวละครหลักกลับมาเป็น Sora Donald และ Goofy ตามแบบฉบับภาคหลัก และยังมีตัวละครอื่นให้เล่นด้วย (ไม่ขอสปอยล์นะครับว่าเป็นตัวละครใด)

ตัวเกมจะบอกเล่าเรื่องราวด้วยการพาไปบุกตะลุยโลกต่างๆ ผ่านการเดินทางด้วยยาน Gummi Ship และยังมีมินิเกมแบบใหม่ให้ได้เล่นกันอีกด้วย โดยจะมีระบบบังคับยาน Gummi Ship ที่สามารถเลือกทิศทางที่อยากไปได้อย่างอิสระ ซึ่งไม่ได้กำหนดเส้นทางตายตัวแบบภาคก่อนๆ

 

ระบบเกมเพลย์

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ภาคนี้ได้นำระบบจากภาคเก่ามาต่อยอด โดยนำระบบ Formchanges จากภาค Birth by Sleep มาใช้ ผู้เล่นจะต้องโจมตีศัตรูด้วยการโจมตีแบบปกติจนถึงจุดหนึ่งที่เกจด้านบน Command Menu เต็ม จะมีคำสั่งเป็นแถบพิเศษสีเขียวขึ้นมาให้ผู้เล่นสามารถกดปุ่มสามเหลี่ยมเพื่อเปลี่ยนฟอร์มพิเศษได้ หรือบางครั้งในกรณีที่ใกล้ตายจะมี Rage Form ให้ใช้ด้วย การเปลี่ยนฟอร์มในภาคนี้จะเปลี่ยนไปตามอาวุธที่เราถือ เมื่ออยู่ในฟอร์มพิเศษ การโจมตีจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นการโจมตีที่รุนแรงขึ้น และฟอร์มพิเศษจะสิ้นสุดลงเมื่อใช้ Finish Move ด้วยการกดปุ่มสามเหลี่ยมหรือเกจฟอร์มลดลงจนหมด

ตัวเกมได้มีการนำ Shotlock จากภาคเดียวกันมาใช้ แต่ในภาคนี้จะไม่ได้เปลี่ยน Shotlock เป็นสกิลแบบภาค Birth by Sleep แต่จะเปลี่ยนรูปแบบของ Shotlock ด้วยการเปลี่ยน Keyblade โดยสกิลจะเป็นไปตาม Keyblade ที่เราถืออยู่ขณะนั้น เงื่อนไขในการใช้ก็คือ จะต้องมีเกจ Focus และกด R1 ค้างไว้เพื่อเริ่มล็อกศัตรู

นอกจากนี้ได้มีการนำระบบ Flowmotion จากภาค Dream Drop Distance มาใช้ในภาคนี้ด้วย ในส่วนของระบบใหม่ของ Kingdom Hearts III นั้น มีระบบที่ผู้เล่นสามารถเรียกสกิลโจมตีเป็นแอเรียขนาดใหญ่ได้ คือ ระบบ Attractions โดยระบบนี้จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อมีศัตรูที่ถูกล็อกเป้าหมายด้วยสีเขียว และเมื่อโจมตีศัตรูที่ถูกล็อกนั้น ก็จะมีคำสั่ง Attractions Command ออกมาให้ใช้ด้วยการกดปุ่มสามเหลี่ยม

ส่วนระบบการอัพ Tier ของเวทมนตร์ นั่นก็คือระบบ Grand Magic ผู้เล่นจะต้องโจมตีศัตรูด้วย Magic โดยใช้ธาตุใดก็ได้ เมื่อถึงจุดหนึ่งจะได้ Grand Magic มาใช้ โดยเวลาที่ใช้ Grand Magic จะไม่เสียหลอด MP วิธีการเพิ่ม Tier ทำได้โดยใช้ Magic ธาตุเดิมซ้ำใส่ศัตรูหลายๆ ครั้ง ก็จะอัพเกรดสกิลได้ เช่น ถ้าใช้ Fire จน Tier สูงขึ้น ก็จะได้สกิล Fira มาใช้ด้วยการกดปุ่มสามเหลี่ยม ซึ่งสกิลนี้มีเวลาจำกัด ถ้าไม่ได้ใช้หรือกดใช้ไม่ทัน สกิลจะหายไปทันทีเมื่อเวลาหมด

 

ระบบ Equipment และ Abilities

สำหรับการสวมใส่ Keyblade จะเลือกสวมใส่ได้ 3 ชิ้น และสามารถเปลี่ยน Keyblade ระหว่างการเล่นได้ โดยกดปุ่มซ้ายหรือขวาที่เมนู Attack เพื่อเลือก Keyblade ที่ต้องการ

การสวมใส่ชุดป้องกัน เครื่องประดับ และไอเทมสำหรับฟื้นฟู ในส่วนนี้ยังคงรูปแบบการสวมใส่ไอเทมต่างๆ เพื่อเพิ่มค่า Status และค่าป้องกันสถานะและธาตุต่างๆ แบบตัวเกมภาคเก่า นอกจากนี้การใส่ไอเทมบางชิ้นจะเพิ่มค่า AP เพื่อให้สามารถสวมใส่ Abilities ได้มากขึ้นอีกด้วย

สำหรับการสวมใส่ Abilities จะปลดล็อค Abilities ต่างๆ ด้วยการชนะมอนสเตอร์และบอสในบางจุด และจะมีค่า AP เป็นค่า Cost ของการสวมใส่ เช่น ถ้ามีค่า AP อยู่ทั้งหมด 10 หน่วย จะสามารถใส่สกิล Block 2 หน่วย Combo Plus 4 หน่วย และ Air Combo plus อีก 4 หน่วย หากต้องการใส่ Abilities มากขึ้น จะต้องมีค่า AP ที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน วิธีเพิ่มค่า AP ทำได้โดยอัพเลเวลตัวละคร ใช้ไอเทมเพิ่ม AP หรือใส่เครื่องประดับต่างๆ

 

 

ความประทับใจและความคุ้มค่าของเกม

สำหรับมุมมองส่วนตัวของผมซึ่งเป็นแฟนเกมนี้ การรอคอยมา 14 ปีนั้นยาวนานมาก จึงคาดหวังในตัวเกมนี้ค่อนข้างสูง ในช่วง 14 ปีที่ผ่านมาก็มีภาคย่อยออกมาหลายภาค ซึ่งหลายๆ คนคงได้เล่นกันมาบ้าง แต่พอมาถึงภาคนี้ผมตอบได้คำเดียวว่าไร้ข้อกังขา เพราะได้มีการนำเกมเพลย์จากภาคก่อนๆ มาต่อยอดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไหลลื่น และมีความคล่องตัวที่สูงมาก ในส่วนของเนื้อเรื่องและวิธีการนำเสนอก็ทำออกมาได้ดีมากเช่นกัน (ไม่ขอสปอยล์ในส่วนนี้นะครับ เอาเป็นว่าถ้าคุณเป็นแฟนเกม Kingdom Hearts มาตลอดคือ “ดี” ครับผม) และมีระบบการเก็บ Collectible ที่แปลกใหม่โดยใช้มือถือของ Sora ถ่ายภาพสัญลักษณ์ของ King Mickey ที่ปรากฏในเกม

ส่วนความคุ้มค่าในการซื้อเกม แม้ว่าคุณไม่ใช่แฟนเกมซีรี่ส์นี้ ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเกมเพลย์และเสียงพากย์ที่สนุกสนานได้ แต่อาจจะงงในเนื้อเรื่องบางส่วนที่เป็นเนื้อเรื่องต่อจากภาคก่อนๆ มาเท่านั้น ผมคิดว่าคุ้มค่าที่จะซื้อมาเล่นเพื่อสัมผัสเกมเพลย์ที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอด 14 ปีครับ สุดท้ายนี้ผมคงบอกได้แค่ว่านี่คือเกม Kingdom Hearts ที่ดีที่สุดที่เคยมีมา

 

Review by

ขอขอบคุณที่ให้ผมและทีมงาน TidGame of the Universe ได้มีโอกาสเขียนรีวิวในครั้งนี้ หากมีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook