10 องค์ประกอบความหลอนที่เกมสยองขวัญต้องมี

10 องค์ประกอบความหลอนที่เกมสยองขวัญต้องมี

10 องค์ประกอบความหลอนที่เกมสยองขวัญต้องมี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อพูดถึงเกมแนวสยองขวัญเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยเล่นผ่านมือกันมาแล้ว ที่ส่วนมากตัวเกมจะเน้นไปที่การเอาตัวรอดของตัวละครในสถานการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่บ้านผีเมืองร้างไร้ผู้คนโลกต่างมิติไปจนถึงบนยานอวกาศก็มี ซึ่งเกมสยองขวัญทั้งหมดที่กล่าวมานั้นมันมักจะมีจุดร่วมเดียวกันอยู่ ที่เกือบทุกเกมนักพัฒนามักจะหยิบยกเอามาใช้กัน และนี่คือ 10 องค์ประกอบโดยรวมที่เกมสยองขวัญที่เกือบทุกเกมมี จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

 

เสียงและเพลงประกอบที่ชวนหลอน

เริ่มต้นสิ่งแรกที่เรียกว่าเป็นตัวสร้างอารมณ์ความกลัวให้เราเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อพูดถึงความสยองขวัญ นั่นคือเสียงและเพลงประกอบในเกม ที่บางครั้งดนตรีก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เรารู้สึกกลัวรู้สึกวังเวงเร้าอารมณ์ขณะเล่น ยกตัวอย่างดนตรีประกอบเพลงในเกม Silent Hill ภาคแรกที่เพียงแค่ฟังดนตรีโดยที่ไม่ต้องเห็นเกมคนที่ได้ฟังต่างก็รู้สึกขนลุกและกลัวขึ้นมาได้ทันที หรืออย่างเกมฝีมือคนไทยอย่าง ARAYA กับ Home Sweet Home ที่ใช้เสียงพระสวดหรือดนตรีไทยที่แม้จะเป็นชาวต่างชาติที่ไม่รู้จักวัฒนธรรมในบ้านเรา ก็คงจะรู้สึกขนลุกอย่างแน่นอน หรือบางครั้งความเงียบที่ไม่มีดนตรีอะไรเลยก็สามารถสร้างความกลัวได้เช่นกัน นี่ยังไม่นับเสียงต่าง ๆ ที่นักพัฒนาใส่มาเช่นเสียงเลื่อยไฟฟ้าใน Resident Evil 4 ที่ครั้งแรกที่เราได้ยินก็รู้สึกขนลุกแล้ว นี่ยังไม่นับเสียงซอมบี้รวมถึงเสียงที่จู่ ๆ ก็ดังออกมาให้เราตกใจอย่างฉากหมาซอมบี้ทะลุกระจกใน Resident Evil ภาคแรก เรียกว่าเสียงและดนตรีประกอบนั้นจัดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เกมสยองขวัญต้องมีและอาจจะมากกว่าเกมแนวอื่นด้วย

 

ตัวละครที่ไร้ทางสู้หรือดูแล้วไม่น่าจะสู้ใครได้

ถ้าใครที่เคยเล่นเกมแนวสยองขวัญบ่อย ๆ จะทราบดีว่าเกมแนวสยองขวัญจะมีระบบหลัก ๆ ที่ต่างกันอยู่ 2 แบบคือ แบบแรกคือเรามีอาวุธในการต่อสู้กับเหล่าผีปีศาจในเกมได้อย่างพวกเกม Silent Hill หรือ Dead Space กับอีกแบบที่เราไม่สามารถสู้กับผีได้อย่าง ARAYA หรือ Outlast ที่ทั้งเกมเราจะต้องหนีกับแอบซ่อนอย่างเดียว ซึ่งทั้งสองแนวนั้นแยกประเภทกันชัดเจนในการเล่น แต่ก็มีอีกแบบที่นักพัฒนาได้สร้างตัวละครที่ดูแล้วไม่น่าจะไปสู้ใครได้อย่างซีรีส์ Fatal Frame ที่เป็นแค่สาวน้อยตัวเล็ก ๆ ที่ต้องสู้กับผีในบ้านร้าง บางเกมก็อาจจะเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาที่ต้องเอาตัวรอดจากผีในเกมที่มีอาวุธครบมือในเกม Siren Blood Curse หรือสาวตาบอดที่ต้องหนีฆาตกรโรคจิตในเกม Perception ที่ไม่ว่าจะดูมุมไหนก็ไม่มีทางสู้กับพวกผีหรือฆาตกรโรคจิตได้เลย ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดที่เพิ่มความน่าสนใจและกดดันผู้เล่นไปอีกแบบ

 

สถานที่ปิดตายหรือเหตุผลที่ไม่ไป

แน่นอนว่าสิ่งที่เกมสยองขวัญทุกเกมพึงมีหรือจะต้องทำนั่นคือการเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบนอวกาศที่เราหนีไปไหนไม่ได้เลยใน AlienIsolation เกาะซอมบี้อย่าง Dead Island หรืออาจจะเป็นโลกที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างบิดเบี้ยวใน The Evil Within ที่เราซึ่งเป็นตัวละครพยายามจะหาทางออกไปจากสถานที่แห่งนั้น แต่มันไม่สามารถออกไปได้ด้วยเหตุผลต่าง ๆ กันไป แต่ก็มีอีกแบบที่ตามเนื้อเรื่องตัวละครสามารถหนีไปได้แต่ไม่หนีเพราะเงื่อนไขหรือเหตุผลที่ต้องอยู่ เช่นเกม Outlast 2 ที่เราต้องตามหาแฟนที่หายไปในหมู่บ้านคนบ้า การตามหาน้องสาวที่ถูกผีลักซ่อนใน Fatal Frame 2 หรือการตามหาลูกสาวที่หายตัวไปในเมืองหมอกห่าผีใน Silent Hill ภาคแรก นี่ยังไม่นับแบบที่ 3 ที่โลกทั้งโลกมันเป็นแบบนั้นอยู่แล้วอย่าง The Last Of Us หรือ Days Gone แต่แบบที่ 3 มักจะไม่ถูกทีมพัฒนาเอามาใช้ เพราะมันจะทำให้ดูหลอนสยองขวัญยากเมื่อเทียบกับ 2 แบบแรกที่เรายกตัวอย่างมา

 

เรื่องราวที่มาที่ไปของความหายนะ

ที่ใดมีควันที่นั่นต้องมีไฟคำกล่าวนี้ใช้ได้ดีกับสิ่งที่เราต้องการบอกได้อย่างชัดเจน เพราะทุกเรื่องราวความสยองขวัญที่เราได้เล่นนั้นมันต้องมีที่มาและที่ไป โดยหลัก ๆ ของเกมแต่ละซีรีส์จะมีเรื่องราวที่ต้องไปเจอเรื่องหลอนต่างกันไป อย่างซีรีส์ Fatal Frame ที่จะเน้นไปที่พิธีกรรมที่ผิดพลาดจนทำให้เกิดหายนะ Silent Hill จะเน้นที่การปลุกพระเจ้าในคราบปีศาจขึ้นมา หรือบางเกมก็อาจจะมีที่มาที่ไปง่าย ๆ อย่างการไปทำข่าวใน Outlast 2 ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะตก การไปสมัครทำงานเป็นยามกะดึกใน Five Nights at Freddy’s หรือแบบซวยสุด ๆ อย่างกำลังเดินห้างคนเยอะ ๆ หรือนอนอยู่ในห้องตัวเองจู่ ๆ ก็ถูกพาไปโลกต่างมิติที่สยองขวัญใน Silent Hill ภาค 3 และ 4  ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานั้นมักจะเริ่มต้นจากสิ่งที่ไม่ดีจนมาลงเอยที่ความสยองขวัญทั้งสิ้น

 

อยู่ถูกที่ถูกเวลาหรือตรงตามเงื่อนไขที่ตัวร้ายกำหนด

ต่อจากหัวข้อที่แล้วที่เมื่อมีที่มาที่ไปของหายนะแล้ว ก็ต้องมีตัวละครที่เราซึ่งเป็นผู้เล่นดันไปอยู่ถูกที่ถูกจุดถูกเวลาที่ตัวร้ายต้องการ อย่างการหลงไปในหมู่บ้านผีสิงของสองพี่น้อง ที่ผีในหมู่บ้านต้องการในฝาแฝดมาทำพิธีเพื่อปลดปล่อยคำสาปพอดีในเกม Fatal Frame 2 หรืออีกแบบคือดวงซวยเพราะอยู่ที่นั่น เช่นการอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์นั้นเลยติดร่างแหในการเจอเรื่องร้าย ๆ ใน Silent Hill 4 The Room หรืออาจจะถูกรับเลี้ยงจากเศรษฐีจนเจอฆาตกรโรคจิตไล่ล่าใน Clock Tower ไปจนถึงแค่เที่ยวบนเรือสำราญก็แล้วเจอฆาตกรโรคจิตใน NightCry ซึ่งคนเหล่านั้นอาจจะเรียกว่าอยู่ถูกที่ถูกเวลา แต่ก็มีอีกแบบที่อาจจะถูกหลอกให้ไปสถานที่แห่งนั้น อย่าง Resident Evil ภาคแรกที่หน่วย S.T.A.R.S. โดนหลอกไปตาย แต่ก็มีหลายเกมที่เลือกจะไปหาหายนะนั่นเองอย่าง Outlast ภาคแรกที่ตัวละครเลือกจะเข้าไปหาข่าวในโรงพยาบาลบ้าร้างที่ต้องเจอแต่คนโรคจิตในนั้น หรืออาจจะไปสืบคดีตามหาเด็กหายกลางป่าต้องห้ามใน Blair Witch ซึ่งทั้งหมดนั้นเรียกว่าอยู่ถูกที่ถูกเวลาทั้งหมด เพราะสุดท้ายเพราะการมาถึงของเรา แผนการต่าง ๆ จึงจบลงหรืออาจจะเกิดขึ้นนั่นเอง

 

การแก้ไขปริศนา

สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้ในเกมแนวสยองขวัญนั่นคือการแก้ไขปริศนาต่าง ๆ ที่นักพัฒนาต้องใส่เข้าไปในเกม ที่ส่วนมากปริศนาในเกมแนวสยองขวัญนั้นจะเป็นแนวการหากุญแจมาเปิดประตู หรือหาสิ่งของมาเพื่อทำอะไรบางอย่างให้เราสามารถไปต่อได้ หรือปริศนาหลาย ๆ อย่างก็เป็นการบอกเนื้อเรื่องในเกมให้เราได้ทราบที่มาที่ไปของเนื้อเรื่องนั้น ๆ แต่ก็มีหลายเกมที่ไม่ได้การแก้ไขปริศนาแต่จะเน้นที่การหนีเอาตัวรอดเพียงอย่างเดียว ซึ่งเกมที่ใช้เนื้อเรื่องแบบนั้นก็มีไม่มากและมักจะเป็นเกมง่าย ๆ อย่าง Five Nights at Freddy’s เพราะการแก้ไขปริศนาคือความสนุกและตื่นเต้นของเกม ยิ่งบางปริศนาต้องวิ่งหนีหรือมีเวลาเป็นตัวกำหนดความเป็นความตายจะยิ่งทำให้ผู้เล่นอย่างเราลุ้นและรนมากกว่าการแก้ไขปริศนาแบบปกติอีกด้วย

 

เหยื่อผู้ร่วมชะตากรรมคนอื่น

แน่นอนว่านอกจากเราที่ต้องตกเป็นเหยื่อที่อยู่ถูกที่ถูกเวลาแล้ว ในบางเกมก็ยังมีตัวละครคนอื่น ๆ ที่อยู่ผิดที่ผิดเวลาแบบเราอยู่ด้วย แต่เขาอาจจะไม่โชคดีแบบเราอย่างเหยื่อหลาย ๆ คนในเกม Silent Hill 4 The Room ที่เราแทบจะช่วยใครไม่ได้เลย หรืออาจจะเป็นลูกน้องของ Chris Redfield ใน Resident Evil ภาคต่าง ๆ ที่มักจะเป็นเหยื่อของศัตรูอยู่บ่อย ๆ แต่บางเกมเราก็อาจจะได้ควบคุมเป็นเขาหรือเธอ และการรอดตายหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเราอย่างเกม The Dark Pictures หรือ Until Dawn แต่ส่วนมากเหยื่อคนอื่นที่อยู่ในเกมนั้นมักจะไม่ค่อยรอดกัน จะมีอยู่บางเกมที่รอดตายหรืออาจจะมาเป็นคู่หูเราอย่างตำรวจสาว Cybil Bennett ใน Silent Hill 1 ที่นับฉากจบที่แท้จริงเธอจะต้องรอดชีวิตไปพร้อมกับเรา หรืออีกหลาย ๆ เกมที่เป็นแบบนั้น แต่ส่วนมากตัวละครเหล่านี้จะเป็นเหยื่อที่ตายให้เราเห็นเสียมากกว่า ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็นายตำรวจที่ให้มีดพกเราใน Resident Evil 7 เป็นต้น

 

คนมาช่วยชี้ทางกับคู่หูเพื่อนร่วมทางที่อาจไม่ใช่คน

อันนี้อาจจะไม่ได้เป็นทุกเกมที่เราจะมีคู่หูหรือคนชี้ทางที่คอยบอกเราว่าควรทำอะไรต่อไป แต่บางเกมก็ต้องมียกตัวอย่างป้า Dahlia Gillespie ในเกม Silent Hill ภาคแรกที่คอยบอกทางเราว่าต้องไปที่ไหน หรือ Zoe ใน Resident Evil 7 ที่ถ้าไม่มีเธอเราคงจะหายากแก้ไวรัสและคงไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนต่อ ขณะที่ระบบคู่หูนั้นหลายเกมก็ไม่ได้เอาระบบนี้มาใช้ เพราะถ้ามีคู่หูเกมอาจจะดูไม่สนุกและลดความน่ากลัวลงไปอย่าง Resident Evil 0 หรือ Dead Space 3 แต่หลายเกมก็ยังมีระบบคู่หูแต่คู่หูอาจจะอยู่กับเราในช่วงสั้น ๆ ก่อนจะแยกทางกัน แต่บางเกมก็มีคู่หูที่อยู่กับเราตลอดทั้งเกมแต่ไม่ใช่คน อย่างเกม Haunting Ground ที่เราจะมีน้องหมา Hewie เป็นคู่หูในการเอาตัวรอดจากคฤหาสน์สยองขวัญ หรือเกม Blair Witch ที่เราจะมีน้องหมา Bullet เป็นผู้ช่วยในการไขปริศนาต่าง ๆ จนเรากล้าพูดว่าน้องหมา Bullet ในเกมนี้คือตัวแบกของเกมเลยทีเดียว

 

เป้าหมายเงื่อนไขที่เราต้องอยู่ที่แห่งนั้นต่อ

หัวข้อนี้จะเป็นการขยายความจากหัวข้อสถานที่ปิดตายหรือเหตุผลที่ไม่ไป เพราะเกมหลาย ๆ เกมที่เราได้เล่นนั้นต้องมีเนื้อเรื่องหรือเป้าหมายที่ตัวละครต้องไปต้องทำ แต่หลัก ๆ มักจะเป็นการหนีออกมาจากสถานที่นั้น ๆ เพื่อเอาตัวรอด แต่ก็มีหลายเกมที่มีเหตุผลอื่นในการอยู่สถานที่แห่งนั้นต่อที่นอกเหนือจากการเอาตัวรอด อย่างการค้นหาความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองอยากรู้อย่างเกม Fatal Frame Mask of the Lunar Eclipse ที่เหล่าตัวเอกที่มายังเกาะร้างเพื่อค้นหาความจริงและอดีตของตนเอง หรืออาจจะเป็นการช่วยเหลือคนสำคัญอย่างการตามหาเพื่อนในโรงพยาบาลของมาริสา กับการล่าท้าผีของบุญที่ถูกท้าให้เข้ามาในโรงพยาบาลคนเดียวในเกม ARAYA การตามหาเด็กหายใน Blair Witch หรือตามลูกใน Silent Hill ภาคแรก ไปจนถึงความกลัวจะโดนไล่ออกจนต้องอยู่ทำงานจนถึงเช้าใน Five Nights at Freddy’s  ซึ่งทุกเงื่อนไขที่เกมมีให้นั้นก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เราต้องอยู่ในสถานที่แห่งนั้นต่อ ซึ่งบางเกมก็ดูไม่สมเหตุสมผลแต่หลายเกมก็มีน้ำหนักมากพอที่เราจะต้องอยู่ต่อ ซึ่งเรื่องตรงนี้ก็เป็นจุดอ่อนที่ถ้าเหตุผลไม่มีน้ำหนักพอให้ตัวละครต้องอยู่ต่อ คนเล่นก็จะไม่อินจนเกมขาดความน่าสนใจไปในทันที นักพัฒนาจึงมักจะแต่งเรื่องโดยเน้นไปทางการเอาตัวรอดจากสถานที่แห่งนั้นเสียมากกว่า ซึ่งเราจะเห็นได้จากเกมสยองขวัญหลาย ๆ ที่มักจะเอามาใช้

 

สิ่งของอุปกรณ์ในการเอาตัวรอด

ปิดท้ายด้วยเรื่องของอุปกรณ์หรือสิ่งของในเกมที่เรามีซึ่งมันสามารถช่วยเราในการเอาตัวรอดได้ ที่นอกจากปืนแล้วก็ยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอย่างไฟฉายในที่เอาไว้ไล่ผีใน Alan Wake กับ Blair Witch กล้องถ่ายรูปสู้ผีใน Fatal Frame ขณะที่บางอย่างก็ไม่ใช่อุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้สู้กับผีแต่เป็นการเตือนหรือช่วยเราในการเล่น เช่นกล้องวีดีโอของเราในเกม Outlast ที่สามารถถ่ายในโหมดกลางคืนเป็นการช่วยมองในจุดที่เรามองไม่เห็นได้ นอกจากนั้นก็มีวิทยุจากเกม Silent Hill ที่เอาไว้แจ้งเตือนเวลาที่มีศัตรูอยู่ใกล้ ๆ หรืออาจจะเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากอย่างตู้เก็บของโอ่งที่เราเอาไว้แอบผีใน Home Sweet Home ก็นับเป็นอุปกรณ์ในการเอาตัวรอดอย่างหนึ่งเช่นกัน

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 เรื่องราวที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่เกมสยองขวัญต้องมี โดยเราพยายามอ้างอิงจากหลาย ๆ เกมในตลาด ที่มักจะหยิบยกองค์ประกอบเหล่านี้ใส่ลงไปในเกม  ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมานั้นมันคือส่วนสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับเกมแนวนี้ เพราะถ้าขาดหลาย ๆ อย่างที่เราได้บอกในบทความนี้ไป ตัวเกมสยองขวัญก็จะขาดความน่ากลัวไปในทันที ซึ่งเราคงจะได้เห็นมาแล้วในเกมสยองขวัญหลาย ๆ เกมที่เปลี่ยนแปลงตัวเองและตัดองค์ประกอบที่เคยมีในบทความนี้ไป จนกลายเป็นเกมที่ขาดความน่ากลัวไปในที่สุด และถ้าใครมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกก็บอกกันมาได้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดกัน ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็ติดตามกันได้

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook