มุมมืดของเกมกับคดีฆาตกรรม ที่เกี่ยวกับวีดีโอเกมในชีวิตจริง
ว่ากันว่าที่ใดมีความสว่างที่นั่นย่อมมีความมืดเป็นของคู่กัน ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะดีบริสุทธิ์ไปหมดทุกอย่าง แม้แต่ในโลกของวีดีโอเกมก็เช่นกัน ที่แม้เราจะมองว่าเกมนั้นคือสิ่งที่สร้างความบันเทิง ให้ความสนุกกับผู้เล่น ที่ไม่ว่าจะดูมุมไหนมันก็ไม่น่าจะมีด้านเสีย ที่ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิตกับผู้เล่น
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงทุกอย่างนั้นมีมุมมืดซ่อนอยู่เสมอ และนี่คือเรื่องราวมุมมืดของวีดีโอเกม ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนที่เราอยากให้คุณได้รู้ และโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพราะบางเรื่องนั้นค่อนข้างรุนแรง
- Devin Moore ก่อเหตุเลียนแบบเกม Grand Theft Auto Vice City
เริ่มต้นคดีแรกกับเกมในตำนานที่เป็นประเด็นในบ้านเรา ที่แม้แต่ในต่างประเทศ เกมนี้ก็ยังถูกมองว่าเป็นตัวสร้างความรุนแรง นั่นคือเกม Grand Theft Auto หรือ GTA ที่ถ้าจะให้อธิบายสำหรับคนที่ไม่ได้เล่นเกม หรือรู้จักเกมซีรี่ส์นี้มาก่อน คงต้องบอกว่าเกมนี้ก็ไม่ต่างกับเกมที่ใช้ความรุนแรงเกมอื่นๆทั่วไปในตลาด
แต่ด้วยความสมจริง ที่ผู้เล่นหลายคนคิดว่ามันตรงกับชีวิตตนเอง หรือชื่นชอบในสิ่งที่ตัวละครทำ(แก๊งข้างถนนที่ทำเรื่องไม่ดี) จึงมีคนที่เอาเรื่องนี้มาอ้างเมื่อถูกจับระหว่างก่ออาชญากรรม โดยนาย Devin Moore ได้ขึ้นชื่อว่าเขาเป็นฆาตกรชาวอเมริกัน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกม Grand Theft Auto Vice City ในการก่อเหตุ
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฏาคม 2003 Moore ถูกจับเข้ามาในสถานีตำรวจอลาบามาในข้อหาโจรกรรมรถ ซึ่งตัวของ Moore นั้นไม่มีประวัติอาชญากรรม และให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดีในระหว่างจับกุม แต่หลังจากถูกจับกุม Moore ได้ก่อเหตุขโมยปืนของตำรวจ ระหว่างที่ตัวเองถูกคุมตัวออกจากห้องขังในโรงพัก Moore ได้ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาระงับเหตุไปหลายคนเสียชีวิต
และในระหว่างที่หนีนั้น เขาก็ตะโกนออกมาว่า Life is a video game. Everybody’s got to die sometime ชีวิตก็คือวีดีโอเกม ถึงคราวพวกแกต้องตายบ้าง!!! โดยระหว่างสืบสวนทางเจ้าหน้าที่ทราบว่า Moore เป็นแฟนตัวยงของเกม Grand Theft Auto Vice City และสิ่งที่เขาทำก็คล้ายกับภารกิจในเกม Mission 40 No Escape ที่เป็นการหนีออกมาจากสถานีตำรวจอีกด้วย ปัจจุบัน Moore ถูกประหารชีวิตโดยการฉีดยาในวันที่ 9 ตุลาคม 2005 นับเป็นหนึ่งคดีร้ายแรงที่เกี่ยวกับวีดีโอเกมที่น่าตกใจ
– Daniel Petric ยิงพ่อแม่ตัวเองเพราะห้ามเล่นเกม Halo 3
ถ้าคุณกำลังคิดและกล่าวหาพ่อแม่ผู้ปกครองในบ้านเราว่าล้าหลัง และคิดว่าวีดีโอเกมคือสิ่งไร้สาระสร้างความรุนแรงประเทศเดียวละก็ คุณกำลังคิดผิด เพราะในประเทศที่เจริญแล้วอย่างอเมริกา ก็ยังมีพ่อแม่ที่คิดแบบเดียวกับในบ้านเราอยู่เหมือนกัน อย่างกรณีของ Daniel Petric ที่ก่อเหตุยิงพ่อแม่ของตนเองเสียชีวิต ที่ในสำนวนคดีบอกว่ามันเกี่ยวข้องกับเกม Halo 3 ในปี 2007
ซึ่งใครที่รู้จักหรือเคยเล่นเกมนี้ จะรู้ว่าเกมซีรี่ส์ Halo นั้นแม้จะเป็นเกมแนวยิงแต่ก็ไม่ได้มีความรุนแรงอะไรเลย เมื่อเทียบกับเกมยิงแนวอื่นในตลาด จนเรากล้าพูดได้เลยว่า ถ้าเกม Halo คือเกมที่มีความรุนแรง เกมยิงแนวเดียวกันอย่าง Doom หรือ Call of Duty คงจะเป็นเกมน่ารักขนมหวานไปอย่างแน่นอน(เปรียบเทียบเชิงประชด) แต่ด้วยหน้าปกเกมที่เป็นรูปคนถือปืน ก็อาจจะทำให้ผู้ปกครองคิดแบบนั้นก็เป็นได้
จากคำให้การของ Petric บอกว่าตนเองนั้นก่อเหตุยิงพ่อกับแม่ของตนเองด้วยปืนพกขนาด 9 มม. ซึ่งความขัดแย้งเริ่มต้นจากการห้ามของผู้เป็นพ่อ ที่ห้าม Petric ซื้อเกม Halo 3 มาเล่น เพราะผู้เป็นพ่อเชื่อว่าตัวเกมนี้มีเนื้อหาที่รุนแรงเกินกว่าที่ลูกชายจะเล่น แต่เขาก็ยังดื้อดึงจนซื้อมาเล่น ท่ามกลางเสียงคัดค้านของพ่อแม่
ที่ก่อนหน้านี้ Petric ไม่ได้ติดเกมแต่เพราะเขาเป็นโรค Staphylococcus จากการเล่นสกีหิมะ จึงทำให้เขาหาอะไรทำขั้นเวลา แต่เมื่อ Petric ได้เล่นเกม เขากลับหมกมุ่นและเล่นไม่ต่ำกว่าวันล่ะ 18 ชั่วโมง จนผู้เป็นพ่อต้องเอาเกมไปใส่ในตู้เซฟที่มีปืนอยู่ ภายหลังก่อเหตุตำรวจสามมารถจับกุมเขาในรถตู้ของครอบครัว พร้อมเกม Halo 3 และปืน ปัจจุบัน Petric ถูกจำคุก 23 ปี คุณคิดว่าเกมเป็นต้นเหตุรึเปล่า…?
– Jennifer Strange เสียชีวิตเพราะแข่งดื่มน้ำชิงรางวัลเครื่องเกม Wii
สำหรับเรื่องนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับการเล่นเกม ที่ทำให้เกิดคดีฆาตกรรม แต่มันก็มีส่วนในการก่อเหตุด้วย เพราะมันคือสาเหตุที่ทำให้ Jennifer Strange เสียชีวิตเพราะการแข่งขันดื่มน้ำเพื่อชิงเครื่องเกม Wii ในตอนนั้น
โดยเรื่องราวเกิดขึ้นกับ Jennifer หญิงสาวชาวแคลิฟอร์เนีย เข้าร่วมการประกวดการดื่มน้ำของสถานีวิทยุ Sacramento KDND-FM ในปี 2007 ในชื่องานว่า Hold Your Wee for a Wii ซึ่งผู้ชนะจะได้เครื่องเกม Wii ที่เรียกว่าหายากราคาพุ่งสูง เพราะสินค้าขาดตลาดและเป็นที่ต้องการของทุกคน ผู้เข้าแข่งขันต้องดื่มน้ำเป็นปริมาณมากที่สุดโดยห้ามไปปัสสาวะ ใครที่ดื่มน้ำได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ
ซึ่ง Jennifer ก็เป็นผู้ชนะ และได้เครื่องเกม Wii กลับมาอย่างสมใจ ท่ามกลางความยินดีของทุกคน และนอกจากเครื่องเกม Wii แล้ว เธอยังได้บัตรคอนเสิร์ตการแสดงในวันนั้นด้วย ซึ่งภายหลังมีผู้พบศพ Jennifer เสียชีวิตในห้องน้ำสถานที่จัดคอนเสิร์ต ในสภาวะ Water Intoxication หรือที่เรียกว่าภาวะน้ำเป็นพิษ ที่จะให้สรุปอาการสั้นๆ ก็เกิดจากเซลล์ที่ขยายตัวเพราะดื่มน้ำเป็นปริมาณมากเกินไป จนทำให้เกิดความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มสูงขึ้น
ผู้ป่วยจะอาการสับง่วงซึมหายใจลำบาก กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจและชีพจรเต้นช้าลง หากเซลล์สมองขยายตัวมากเกินไป จะทำให้หลอดเลือดถูกบีบทำให้สมองบวมจนเสียชีวิตได้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ Jennifer เป็น โดยสาเหตุทั้งหมดเกิดจากการแข่งขันเพื่อเครื่องเกม Wii เราจึงขอรวมมาอยู่ในบทความนี้ด้วย
- รวมเกมเมอร์เล่นแบบไม่พักจนตายคาเกม
อย่างที่เราบอกไปในช่วงต้นว่า ทุกอย่างบนโลกนั้นล้วนมีทั้งดีและไม่ดี และถ้าเราทำอะไรที่มันมากไป มักไม่ใช่ผลดีและอาจจะอันตรายถึงชีวิต วีดีโอเกมก็เช่นกัน ที่ถ้าเรารู้จักแบ่งเวลารู้หน้าที่ไม่หักโหม มันก็ไม่ส่งผลอะไรถึงตัวผู้เล่น แต่ก็มีเกมเมอร์ทั่วโลกหลายคนที่ติดเกมมากเกินไป เล่นแบบทั้งวันทั้งคืนไม่มีพัก จนสุดท้ายร่างกายก็ทนไม่ไหวจนถึงแก่ชีวิต และนี่คือคดีที่เรารวบรวมมาให้อ่านกันในหัวข้อนี้
- เริ่มจากในปี 2015 Rustam(นามสกุลถูกสงวนไว้) เล่นเกม Defense of the Ancient หรือที่เรารู้จักในชื่อ Dota ติดต่อกัน 22 วันแทบไม่ออกไปไหน จนเสียชีวิตคาคอมพิวเตอร์ สาเหตุมาจากหัวใจล้มเหลวเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ
- ปี 2012 นาย Chuang วัย 18 ปีชาวไต้หวันเสียชีวิตคาร้านอินเตอร์เน็ต หลังจากเล่นเกม Diablo III ติดต่อกัน 40 ชั่วโมง สาเหตุการเสียชีวิตคือเส้นเลือดในสมองแตก
- ปี 2011 Chris Staniforth ประเทศอังกฤษ ถูกพบศพหน้าคอมพิวเตอร์ สาเหตุมาจากหลอดเลือดดำอุดตันหลัง จากเล่นเกม Halo ติดต่อกัน 12 ชั่วโมงไม่พัก
- ปี 2005 Lee Seung ชาวเกาหลีใต้เสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลวหลังจากเล่น StarCraft ติดต่อกัน 50 ชั่วโมง
ทั้งหมดนี้คือการสรุปคดีสั้นๆ ที่เกี่ยวกับการเล่นเกมมากเกินไป จนร่างกายรับไม่ไหว นี่ยังไม่นับในบ้านเรา ที่มีหลายคดีเป็นแบบนี้แต่ขอสงวนไว้ ใครที่รู้ตัวว่ากำลังเป็นแบบนี้ให้ลดเสียก่อนที่จะไม่ได้เล่นไปตลอดกาล
– Evan Ramsey กับการโยงให้เกมมาเกี่ยวข้องด้วย
บทความนี้จะขาดความสมบูรณ์ไปในทันที ถ้าเราจะไม่พูดถึงเกมในตำนานตัวพ่อ ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความรุนแรง ที่เมื่อเราพูดถึงความรุนแรง ต้องมีเกม Doom อยู่ในนั้นด้วย ที่เผลอๆข่าวความรุนแรงที่เกี่ยวกับเกม Doom นั้นอาจะบ่อยกว่าเกม GTA เสียด้วยซ้ำ
เพราะเกม Doom จัดเป็นเกมแนวยิงบุคคลที่ 1 (เห็นแต่ปืนกับมือ) เกมแรกๆที่มีชื่อเสียงและมีความสมจริงมากๆในยุคนั้น ที่ผู้เล่นเกมอาจจะอินจนแยกโลกแห่งความจริงกับเกมไม่ออก จนเอาปืนมาไล่ยิงคนอื่น นั่นคือสิ่งที่ตำรวจและศาลคิด รวมถึงกรณีของ Evan Ramsey ที่สุดท้ายก็มีเรื่องเกมมาเกี่ยวด้วย ทั้งที่ดูแล้วมันไม่น่าจะเกี่ยวกันเลย
ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1997 Ramsey ได้ใช้ปืนลูกซองฆ่าอาจารย์ใหญ่และนักเรียนอีกคน รวมถึงผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยภายหลังจากก่อเหตุเรียบร้อย Ramsey พยายามจะฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด แต่สุดท้ายก็ทำไม่ลงและถูกจับในที่สุด ซึ่งเมื่อมีการสืบสวนจึงพบว่า Ramsey นั้นติดเกม Doom เป็นอย่างมาก และปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุ ก็เป็นแบบเดียวกับในเกม
ซึ่งคนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้คือพ่อของเขา และก่อนที่เราจะชี้หน้าด่าว่า Ramsey ติดเกมจนบ้าเรามาดูประวัติของเขาก่อนว่า พ่อแม่ของ Ramsey นั้นติดคุก เขาและพี่น้องต้องไปอยู่บ้านอุปถัมภ์ นอกจากนี้ Ramsey ถูกทารุณกรรมทางเพศอย่างน้อยหนึ่งครั้ง และที่ดูจะเป็นจุดสำคัญที่สุด Ramsey ถูกรังแกอย่างหนักในโรงเรียน และมักจะถูกเรียกด้วยชื่อ spaz, braindead หรือ retard ที่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาก่อเหตุดังกล่าว
ปัจจุบัน Ramsey ถูกศาลตัดสินจำคุก 200 ปีโดยมีโอกาสได้รับทัณฑ์บนในปี 2066 อ่านมาถึงตรงนี้คุณคิดว่าเกม Doom เป็นต้นเหตุรึเปล่า…?
- Alexandra Tobias คุณแม่วัน 22 ฆ่าลูกชายตัวเองเพราะกวนเวลาเล่นเกม
ถ้าคุณได้อ่านข่าวเพียงแค่หัวข้อ คุณคงคิดว่าสาเหตุที่คุณแม่วัย 22 อย่าง Alexandra Tobias ฆ่าลูกน้อยวัย 3 เดือน เพราะร้องเสียงดังรบกวนการเล่นเกม FarmVille ซึ่งจากข้อมูลที่เราได้มานั้น ตัวของ Alexandra ยอมรับว่าเป็นคนสังหารลูกชายของเธอเอง ระหว่างที่กำลังเล่นเกม FarmVille อยู่จริงๆ
แต่เกมไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เธอก่อเหตุ แค่เวลานั้นเธอกำลังเล่นเกม FarmVille อยู่ ถ้าตอนนั้นเธอกำลังทำอาหารหรือกำลังดูทีวี ข่าวคงจะไปในอีกทางไปในทันที และแน่นอนว่าเมื่อคุณอ่านข่าวเพียงหัวข้อ คุณก็จะตีค่าคุณแม่คนนี้ว่าจิตใจโหดเหี้ยมติดเกมจนฆ่าลูก เพราะมาขวางเวลาเล่นเกมอย่างแน่นอน
แต่ถ้าจะให้บอกว่ากรณีของ Alexandra ก็คล้ายๆกับของ Evan Ramsey ที่เรามักจะตีความโดยเอาเกมไปเกี่ยวด้วย โดยที่ยังไม่ได้ติดตามข่าวให้ดี เพราะถ้าเราย้อนกลับไปที่การตัดสินของศาล ตัวของ Alexandra เคยถูกลวงละเมิดทางเพศตั้งแต่เด็ก รวมถึงโรคที่เรียกว่าภาวะซึมเศร้าหลังคลอดที่แม่บางคนเป็น
นี่ยังไม่นับปัญหาชีวิตที่ Alexandra ต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นการหย่าร้าง แผนการเรียนต่อถูกยกเลิกเพราะตั้งท้อง แถมก่อนหน้าเกิดเหตุก็เคยมีคดีความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งทั้งหมดนั้นหล่อหลอมก่อตัวในตัวเธอมาก่อนแล้ว ไม่เกี่ยวกับเกมที่เธอเลยด้วยซ้ำไป ปัจจุบัน Alexandra มีโทษจำคุก 50 ปีสมกับโทษที่เธอได้รับไปแล้ว แม้ว่าเธอจะเสียใจในสิ่งที่ทำไปขนาดไหนก็ตาม
– Rebecca Colleen Christie แม่ทิ้งลูกอดตายเพราะติดเกม World of Warcraft
ถ้าเทียบกับคดีก่อนหน้านี้ของ Alexandra แล้ว คดีของ Rebecca Colleen Christie นั้นสมควรจะโทษว่าเกมว่าคือต้นเหตุอย่างแท้จริง และผู้เป็นแม่สมควรรับโทษของจริงมากกว่าคดีอื่นๆที่เรากล่าวมา เพราะตัวของผู้ก่อเหตุมัวแต่เล่นเกม World of Warcraft จนปล่อยให้ลูกสาววัย 3 ขวบอดอาหารและน้ำตายคาห้องพัก สร้างความหดหูและเสียใจให้กับผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมากในช่วงปี 2009
จากข้อมูลบอกว่า Christie ผู้เป็นแม่นั้นติดเกม World of Warcraft ขนาดหนัก ถึงวันละ 15 ชั่วโมงต่อวัน โดยทิ้งแค่อาหารและน้ำให้เด็ก 3 ขวบในห้องพักทุกวัน โดยที่พ่อของเด็กนั้นเป็นทหารอากาศ ต้องไปประจำการไม่ค่อยได้กลับบ้าน ส่วน Christie ก็มักจะออกไปเล่นเกมนอกบ้าน
จนถึงวันเกิดเหตุ Christie โทรไปหาลูกสาวที่ห้องแต่ไม่มีการรับสาย เมื่อไปถึงก็พบว่าหนูน้อยเสียชีวิตเพราะขาดน้ำและอาหาร ซึ่งจากการชันสูตรศพหนูน้อยต้องกินอาหารแมวประทังชีวิตเลยทีเดียว ซึ่งศาลตัดสินลงโทษจำคุก Christie 25 ปีในข้อหาฆาตกรรมและทารุณกรรมเด็ก
– Eric Harris และ Dylan Klebold กับคดีในตำนานที่เกี่ยวกับวีดีโอเกม
ถ้าจะถามว่าคดีแรกๆที่มีการเอาวีดีโอเกมมาโยงกับความรุนแรง คดีๆแรกๆมาจากไหนเราคงตอบไม่ได้ แต่ถ้าพูดถึงคดีใหญ่และเป็นข่าวไปทั่วโลกคดีแรกๆ ที่มีเกมมาเกี่ยวข้องเราต้องพูดถึงคดีกราดยิงในโรงเรียนมัธยม Columbine ในปี 1999 เป็นเรื่องแรก เพราะตั้งแต่คดีนี้เป็นต้นมา เมื่อเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียน(ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมากๆในอเมริกา) สื่อก็มักจะโยงหรือเอาวีดีโอเกมที่เด็กเหล่านั้นเล่นมาเกี่ยวข้องด้วยตลอด และในกรณีของ Eric Harris และ Dylan Klebold ก็คือเกมเดินยิงในตำนานอย่าง Doom ที่ตกเป็นจำเลยในคดีนี้
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายนปี 1999 Eric Harris และ Dylan Klebold มาที่โรงเรียนมัธยม Columbine ก่อนจะเปิดฉากยิงนักเรียนและอาจารย์เสียชีวิตไป 12 คน ซึ่งจนถึงตอนนี้ทางตำรวจยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด ว่าวัยรุ่นทั้งสองคนนั้นก่อเหตุด้วยสาเหตุอะไร เพราะดูจากประวัติและครอบครัวแล้วเด็กทั้งสองคนก็ไม่ได้ถูกรังแกหรือโดนล่วงละเมิดทางเพศ แบบของผู้ก่อเหตุคนอื่นๆ
แต่สิ่งที่ดูจะมีมูลมากที่สุด ก็น่าจะเป็นความชื่นชอบของคนทั้งสองที่ติดเกม Doom มากๆ โดยเขาทั้งคู่นั้นเล่นเกม Doom ในชื่อ Rebldomakr กับ RebDoomer นอกจากนั้นในเทปบันทึกก่อนเกิดเหตุ Harris ได้เอ่ยถึงความชอบในเกม Doom และบอกว่าสิ่งที่เขาจะทำนั้นเหมือนในเกมเลย ซึ่งเราก็ยังสรุปไม่ได้ว่าเกมมีส่วนรึไม่ เพราะทั้งคู่ฆ่าตัวตายหลังก่อเหตุ
– Anders Breivik กับการสังหารหมู่ 69 คนโดยมีเกมเป็นตัวจำลองการฝึกก่อการร้าย
เรื่องสุดท้ายถือว่าเป็นคดีรุนแรงที่สุดซึ่งเกี่ยวกับวีดีโอเกม ที่เราอยากเอามานำเสนอให้ได้ทราบกัน โดยผู้ก่อเหตุนั้นมีชื่อว่า Anders Breivik ที่เรียกตัวเองว่าผู้ก่อการร้ายชาวนอร์เวย์ ที่อ้างว่าตนเองนั้นฆ่าคนไปกว่า 69 คนในค่ายการเมืองเยาวชนประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2011
โดยเขาอ้างว่าที่เลือกเยาว์ชนเป็นเหยื่อ เพราะเด็กเหล่านี้อนาคตอาจจะเป็นคนที่มาสนับสนุนพรรคแรงงานนอร์เวย์รุ่นต่อไป จึงต้องกำจัดก่อน และจากคำให้การของ Anders เขาชอบเล่นเกม World of Warcraft และ Call of Duty Modern Warfare 2 มากๆ
เขาสารภาพว่าตัวเองเล่นเกม World of Warcraft เพื่อการผ่อนคลายยามว่าง แต่เกม Call of Duty Modern Warfare 2 นั้นเขาใช้เป็นเครื่องจำลองการฝึกของตนเอง โดยใช้อุปกรณ์โฮโลแกรมเพื่อให้การเล่นเกมปรากฏเป็นสามมิติ ซึ่งนาย Anders บอกว่าเกมคือเครื่องมือชั้นดีในการฝึก เมื่อเราต้องไปเจอสถานการณ์จริง ล่าสุดนาย Anders ถูกจำคุก 21 ปี แต่ก็สามารถเพิ่มขึ้นได้อีกจากสำนวนคดีที่เขาก่อเอาไว้ รวมถึงพยานหลักฐานที่จะพบในอนาคต ซึ่งเรากล้าพูดได้เลยว่าชายคนนี้ใช้ประโยชน์ด้านลบของเกมได้อย่างน่ากลัว จนเราในฐานะเกมเมอร์พูดไม่ออกเลยทีเดียว เพราะเกมแนวยิงในยุคนี้มันก็สมจริงอย่างที่ว่าจริงๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวด้านมืดของเกมที่เราเอามานำเสนอ ซึ่งเราในฐานะสื่อเกมก็ไม่ได้อยากจะชี้นำ ว่าเกมคือสิ่งดีงามหรือสิ่งเลวร้าย ที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรห้ามลูกหลานเล่น แต่เวลาเราอ่านสื่อก็ควรจะพยายามตามหาความจริง และอ่านให้ครบก่อนจะตัดสินสิ่งๆหนึ่งว่าถูกหรือผิด
และเราก็ยังคงยืนยันตรงนี้ว่าวีดีโอเกมไม่เคยทำร้ายใคร นอกจากผู้เล่นจะทำร้ายตัวเอง และเอาวีดีโอเกมมาอ้างหรือไม่รู้จักแบ่งเวลาเอง แล้วคุณละอ่านจนจบแล้วคิดเห็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องนี้ก็บอกกันมาได้ และถ้าเป็นไปได้ก็ควรเอาข่าวเหล่านี้ไปให้ผู้ปกครองได้อ่าน จะได้เข้าใจถึงมุมมองของคนเล่นเกมแบบเรา เพื่อให้เขาได้รู้ว่าเกมนั้นไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พวกเขาคิด